ตามพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ หน้าที่ที่สำคัญมากประการหนึ่งของคริสตจักรท้องถิ่นคือ การเตรียมและเสริมสร้างธรรมิกชนให้เป็นผู้ที่ปรนนิบัติรับใช้พระคริสต์ในสังคมโลกปัจจุบัน และร่วมในพันธกิจการเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้แข็งแรง และมีประสิทธิภาพตามพระประสงค์มากขึ้น
“เพื่อเตรียมธรรมิกชนสำหรับการปรนนิบัติและการเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์”
(เอเฟซัส 4:12 มตฐ.)
แต่ในความเป็นจริง มิใช่ทุกคริสตจักรที่เลี้ยงดู บ่มเพาะ เสริมสร้างสมาชิกของตนตามเป้าหมายแห่งพระประสงค์ของพระคริสต์
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า คริสตจักรของเรามีการเตรียม เลี้ยงดู บ่มเพาะ
เสริมสร้างสมาชิกตามเป้าหมายข้างต้นหรือไม่?
ต่อไปนี้เป็นตัวชี้วัด
14 ประการที่สามารถใช้ในการประเมินชีวิตและพันธกิจของแต่ละคริสตจักรท้องถิ่นว่า
เป็นคริสตจักรที่มีคุณลักษณะในการในการเลี้ยงดู บ่มเพาะ
เสริมสร้างสมาชิกให้เป็นผู้ปรนนิบัติรับใช้
และร่วมกันเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้แข็งแรง และ
มีประสิทธิภาพตามพระประสงค์มากน้อยแค่ไหน
1. เป็นคริสตจักรที่คาดหวังว่าสมาชิกทุกคนในพระกายของพระคริสต์จะเป็นคนรับใช้ด้วยความสามารถด้านใดด้านหนึ่งที่ตนมีศักยภาพ
โดยคริสตจักรมีกระบวนการฝึกฝนสมาชิกแต่ละคนให้ใช้ศักยภาพที่ตนมีอยู่รับใช้ในงานพันธกิจคริสตจักร
2. ศิษยาภิบาลจะเป็นพี่เลี้ยงของผู้นำ
2-3 คนในแต่ละครั้ง เพื่อสร้างเสริมและฝึกฝนพวกเขาให้สามารถทำพันธกิจใดพันธกิจหนึ่ง
และมอบหมายให้เขาออกไปทำพันธกิจนั้น ๆ ตามที่ได้รับการฝึกฝน (มิใช่เปิดชั้นเรียน
มีสมาชิกมาเรียน แต่เรียนแล้วไม่มีใครรับใช้)
3. สมาชิกคริสตจักรแต่ละคนได้รับการฝึกฝนเตรียมพร้อมให้เป็นพยานถึงพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์
และได้รับการท้าทายให้เข้าไปเป็นพยานถึงพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ในชุมชน-เพื่อนบ้านข้างเคียง
และ พื้นที่ที่ตนทำงานประจำวัน
4. คริสตจักรมีวิธีการ
กระบวนการ เครื่องมือ ในการฝึกอบรมเสริมสร้างสมาชิกให้ออกไปเป็นพยานชีวิตถึงพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์
โดยสมาชิกเหล่านี้ต่างได้ออกไปเป็นพยานชีวิตและนำผู้เชื่อใหม่เข้ามาร่วมในคริสตจักร
และรับการเลี้ยงดูเสริมสร้างให้มีวุฒิภาวะในชีวิตแห่งความเชื่อต่อไป
5. ผู้เชื่อใหม่แต่ละคนจะมีพี่เลี้ยงที่เคียงข้างชีวิตของเขาเพื่อคอยหนุนเสริม
เมื่อผู้เชื่อใหม่เริ่มต้นในการดำเนินชีวิตบนเส้นทางชีวิตของพระเยซูคริสต์
6. สมาชิกที่มีศักยภาพในการสื่อสารสั่งสอน
จะได้รับการเสริมสร้างฝึกฝนให้มีความสามารถในการสื่อสารสั่งสอน และได้รับมอบหมายให้เป็นผู้สอนในคริสตจักร
7. ผู้นำที่สอนถึงหลักการความเชื่อตามพระคัมภีร์
จะเน้นย้ำถึงวิธีการและแนวทางการใช้หลักข้อเชื่อแต่ละข้อในการปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน
8. ผู้นำที่ผ่านการฝึกอบรมให้มีความสามารถในการสื่อสารสั่งสอน
จะทำหน้าที่ในการสอนในกลุ่มต่าง ๆ ที่กำหนด โดยผลัดเปลี่ยนกับผู้นำในการสื่อสารสั่งสอนคนอื่น
ๆ พร้อมกันนั้นจะเสริมสร้างคนใหม่ ๆ ให้มีความสามารถในการสื่อสารสั่งสอนต่อไปด้วย
9. คณะนักร้องสรรเสริญพระเจ้า
จะได้รับการเรียนรู้ ฝึกฝนจนมีทักษะในด้านการดนตรีและการขับร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า
และนำเพื่อนสมาชิกเข้าร่วมสรรเสริญพระเจ้าด้วยกัน
10. ผู้ที่เข้าร่วมในการนมัสการพระเจ้าได้เรียนรู้ถึงการนมัสการพระเจ้าที่แท้จริง
และ ได้รับการนำเข้าสู่การนมัสการพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณและความจริง
11. สมาชิกคริสตจักรทุกคนได้รับการสอนสร้างให้มีวินัยชีวิตจิตวิญญาณ
คริสตจักรท้าทายให้สมาชิกทุกคนดำเนินชีวิตตามวินัยชีวิตจิตวิญญาณดังกล่าว
12. มัคนายกได้รับการฝึกฝนทักษะการดูแลเอาใจใส่และรับผิดชอบในการทำพันธกิจการรับใช้ในด้านต่าง
ๆ
13. ศิษยาภิบาล
และ คณะผู้อภิบาลจะต้องรับผิดชอบต่อการเจริญเติบโตด้านจิตวิญญาณของตนเอง รวมถึงการดำเนินชีวิต
และในการทำพันธกิจ
14. มีการประเมินผลถึงกระบวนการเสริมสร้างฝึกฝนชีวิตจิตวิญญาณสมาชิกของคริสตจักร
และจะต้องมีการประเมินผลอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น