07 ธันวาคม 2554

คำอธิษฐานในภาวะที่กดดัน (3)

เตรียมรับเสด็จพระคริสต์ภายในชีวิต ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทย

อ่านกิตติคุณลูกา 22:39-46

ข้าแต่พระบิดา
ถ้าพระองค์พอพระทัยขอทรงเอาถ้วยนี้ไปจากข้าพระองค์
อย่างไรก็ตามอย่าให้เป็นไปตามใจของข้าพระองค์
แต่ให้สำเร็จดังพระประสงค์ของพระองค์
(ลูกา 22:42 อมตธรรม)


เมื่อพระเยซูคริสต์อธิษฐานในสวนเกทเสมนี พระองค์ทูลขอต่อพระบิดาว่า “ถ้าพระองค์พอพระทัยขอทรงเอาถ้วยนี้ไปจากข้าพระองค์” (22:42) แล้ว “ถ้วย” ที่พระองค์อธิษฐานนี้หมายถึงอะไรกันแน่?

แน่นอนว่า “ถ้วย” ที่พระเยซูคริสต์กล่าวถึงในตอนนี้มีความหมายที่เกี่ยวข้องกับ “ถ้วยแห่งการทนทุกข์” แต่ความหมายของ “ถ้วยแห่งการทนทุกข์” ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมดูเหมือนว่าไม่ได้ตรงตามความหมายของพระเยซูเสียทั้งหมด

ถ้าเราศึกษาจากพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม เราได้พบมีการเปรียบเทียบ “ถ้วย” เป็นเหมือนชีวิตของคนเรา ที่ได้รับการเติมเต็มด้วยสิ่งต่างๆ “ถ้วย” ชีวิตของเราอาจจะได้รับการเติมเต็มด้วยพระพรและความรอด (สดุดี 23:5 “...ถ้วยของข้าพระองค์ก็ล้นอยู่” ; 116:13 “ข้าพเจ้าจะยกถ้วยแห่งความรอด และร้องออกพระนามพระยาเวห์” ) หรือ “ถ้วย” ชีวิตนั้นอาจจะถูกใส่ด้วยพระพิโรธ “...เยรูซาเล็มเอ๋ย ท่านผู้ได้ดื่มจากพระหัตถ์ของพระยาเวห์ คือจอกแห่งพระพิโรธของพระองค์ ท่านได้ดื่มจากถ้วยแห่งความโซเซจนถึงก้นตะกอน” (อิสยาห์ 51:17) บ่อยครั้งที่ “ถ้วย” มุ่งหมายถึงการพิพากษาของพระเจ้า ดั่งในอิสยาห์ 51:17 ที่กล่าวข้างต้น หลายครั้ง ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมจะเปรียบ “ถ้วย” กับการพิพากษาที่ร้อนแรงจากพระเจ้า

ดังนั้น เมื่อพระเยซูคริสต์อธิษฐานขอให้พระบิดา “เอาถ้วยนี้ออกไป” พระองค์หมายถึงความหมายของถ้วยในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม การที่พระองค์ก้าวเดินไปสู่กางเขน พระองค์กำลังจะดื่มจากถ้วยแห่งพระพิโรธของพระเจ้า และการดื่มนี้ดื่มจนถึง “ก้นตะกอน” พระองค์ต้องแบกรับเอาการพิพากษาจากเบื้องบน แท้จริงแล้วเป็นการพิพากษาที่อิสราเอลและมวลมนุษยชาติต้องแบกรับการพิพากษาของตนนั้น ในกระบวนการนี้พระองค์ต้องรับการทนทุกข์อย่างน่าขนพองสยองเกล้า ทั้งในมิติด้านร่างกาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านจิตวิญญาณ เมื่อพระองค์ต้องตกลงในสภาพที่ถูกแยกขาดจากพระบิดา

เมื่ออ่านถึงเรื่องราวตอนนี้ของพระเยซู คริสเตียนหลายคนไม่สบายใจว่า ทำไมพระเยซูถึงอธิษฐานขอให้พระบิดานำ “ถ้วย” นี้ไปเสียจากพระองค์ แท้ที่จริงแล้วพระเยซูคริสต์เสด็จมาเพื่อจะตายมิใช่หรือ? และนี่ไม่ใช่พันธกิจที่พระองค์ต้องกระทำหรือ? นี่เป็นไปตามคำของผู้เผยพระวจนะใช่ไหม? เป็นไปได้อย่างไรที่พระเยซูทูลขอพระบิดาสำหรับทางออกในแนวทางอื่น? ผมเองก็ไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้จนจุใจพอใจของผู้ถาม แต่สิ่งที่ผมเห็นจากคำอธิษฐานของพระเยซูนี้ทำให้ผมเห็นถึงความเป็นมนุษย์แท้ของพระเยซูคริสต์ พระองค์ที่เป็นพระบุตรของพระเจ้าและในขณะเดียวกันก็เป็นมนุษย์อย่างเต็มตัว

