แทนที่มัวแต่คิดที่จะทำอะไรต่อมิอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงเสริมสร้างคนอื่น แต่ให้เราเปลี่ยนมุมมองใหม่ให้เป็นการเริ่มคิดเริ่มทำในการเปลี่ยนแปลงเสริมสร้างชีวิตจิตวิญญาณของตนเองก่อน โดยมุ่งเน้นที่ตนจะรับการเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างจากพระคริสต์ภายในชีวิตของเราให้เป็นสาวกของพระองค์ เริ่มต้นที่รับการทรงเสริมสร้างให้ตนเองเป็นสาวกพระคริสต์ และใส่ใจที่จะฟูมฟัก ฝึกฝน ให้จิตวิญญาณของตนมีพลังเข้มแข็งเพื่อที่พร้อมรับใช้คนอื่นในพระนามของพระคริสต์
ข้อเขียนตอนนี้เป็นการนำเสนอ
5 ขั้นตอนของการมุ่งมั่นตั้งใจของผู้นำคริสตจักร
ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 2 และ 3
2. ยืนหยัดมุ่งเน้นให้ชีวิตของตนเป็นสาวกของพระคริสต์อย่างแท้จริง
คุณภาพชีวิตการเป็นสาวกพระคริสต์ในตัวผู้นำคริสตจักรมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตคริสตจักร
เพราะเราไม่สามารถที่จะนำคนอื่นมาเป็นสาวกพระคริสต์
ถ้าเรายังไม่มีชีวิตประจำวันที่สำแดงถึงชีวิตที่เป็นสาวกของพระคริสต์อย่างแท้จริง
ชีวิตที่เป็นสาวกพระคริสต์จะต้องเดินเคียงคู่ไปกับองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์
และ มีชีวิตตามพระวจนะของพระเจ้า ชีวิตของคน ๆ นั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงให้มีชีวิตเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวัน
สำหรับในฐานผู้นำ
ในการสำแดงภาพลักษณ์ของพระเยซูคริสต์ผ่านชีวิตของเราคือ
การที่เรารักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจ สิ้นสุดความคิด จิตวิญญาณ
และด้วยสุดกำลังชีวิตของเรา และรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง
ยิ่งชีวิตประจำวันของเรามีชีวิตการเป็นสาวกพระคริสต์มากเท่าใด
เรายิ่งจำเริญขึ้นในความรักเมตตาของพระคริสต์มากแค่นั้น ความรักเมตตานี้เป็นเหมือนผลของพระวิญญาณ
ผลของความรักเมตตาคือความอดทน ความเมตตา การบังคับตน ความเชื่อที่สัตย์ซื่อ มีชีวิตทุกแง่มุมที่งดงามในทุกด้าน
เราต้องร่วมกับพระวิญญาณบริสุทธิ์
เราต้องบ่มเพาะปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ให้งอกงามในชีวิตประจำวันของเราก่อน สิ่งเหล่านี้เป็นของขวัญอันล้ำค่าที่เราสามารถให้แก่คนในครอบครัว ในคริสตจักร ในสังคม
และคนที่เราพบเห็นในแต่ละวัน
3. มุ่งมั่นใส่ใจจิตวิญญาณของทีมผู้นำของคริสตจักร
แทนการมุ่งสนใจในผลงานที่เกิดขึ้น
คริสตจักรควรมีกำหนดช่วงเวลาชัดเจนที่ผู้นำจะมาพบปะกันเป็นประจำ
“สำหรับรับการเปลี่ยนแปลงเสริมสร้าง” ชีวิตจิตวิญญาณให้เติบโต เข้มแข็ง และเกิดผล ในการพบปะกันเช่นนี้ยังเปิดกว้างสำหรับคนที่ทำพันธกิจต่าง
ๆ ในชุมชนที่จะเข้าร่วมด้วย ด้วยกระบวนการนี้จะหนุนเสริมให้บรรดาทีมผู้นำของคริสตจักรเข้มแข็งขึ้นในด้านจิตวิญญาณ
และคนทำงานพันธกิจที่เข้ามาร่วมก็จะเติบโตเข้มแข็งขึ้นและเข้ามาร่วมในทีมผู้นำคริสตจักรในเวลาต่อมา
สิ่งสำคัญที่คริสตจักรไม่ควรมองข้ามคือ
คริสตจักรควรมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่ชัดเจนและยึดถือดำเนินการสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง
ในการมีช่วงเวลาเสริมสร้างคุณภาพชีวิตการเป็นสาวกพระคริสต์ในบรรดาทีมผู้นำของคริสตจักร
มิใช่มุ่งที่จะพัฒนาเพื่อให้ทำพันธกิจให้เกิดผลตามที่กำหนดเท่านั้น ที่ผ่านมาเรามุ่งแต่สร้างชีวิตสาวกพระคริสต์ในบรรดาผู้เชื่อใหม่
หรือ สมาชิกใหม่
แต่ละเลยที่จะเปลี่ยนแปลง และ
เสริมสร้างชีวิตผู้นำของคริสตจักรให้มีคุณภาพชีวิตการเป็นสาวกพระคริสต์ที่เติบโตและเกิดผล
การที่ผู้นำคริสตจักรมุ่งมั่นอุทิศทุ่มเทในการทำพันธกิจรับใช้ให้งานเกิดผลตามกำหนด
แต่ชีวิตมิได้เติบโตขึ้นในการเป็นสาวกของพระคริสต์นั่นเป็นความล้มเหลวอย่างยิ่ง ชีวิตที่เป็นสาวกพระคริสต์
เป็นชีวิตที่เลียนแบบลักษณะชีวิตของพระคริสต์ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งและเกิดผล
บ่อยครั้ง
คริสตจักรใส่ใจแต่ความสามารถในการทำพันธกิจมากกว่าคุณลักษณะของชีวิตผู้นำ คริสตจักรต้องพัฒนาผู้นำคริสตจักรที่มีบุคลิกคุณลักษณะแบบพระคริสต์
และ มีความสามารถในการทำตามแบบอย่างของพระองค์
ดังนั้น คุณภาพชีวิตสาวกพระคริสต์ในตัวผู้นำ
และ อาสาสมัครของคริสตจักรจะต้องมาก่อนความสามารถในการทำพันธกิจ
และนี่เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากที่คริสตจักรต้องใส่ใจ
(จะนำเสนอข้อเขียนตอนต่อไปในครั้งหน้า)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น