02 ธันวาคม 2554

คำอธิษฐานในภาวะที่กดดัน (1)

เตรียมรับเสด็จพระคริสต์ภายในชีวิต ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทย

อ่านกิตติคุณลูกา 22:39-46

ข้าแต่พระบิดา
ถ้าพระองค์พอพระทัยขอทรงเอาถ้วยนี้ไปจากข้าพระองค์
อย่างไรก็ตามอย่าให้เป็นไปตามใจของข้าพระองค์
แต่ให้สำเร็จดังพระประสงค์ของพระองค์
(ลูกา 22:42 อมตธรรม)

ในสองตอนก่อน เราได้ใคร่ครวญถึงชีวิตในภาวะกดดันของพระเยซูคริสต์ในสวนเกทเสมนี เราเรียนรู้ว่ายิ่งพระองค์ประสบพบกับความทุกข์ยากโศกเศร้ามากเท่าใด พระองค์ยิ่งทุ่มเทชีวิตในการอธิษฐานมากขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อชีวิตและจิตใจของพระองค์จะไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของความชั่วร้าย จิตวิญญาณไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจแห่งการทดลอง

ในคำอธิษฐานของพระเยซูคริสต์มีลักษณะที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากการอธิษฐานของคนยิวในสมัยของพระองค์คือ เมื่ออธิษฐาน พระองค์จะเรียกพระเจ้าว่า “พระบิดา” พระองค์ทรงเรียกพระเจ้าว่าเป็นพ่อ ซึ่งคนในสมัยของพระเยซูจะไม่ได้ยินคำอธิษฐานเช่นนี้เลย เพราะคนยิวจะเทิดทูนพระเจ้าไว้อย่างสูงส่งที่ไม่มีใครจะเทียบเคียงกับพระองค์ได้ พระเจ้าของยิวอยู่ที่สูง ห่างไกล แยกออกเฉพาะ เพราะพระเจ้าทรงบริสุทธิ์ การเรียกพระเจ้าว่าเป็น “พ่อ” หรือ “พระบิดา” จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อประเพณีปฏิบัติของศาสนายิวในเวลานั้น เป็นการ “ยกตนไปเทียบเท่า” พระเจ้าผู้สูงส่งเกินที่ใครจะเอื้อมถึงได้ เป็นการกระทำผิดต่อข้อปฏิบัติที่ผู้นำศาสนายิวกำหนดขึ้น

ทำให้ผมหวลระลึกถึงครั้งเมื่อพระเยซูคริสต์ทรงสอนสาวกของพระองค์อธิษฐาน พระองค์ก็สอนให้สาวกเริ่มต้นอธิษฐานว่า “โอ พระบิดาแห่งข้าพระองค์ทั้งหลาย...” เป็นพระบิดาที่เป็นพระเจ้าผู้สูงสุด “...พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ” ประโยคหลังนี้มิใช่เพียงแต่ฝ่าฝืนประเพณีปฏิบัติของยิวเท่านั้น แต่เป็นการแสดงออกชัดเจนว่า กบฏต่อจักรพรรดิ์ซีซาร์ที่เป็นเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่สูงสุด แต่พระเยซูคริสต์ อธิษฐานต่อพระเจ้าผู้เป็นพระบิดาและผู้ที่สูงสุดในชีวิตและในโลกจักรวาลนี้

ในเวลาที่ตกอยู่ในภาวะกดดันแห่งชีวิตนอกจากที่พระองค์หันหน้าเข้าใกล้ชิดพระเจ้าแล้ว พระเจ้าของพระเยซูคริสต์เป็นเหมือน “พ่อ” ที่เป็นแหล่งแห่งชีวิตของลูก เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมทุกเมื่อด้วยพระทัยที่รักเมตตากรุณา พระเยซูมั่นใจว่าพระเจ้าพระบิดาจะเอาใจใส่ต่อภาวะวิกฤติกดดันที่เกิดขึ้นในชีวิต และทรงเชื่อในแผนการและการทรงนำของพระบิดา ยิ่งกว่านั้น พระองค์ทรงเชิญชวนเราทุกคนที่ชีวิตพบเจอกับความทุกข์โศกเศร้า วิกฤติ ถูกกดดัน ชีวิตเจ็บปวดจากความฉีกขาดภายในชีวิต ให้อธิษฐานต่อพระเจ้าผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งมวลมนุษยชาติ พระบิดาของเราแต่ละคน

