28 ธันวาคม 2554

หัวใจพระกิตติคุณ...การทรงอภัยจากเบื้องบน

หลังเทศกาลคริสต์มาส และ การเข้าสู่ปีใหม่ ให้เราใคร่ครวญถึงหัวใจของพระกิตติคุณ

อ่านเยเรมีย์ 31:31-34

“...ทุกคนจะไม่สอนเพื่อนบ้านและพี่น้องของตนแต่ละคนอีกว่า
“จงรู้จักพระยาเวห์” เพราะเขาทุกคนจะรู้จักเราตั้งแต่คนเล็กน้อยที่สุดถึงคนใหญ่โตที่สุด”
พระยาเวห์ตรัสดังนี้แหละ
“เพราะเราจะอภัยความบาปผิดของเขา และจะไม่จดจำบาปของเขาอีกต่อไป”
(เยเรมีย์ 31:34 ฉบับมาตรฐาน)

ในเทศกาลการเตรียมการเสด็จ เป็นการเตรียมการเฉลิมฉลองที่พระคริสต์เสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ในเทศกาลคริสต์มาสตามปฏิทินคริสตจักร และเป็นเวลาที่เราจะใคร่ครวญถึงชีวิตที่จะรับเอาพระประสงค์ของพระเจ้าเข้าในชีวิตของเราแต่ละคน เฉกเช่นพวกอิสราเอลที่เคยรอคอยการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ และเราเตรียมชีวิตของเราให้พร้อมที่จะรับการเสด็จมาครั้งที่สองตามพระสัญญาของพระเยซูคริสต์

การที่ชนชาติอิสราเอลต้องประสบกับความหายนะ บ้านแตกเมืองพินาศ เพราะเขากบถต่อพระเจ้าที่ทรงช่วยกอบกู้และไถ่เขาออกจากการเป็นทาสในประเทศอียิปต์ และประทานผืนแผ่นดินแห่งพระสัญญาแก่เขา

พระเจ้าตรัสกับเยเรมีย์ว่า “เพราะพงศ์พันธุ์อิสราเอลและพงศ์พันธุ์ยูดาห์ทำแต่ความชั่วในสายตาของเรา... ได้ยั่วเย้าเราให้โกรธด้วยผลงานแห่งมือของเขา(32:30 ฉบับมาตรฐาน)...ทั้งตัวเขา บรรดากษัตริย์และเจ้านายของเขา บรรดาปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะของเขา คนยูดาห์ชาวกรุงเยรูซาเล็ม(ข้อ 32)...พวกเขาได้หันหลังให้เราแทนที่จะหันหน้า แม้ว่าเราได้สอนเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็ไม่ได้ฟังเพื่อรับการสั่งสอน(ข้อ 33)... พวกเขาตั้งสิ่งน่าสะอิดสะเอียนของเขาไว้ในนิเวศซึ่งเรียกตามชื่อของเราทำให้มีมลทิน(ข้อ 34)...สร้างปูชนียสถานสูงสำหรับพระบาอัล...เพื่อถวายบุตรชายหญิงของเขาแก่โมเลค(ข้อ 35)...”

ผู้คนในชนชาติยูดาห์รู้ดีว่า เพราะการที่พวกเขากระทำความบาปชั่วต่อพระเจ้าชีวิตของเขาจึงตกต่ำลง ประสบหายนะ ทั้งคนและสังคมยิวจึงถูกทำลายอย่างย่อยยับ ทั้งๆ เมื่อพระเจ้านำเขาออกจากการเป็นทาสในประเทศอิยิปต์ด้วยพระสัญญาที่ยูดาห์จะมีชีวิตที่ได้รับพระพรมั่งคั่งและมั่นคงถ้าพวกเขาสัตย์ซื่อรักษาและดำเนินชีวิตตามพันธสัญญาตามพระบัญญัติ ที่เขาได้ให้สัญญาและพันธะผูกพันไว้กับพระเจ้า แต่ครั้งแล้วครั้งเล่าในการดำเนินชีวิตของยูดาห์กลับเป็นการปฏิเสธที่จะมีพระเจ้าเป็นเอกในชีวิต และไม่ยอมดำเนินชีวิตตามเส้นทางของพระเจ้า ผลที่เกิดขึ้นคือการพิพากษาของพระเจ้ามาถึงชีวิตของพวกเขา พวกเขาต้องพ่ายแพ้สงครามถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยในต่างแดน และชนที่เหลือตกเป็นเมืองขึ้นปกครองโดยคนต่างชาติ

ต่อมาประชากรยูดาห์โหยหารอคอยการยกโทษบาปผิดจากพระเจ้า มิเพียงแต่ความบาปผิดของประชายูดาห์แต่ละคนเท่านั้น แต่รวมถึงความบาปผิดแห่งประชาชาติยูดาห์ด้วย การซ่อมแซมปฏิสังขรณ์ความสัมพันธ์ในการเป็นประชาชาติแห่งประชากรของพระเจ้าขึ้นใหม่ได้นั้น การได้รับการอภัยโทษจากพระเจ้าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง และการอภัยโทษคือประตูที่เปิดออกสำหรับคนที่จะหันกลับมามีชีวิตภายใต้การปกครองในแผ่นดินของพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง

ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จเป็นช่วงเวลาสำหรับเราคริสเตียนที่จะใคร่ครวญภาวนาเพื่อขอรับการทรงอภัยโทษจากพระเจ้าในชีวิตที่ผิดพลาดบาปผิด เอาตนเองเป็นใหญ่แทนที่จะมีพระเจ้าเป็นเอกเป็นต้นในชีวิต เป็นเวลาที่เราตั้งใจที่จะดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์ รับการอภัยโทษเพื่อชีวิตจะพร้อมรับเอาพระประสงค์ของพระเจ้าเป็นเป้าหมายปลายทางและเส้นทางที่จะจาริกไปสู่พระเยซูคริสต์

พระยาเวห์ตรัสกับเยเรมีย์ว่า ผู้คนยูดาห์ทุกคนรู้จักพระยาเวห์ จนการสอนเรื่องนี้มิใช่ประเด็นใหญ่ในสายพระเนตรของพระเจ้า แต่การที่จะได้รับการอภัยโทษบาป และ กลับมาคืนดีมีสัมพันธภาพที่สนิทแน่นกับพระเจ้าเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า โอกาสใหม่ที่พระเจ้าประทานให้มิใช่เป็นสิ่งที่มนุษย์จะสามารถแสวงหามาได้เอง แต่เป็นพระคุณของพระเจ้า

ในเทศกาลรับการเสด็จมาของพระคริสต์ คือการที่เราเปิดชีวิตจิตใจของเรายอมรับการอภัยโทษจากพระเจ้า เป็นการแสวงหาสัมพันธภาพที่สนิทใกล้ชิดกับพระเจ้าใหม่ เป็นโอกาสใหม่ที่จะเราจะดำเนินชีวิตในทางของพระยาเวห์ ที่มีพระองค์ดำเนินไปเคียงข้างเราเสมอ และด้วยโอกาสใหม่เช่นนี้เองเราจะได้เรียนรู้จักพระเจ้ามากยิ่งขึ้นจากประสบการณ์ความสัมพันธ์ตรงกับพระองค์

สำหรับในสายพระเนตรของพระเจ้าแล้ว มิใช่การที่เราต้องเรียนรู้จักพระยาเวห์ให้มากมายชัดเจนก่อนแล้วถึงจะมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับพระองค์ได้ แต่การที่พระเจ้าเปิดทางให้เรามีโอกาสใหม่ด้วยการให้อภัยโทษบาปอีกครั้งหนึ่งที่จะเข้าใกล้ชิดติดสนิทกับพระองค์ต่างหากที่เราจะได้เรียนรู้จักพระยาเวห์มากยิ่งขึ้น หมายความว่ามิใช่ให้เราเรียนรู้จักพระเจ้าอย่างดีก่อนเพื่อเราจะมีความสัมพันธ์สนิทสนมของพระเจ้า แต่ให้เราสนิทสนมกับพระเจ้าก่อนแล้วเราจะมีประสบการณ์กับพระองค์ เราจึงจะเรียนรู้จักพระองค์มากยิ่งขึ้น

แต่ทุกวันนี้เราก็ต้องยอมรับว่า แม้เราจะรู้ถึงพระราชกิจแห่งการอภัยโทษบาปและการกอบกู้จากพระเจ้า แต่เรายังไม่ได้รับการอภัยโทษบาปและรับการไถ่ให้รอดพ้นออกจากการอยู่ใต้การบงการของอำนาจแห่งความบาป เราจะเปิดชีวิต โหยหา ยอมรับการทรงอภัยและกอบกู้ที่สมบูรณ์จากพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าจะทรงกระทำพระราชกิจนี้ในชีวิตของเราจนเสร็จสำเร็จสมบูรณ์

ในเทศกาลนี้จึงเป็นโอกาสที่เราจะใคร่ครวญแสวงหาเปิดชีวิตรับการอภัยโทษ การสร้างใหม่ และได้มีชีวิตภายใต้การปกครองของพระเจ้าในแผ่นดินของพระองค์ในที่สุด

ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญและอภิปราย

1. การที่พระเจ้าทรงอภัยโทษแก่ท่านมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตของท่านอย่างไรบ้าง?

2. เพื่อชีวิตของท่านจะได้รับการสร้างใหม่ ท่านกำลังรอคอยการอภัยโทษที่สมบูรณ์ในด้านใดบ้าง?

ใคร่ครวญภาวนา

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระคุณของพระองค์ที่ทรงให้โอกาสใหม่แก่ชีวิตของข้าพระองค์ ด้วยการทรงอภัยบาปชั่วที่ได้กระทำในชีวิต เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งสำหรับข้าพระองค์ เพราะโดยการทรงอภัยโทษของพระองค์ ข้าพระองค์จึงมีโอกาสที่จะเข้าใกล้ชิดติดสนิทกับพระองค์ด้วยความมั่นใจ และได้เรียนรู้จักพระองค์มากยิ่งขึ้น

ในช่วงเวลาแห่งการเตรียมรับการเสด็จมาและการบังเกิดของพระองค์ ขออัญเชิญพระองค์โปรดเสด็จเข้าในชีวิตของข้าพระองค์ พระประสงค์ของพระองค์เป็นทั้งเป้าหมายปลายทางและแนวทางในการดำเนินชีวิตของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะได้รับการทรงอภัยไถ่ถอนออกจากการครอบงำของอำนาจแห่งความบาป และสิ่งนี้จะค่อยๆ สมบูรณ์ขึ้น จนชีวิตทั้งสิ้นของข้าพระองค์จะได้อยู่ในแผ่นดินของพระเจ้า และสังคมชุมชนของมนุษยชาติจะได้ดำเนินอยู่ภายใต้การปกครองของพระองค์ที่สมบูรณ์ กลายเป็นคนใหม่ สังคมใหม่ และโลกใหม่ของพระองค์ อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
089-2628-310

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น