07 เมษายน 2564

สงสัยพระเจ้า...ผิดด้วยหรือ?

ความสงสัยไม่ได้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคน ๆ นั้นผิดปกติในความเชื่อเสมอไป อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขากำลังครุ่นคิด  ตรวจสอบ แสวงหาความจริงก็ได้

หากใครก็ตามที่ยากจะตกลงปลงใจเชื่อว่า มีพระเจ้าในสากลจักรวาลที่รักเมตตาเราทุกคน   คน ๆ นั้นก็คงลำบากใจที่จะเชื่อว่า พระเจ้ามีแผนการที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตของเขา  ความสงสัยในทำนองนี้เกิดขึ้นแม้แต่คนที่เป็นสาวกที่เดินตามหลังพระคริสต์ไปในที่ต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน

สาวกขี้สงสัยคนหนึ่งของพระเยซู   ที่เรารู้จักเขาในนามว่า โธมัสผู้สงสัย ภายหลังจากที่พระเยซูคริสต์เป็นขึ้นจากความตาย และสาวกหลายต่อหลายคนบอกโธมัสว่า พวกเขาพบพระเยซูที่เป็นขึ้นจากความตายแล้ว แต่โธมัสบอกว่า เขาจะไม่เชื่อจนกว่าเขาจะได้เห็นพระองค์ด้วยตาของเขาเอง แล้วเอานิ้วแยงเข้าไปที่รูที่ถูกตอกตะปูที่ฝ่ามือ  และบาดแผลที่ถูกแทงด้วยหอกที่สีข้าง (ยอห์น 20:25)

ต่อมาเมื่อพวกสาวกรวมตัวอยู่ด้วยกัน  และโธมัสก็อยู่ร่วมกับพวกสาวกด้วย พระเยซูคริสต์ได้มาปรากฏแก่สาวก และ พระองค์พูดกับโธมัสว่า “เอานิ้วของท่านแยงที่นี่ และดูที่มือของเรา ยื่นมือของท่านออกมาคลำที่สีข้างของเรา อย่าสงสัยเลย แต่จงเชื่อ” (ข้อ 27)

โธมัสทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์” (ข้อ 28) โธมัสไม่ต้องการที่จะรู้อะไรมากกว่าที่สาวกคนอื่น ๆ รู้ เพียงแต่เขาต้องการที่จะรู้ความจริงนี้ด้วยตัวของเขาเอง   มิใช่เชื่อตามที่คนอื่นบอก หรือ เล่าให้ฟัง เขาต้องการมีประสบการณ์ตรงกับพระเยซูคริสต์ที่เป็นขึ้นจากความตายด้วยตัวของเขาเอง 

ดังนั้น จึงไม่แปลก หรือ ผิดปกติอะไรเลยที่เราจะเข้าหาพระเยซูคริสต์ด้วยยังไม่เชื่อ เข้าหาพระองค์ด้วยความสงสัย  และแม้แต่คนที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้าก็สามารถที่จะเข้าหาพระเยซูคริสต์ได้ อย่างเรื่องราวจากชีวิตจริงของหลายคนในหนังสือ “ถ้าพระเจ้ามีจริง ขอให้...” อรัญ ยูแบงค์ เขียน  ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง ถอดความและเรียบเรียงเป็นภาษาไทย (พิมพ์ครั้งที่ 5)

แต่ที่แน่ ๆ คือ ท่านไม่สามารถที่จะมีความเชื่อด้วยความเชื่อของคนอื่น แต่ท่านสามารถที่พบเผชิญหน้ากับองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วถามตรงด้วยความจริงใจว่า “ผมยังมีปัญหาคาใจ/สงสัยในเรื่องนี้...” ขอช่วยชี้นำ สำแดง เพื่อข้าพระองค์จะเชื่อในพระองค์”

บางคนอาจจะกล่าวว่า “ขอพระองค์สำแดงพระองค์แก่ข้าพระองค์  แล้วข้าพระองค์จะได้เชื่อในพระองค์”

แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยืนยันอย่างหนักแน่นว่า “ท่านจงเปิดใจที่ต้องการเชื่อก่อน แล้วเราจะสำแดงให้ท่านเห็น”

ท่านสามารถที่จะเปลี่ยนจากความเคลือบแคลงใจไปสู่ความความศรัทธา เปลี่ยนความสงสัยไปสู่ความเชื่อ

พระเยซูตรัสกับโธมัสว่า
     “เพราะท่านเห็นเราท่านจึงเชื่อหรือ?
     คนที่ไม่เห็นเราแต่เชื่อก็เป็นสุข”
                           (ยอห์น 20:29 มตฐ.)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น