09 ธันวาคม 2554

จุดประสงค์...ในภาวะที่กดดัน

เตรียมรับเสด็จพระคริสต์ภายในชีวิต ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทย

อ่านกิตติคุณลูกา 22:39-46

ข้าแต่พระบิดา
ถ้าพระองค์พอพระทัยขอทรงเอาถ้วยนี้ไปจากข้าพระองค์
อย่างไรก็ตามอย่าให้เป็นไปตามใจของข้าพระองค์
แต่ให้สำเร็จดังพระประสงค์ของพระองค์
(ลูกา 22:42 อมตธรรม)

จากเหตุการณ์ชีวิตของพระเยซูคริสต์ในสวนเกทเสมนีครั้งนี้ เราได้เห็นพระเยซูคริสต์ตกลงสู่สภาพชีวิตที่กดดัน พระองค์รู้ว่าความเจ็บปวด การทรมาน และความตายรออยู่ข้างหน้า สิ่งที่พระองค์ทรงกระทำคือ หันหน้าเข้าหาพระเจ้า และใกล้ชิดติดสนิทกับพระบิดา ยิ่งมีความกดดันสูงแค่ไหนยิ่งสนิทกับพระเจ้ามากขึ้นแค่นั้น ยิ่งทุ่มเทชีวิตในการอธิษฐานมากขึ้นแค่นั้น ในภาวะความกดดันดังกล่าว พระเยซูคริสต์เปิดชีวิตจิตใจ และจิตวิญญาณกับพระบิดา และปรึกษากับพระบิดาอย่างเปิดใจและความคิดว่า “ถ้วย” แห่งการพิพากษา ถ้วยแห่งความทุกข์นี้เลี่ยงได้หรือไม่ แต่พระองค์มีจุดยืนในชีวิตของพระองค์มั่นคงว่า ให้ทุกอย่างเกิดขึ้นและสำเร็จตามพระประสงค์ของพระบิดา มิใช่ให้พระบิดาทำและสำเร็จตามที่ตนเองต้องการ

ในชีวิตปัจจุบันของเราท่าน บางครั้งและบ่อยครั้งที่ชีวิตของเราตกลงในสภาพความกดดันที่มีหลากหลายลักษณะ หลากหลายเรื่องราวในชีวิต แต่ส่วนใหญ่แล้วความกดดันในชีวิตของเรามักเกิดขึ้นเพราะสถานการณ์ต่างๆ ที่กำลังจะเป็นไป ดูเหมือนมันไม่เป็นไปอย่างที่เราต้องการให้เกิดขึ้น ที่เกิดความกดดันเพราะเรากลัวว่าอาจจะไม่ได้อย่างที่เราอยากได้ใคร่มี ที่กดดันเพราะเรารู้สึกว่าเราต้องต่อสู้ต้องทำทุกหนทางเพื่อให้สิ่งที่ตนเองคิดตนเองต้องการ สิ่งที่ตนเองเห็นดีถูกต้องที่สุด ดีที่สุดประสบความสำเร็จ ในภาวะความกดดันนั้นเราหันหน้าเข้าหาพระเจ้า ทูลขอต่อพระองค์ ต่อรองกับพระบิดา และแจ้ง “ความประสงค์ของเรา” ในเรื่องนั้นแก่พระองค์ แล้วมักลงท้ายด้วยการอ้อนพระเจ้าให้ช่วยทำให้ความประสงค์ของเราสำเร็จ แล้วก็เปิดช่องว่างหน่อยหนึ่งให้พระเจ้ากระทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ ซึ่งความหมายลึกๆ มักหมายความว่า ให้พระเจ้ากระทำตามวิธีการที่พระองค์เห็นเหมาะสม แต่ยังซ่อนความรู้สึกลึกๆ ไว้ว่า แต่ให้สำเร็จตามความต้องการที่เราทูลขอต่อพระเจ้า

นี่คือความแตกต่างของท่าทีเมื่อหันหน้าเข้าหาพระเจ้าในภาวะความกดดันในชีวิตของเรากับของพระเยซูคริสต์ แต่ส่วนที่แตกต่างที่สำคัญกว่านี้คือ ความแตกต่างที่รากฐานจุดยืนในชีวิต และ เป้าหมายในการดำเนินชีวิต ที่เป็นตัวกำหนดการตัดสินใจ ท่าที และพฤติกรรมที่แสดงออกในชีวิตประจำวัน

แล้วอะไรเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของพระเยซูคริสต์? ที่พระเยซูทูลต่อพระบิดาว่า “แต่ให้สำเร็จดังพระประสงค์ของพระองค์” ในพระกิตติคุณยอห์นได้บันทึกพระประสงค์นี้ไว้ว่า “จงดูพระเมษโปดก(ลูกแกะ)ของพระเจ้า ผู้ทรงรับบาปของโลกไป” (1:29 ฉบับมาตรฐาน) และในพระธรรมฮีบรูได้อธิบายพระประสงค์นี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า “(พระเยซูคริสต์)...ทรงปรากฎพระองค์เพียงครั้งเดียวเท่านั้นในปลายยุค เพื่อกำจัดบาปให้หมดสิ้นไปโดยการถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชา (9:26) เปาโลได้อธิบายพระประสงค์ของพระเจ้าในเรื่องนี้ว่า “พระเจ้าทรงกระทำพระองค์(พระเยซูคริสต์)ผู้ทรงไม่มีบาปให้บาปเพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์(พระเยซูคริสต์) (2โครินธ์ 5:21 ฉบับมาตรฐาน)