สิ่งที่ผมเห็นพระเยซูคริสต์ในตอนนี้คือชีวิตตกอยู่ในภาวะความกดดัน ในภาวะที่ต้องการหาทางออก ภาวะที่เห็นความทุกข์ทรมาน เจ็บปวด และความตายที่รออยู่ข้างหน้า เป็นเส้นทางที่จะต้องเดินไป แต่มีทางอื่นไหมที่ดีกว่านี้ที่พระองค์จะเลือกได้ ถ้าไม่ไปบนเส้นทางนี้ พระบิดามีเส้นทางอื่นไหม? แต่นี่คือการถามตรงด้วยความจริงใจที่เปิดใจออกในการสนทนาอย่างใกล้ชิดสนิทที่พระคริสต์มีต่อพระบิดา

อีกประเด็นหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้จากพระเยซูคริสต์ในตอนนี้คือ พระองค์เป็นมนุษย์อย่างเต็มตัว พระองค์เผชิญหน้ากับความทุกข์ที่น่าสะพรึงกลัว ที่ผมสบายใจที่จะติดต่อสัมพันธ์กับพระองค์ และทำให้ผมมีความหวังในชีวิตว่าสิ่งสำคัญยิ่งใหญ่ตามพระประสงค์ของพระเจ้าสามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตคนธรรมดาอย่างเราท่าน เพราะพระประสงค์ที่ยิ่งใหญ่สำคัญได้เกิดเป็นจริงแล้วในพระเยซูคริสต์ที่เป็นมนุษย์แท้ ที่มิใช่เป็นคนประเภทเหนือมนุษย์ หรือ ซุปเปอร์แมน แต่สิ่งเราพบเห็นคือพระเยซูคริสต์ก้าวเดินเข้าไปสู่กางเขนอย่างไม่ลังเล หรือ เตรียมทางหลีกลี้ แม้แต่น้อย แต่สิ่งที่พระองค์ถามหาในวิกฤติชีวิตเช่นนี้คือ พระประสงค์ของพระเจ้า

ประเด็นเพื่อการใคร่ครวญและอภิปราย

1. ในเมื่อผู้เผยพระวจนะได้ทำนายถึงการทนทุกข์และความตายของพระเยซูคริสต์แล้ว ท่านคิดว่าทำไมพระเยซูถึงอธิษฐานขอให้พระบิดา “เอาถ้วยนี้ไปจากพระองค์”?

2. คำทูลขอของพระเยซูคริสต์ได้บ่งบอกถึงลักษณะของพระเยซูคริสต์อย่างไรบ้าง?

3. พระคัมภีร์ตอนนี้ได้ชี้ให้เราเห็นถึงการอธิษฐานไว้อย่างไรบ้าง?

ใคร่ครวญภาวนา

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ท่ามกลางภาวะกดดันในชีวิต พระองค์เลือกที่จะหันหน้าเข้าหาพระบิดา เปิดชีวิตจิตใจ เทใจและชีวิต เปิดเผยทั้งความคิด ความรู้สึก ความปรารถนา และความตั้งใจต่อพระบิดาอย่างไม่ปิดบังสิ่งใดไว้ และนี่คือการอธิษฐานของพระองค์

ขอบพระคุณพระเยซูคริสต์ ที่ทำให้ข้าพระองค์ได้เรียนรู้และเข้าใจว่า แท้จริงแล้วการอธิษฐานคือการบอกความในใจกับพระองค์อย่างตรงไปตรงมา แต่สำคัญกว่านั้น ข้าพระองค์เข้าใจมากขึ้นว่า แท้จริงแล้วการอธิษฐานคือโอกาสแห่งการแสวงหาพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของข้าพระองค์

ในวันนี้ ท่ามกลางชีวิตที่กดดัน ทุกข์ยาก นานาลักษณะ โปรดช่วยให้ข้าพระองค์เผชิญหน้าสิ่งเหล่านั้นสอดคล้องตามพระประสงค์ของพระองค์ ด้วยการได้รับการทรงชูช่วยและพระกำลังจากพระองค์ ทั้งสิ้นนี้ขอให้สำเร็จดังพระประสงค์ของพระองค์ อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
089-2628-310

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น