ในเวลาใดก็ตาม เมื่อเราประสบกับชีวิตที่รับไม่ไหวกับความเจ็บปวดสุดที่จะทนในชีวิต พบกับสภาพจิตวิญญาณที่ถูกครอบงำกดทับด้วยความโศกเศร้า ในเวลาที่เรารู้สึกไม่อยากเรียกหาพระเจ้า ไม่คุ้นชินที่เรียกพระเจ้าว่าเป็นพ่อได้อย่างเต็มปาก รู้สึกว่าพระเจ้าช่างอยู่ไกลโพ้นจากเราในขณะนี้ พระองค์ไม่เห็นเอาใจใส่เรา ไม่เห็นเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชีวิตที่เรากำลังต้องเผชิญอยู่ ในเวลาเช่นนั้น ขอท่านได้โปรดสงบและมั่นใจที่จะเรียกพระเจ้าว่า “พระบิดา” อย่างเช่นที่พระเยซูได้ทำมาแล้ว ให้เราเปิดชีวิตจิตใจและจิตวิญญาณของเราต่อพระบิดา พ่อของเรา ถึงแม้ว่าเราไม่รู้ หรือ ไม่มั่นใจว่าพระองค์จะจัดการอย่างไรกับชีวิตจิตวิญญาณของเรา แต่ให้เรามั่นใจเถิดว่า พระเจ้าพระบิดาอยู่เคียงข้างเราในเวลาเช่นนี้ และพระองค์อยู่ที่นี่เพื่อชีวิตจิตวิญญาณของเรา และความรักเมตตากรุณาของพระองค์นั้นไม่มีทางที่จะทำให้ชีวิตของเราต้องฉีกขาดอีก

ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญและอภิปราย

1. ในชีวิตที่ผ่านมา ท่านเคยสนทนา พูดคุย กับพระเจ้าด้วยความสนิทสนมเป็นเหมือนพ่อ-ลูกกันหรือไม่?

2. ทำไมท่านถึงทำเช่นนั้น หรือ ทำไมท่านถึงไม่ได้ทำเช่นนั้น?

3. ในเวลาที่ท่านต้องตกอยู่ในภาวะที่ทุกข์ยาก โศกเศร้า ท่านยังสามารถที่จะอธิษฐานอยู่หรือไม่? เพราะเหตุใด?

4. ท่านเชื่อหรือไม่ว่า พระเจ้าทรงเป็นพระบิดาที่รักท่าน ถึงแม้เป็นการยากที่ท่านจะรู้สึกถึงการทรงสัมผัสด้วยความรักเมตตาของพระองค์ก็ตาม?

ใคร่ครวญภาวนา

โอ พระบิดา... เป็นความมั่นใจ และ รู้สึกสงบเพียงใดที่ข้าพระองค์ได้มี “พระบิดา” อยู่เคียงข้างในยามที่ทุกข์ยาก เจ็บปวดในชีวิต ที่รู้ว่าข้าพระองค์มิได้ถูกทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยวตรมตรอมในความทุกข์สิ้นหวัง แต่อยู่ในบ้านที่มีพ่อที่มีจิตใจเมตตาเอาใจใส่ต่อชีวิตของลูกๆ แต่ละคน

ข้าแต่พระเจ้า ในเวลาใดก็ตามที่ชีวิตของลูกตกอยู่ในความเจ็บปวดรวดร้าว กดดันสิ้นทางออก โปรดทรงเรียกและกระตุ้นเตือนให้ลูกคุกเข่าชีวิตและซบหน้าลงกับพื้นเพื่อขอน้อมรับความมั่นใจในชีวิตและความรักเมตตาของพระองค์ เพื่อลูกจะได้มีโอกาสเปิดใจ เปิดชีวิต กับพระองค์อย่างเปิดเผย

ในวันนี้ โปรดให้ข้าพระองค์ไวต่อความรู้สึกของผู้คนที่พบเห็นสัมพันธ์ ที่จะรู้ถึงความรู้สึกทุกข์ยาก เจ็บปวดในชีวิตของเขา และโปรดใช้ชีวิตของข้าพระองค์เป็นสะพานที่เขาจะสามารถเดินข้ามมาสัมผัสกับความรักเมตตาของพระองค์ ข้าแต่พระบิดา บางคนอาจจะยังมีบาดแผลในชีวิตทั้งด้านอารมณ์ ความรู้สึก และสิ่งที่ฝังใจต่อประสบการณ์ชีวิตในอดีต ที่พ่อคือผู้ทำร้าย ผู้สร้างความเจ็บปวดในชีวิตของเขา โปรดใช้ข้าพระองค์ให้เป็นเครื่องมือแห่งการเยียวยาและปะชุนชีวิตเพื่อเขาจะมีประสบการณ์ใหม่กับ “พระบิดา” ที่จะเป็นพ่อที่รักเมตตาและเคียงข้างชีวิตของเขาต่อไป อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
089-2628-310

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น