ในที่สุด พระเยซูคริสต์ตัดสินใจยืนหยัดดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระบิดา พระเยซูดื่ม “ถ้วย” แห่งความทุกข์ยาก ถ้วยแห่งการพิพากษา แบกรับเอาความบาปผิดของมนุษยชาตินี้ไป นี่คือรากฐานสัจจะความจริงของคริสต์ศาสนศาสตร์ที่มิสามารถปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงได้ และด้วยรากฐานสัจจะประการนี้เองที่ทำให้ชีวิตของเราท่านต้องเปลี่ยนแปลงไป พูดง่ายๆ ก็คือ พระเยซูคริสต์ได้ดื่ม “ถ้วย” แห่งความทุกข์ยากและถ้วยแห่งการพิพากษาของท่านและของผม พระเยซูคริสต์ได้แบกรับเอาความบาปผิดของท่านและของผมที่ต้องรับการพิพากษาจากพระเจ้าไปเป็นของพระองค์เอง และนี่คือ “พระคุณของพระเยซูคริสต์” ที่ทำให้เราต้องประหลาดใจจนทุกวันนี้

ดังนั้น เรื่องราวของพระเยซูคริสต์ในสวนเกทเสมนีมิได้บอกเราเพียงว่า พระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อความบาปผิดของโลกนี้ ใช่ สิ่งนี้เป็นสัจจะความจริงที่ไม่มีใครจะลบล้างออกไปได้ แต่สัจจะความจริงที่ชัดเจนกว่านั้นคือ พระเยซูคริสต์ยอมตายเพื่อยกเลิกความบาปผิดของผมและของท่าน เพื่อเราจะไม่ต้องถูกแยกออกจากพระเจ้าพระบิดาเพราะความบาปผิดของเรา ตรงกันข้าม พระคริสต์ได้ช่วยเชื่อมให้เราสามารถเข้าใกล้ชิดติดสนิทกับพระบิดา แทนที่จะถูกพิพากษาและลงโทษ นั่นหมายความว่าเราสามารถเข้ามาอยู่ต่อหน้าบัลลังก์ของพระเจ้าด้วยพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระคริสต์ด้วยความมั่นใจ ได้รับพระเมตตา และพบพระคุณที่ช่วยเราในยามที่ต้องการ (ฮีบรู 4:16 ฉบับมาตรฐาน)

นี่มิได้เป็นเพียงสัจจะความจริงที่ไม่สามารถลบล้างได้เท่านั้น แต่มีสัจจะความจริงแห่งการทรงช่วย ทรงไถ่ และทรงลบล้างความบาปผิดของมนุษยชาติ และเป็นสัจจะความจริงที่สามารถช่วยและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในโลกปัจจุบันได้ด้วย

ประเด็นเพื่อการใคร่ครวญและอภิปราย

1. ถ้าท่านดำเนินชีวิตด้วยสัจจะความจริงที่ว่า พระเยซูคริสต์ได้ดื่ม “ถ้วย” แห่งความทุกข์ยากและการพิพากษาของท่าน ความเชื่อตระหนักชัดในประการนี้จะสร้างความแตกต่างอะไรบ้างในชีวิตของท่าน?

2. ถ้าท่านเชื่ออย่างแท้จริงว่า ท่านได้รับการปลดปล่อยออกจากอำนาจของความบาป และ ความตายสู่ความเป็นไทและชีวิต ท่านจะดำเนินชีวิตเช่นไร?

ใคร่ครวญภาวนา

ในเวลานี้ ข้าพระองค์ขอสำนึกถึงพระคุณที่เหลือจะพรรณนาได้ครบถ้วน ที่พระองค์ทรงกระทำและให้แก่ข้าพระองค์ในทุกวันนี้ ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงดื่มถ้วยแห่งการพิพากษาของข้าพระองค์ และ ของมนุษยชาติในโลกนี้ แทนที่ข้าพระองค์ต้อง “ดื่ม” หรือ แบกรับความบาปผิดของตนเอง แต่ด้วยพระคุณดังกล่าวพระองค์ทรงแบกรับแทนข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงได้รับการยกโทษจากพระบิดา

ในวันนี้ พระดำรัสของพระเยซูได้ผุดขึ้นในห้วงสำนึกของข้าพระองค์ ที่พระองค์เคยถามสาวกสองคนนั้นที่มาขอตำแหน่งซ้ายขวาจากพระองค์ และพระองค์ถามเขาทั้งสองว่า “ถ้วยที่เราจะดื่มนั้น ท่านจะดื่มได้หรือ?” คำถามนั้นกำลังถามข้าพระองค์ด้วย และในเวลาเดียวกันข้าพระองค์ระลึกถึงคำสอนในการอธิษฐานว่า “ขอทรงยกบาปผิดของพวกข้าพระองค์ เหมือนพวกข้าพระองค์ยกโทษบรรดาคนที่ทำผิดต่อข้าพระองค์”

ข้าแต่พระเจ้า ในวันนี้โปรดช่วยข้าพระองค์ให้ดำเนินชีวิตด้วยความสำนึกในพระคุณแห่งการปลดบาปล้างโทษที่ทรงกระทำเพื่อข้าพระองค์ โปรดช่วยข้าพระองค์ที่จะดำเนินชีวิตในความเป็นไทที่ทำตามพระประสงค์ของพระองค์ มิใช่ตามความต้องการของข้าพระองค์เอง โปรดช่วยข้าพระองค์ในการสำแดงความรักเมตตาที่เสียสละและพระคุณของพระคริสต์แก่ผู้คนที่ข้าพระองค์พบเห็นและสัมพันธ์ อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
089-2628-310

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น