อ่านสดุดี 141:1-10
ขออย่าให้ใจของข้าพระองค์เอนเอียงไปหาสิ่งชั่วใดๆ
ที่จะกระทำการอธรรมต่างๆ ร่วมกับคนที่ทำชั่ว และ
ขออย่าให้ข้าพระองค์กินของโอชะของพวกเขา
(สดุดี 141:4 ฉบับมาตรฐาน)
ในพระธรรมสดุดีบทที่ 141
ดาวิดได้ปล้ำสู้กับการทดลองให้กระทำสิ่งที่ผิดที่กำลังทะลวงเข้ามายั่วยวนในจิตใจและความปรารถนาของตนเอง
เป็นสดุดีที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์ชีวิตของตนที่ต้องตกลงในสถานการณ์ร้ายที่มาในคราบของความหอมหวาน
ชื่นชม ผลประโยชน์ ความสะดวกสบาย เกียรติยศชื่อเสียง สิ่งที่ตนปรารถนาในใจ ในสดุดีบทที่ 141
การคุกคามรุนแรงหลักใหญ่มิได้มาจากการคุกคามของคนเลวทรามร้ายกาจที่อาจจะสร้างภัยอันตรายแก่ดาวิดด้วยการกระทำที่ชั่วร้ายรุนแรง
แต่ในสดุดีบทนี้ชี้เน้นให้เห็นถึงการทดลองที่ยั่วยวนหลอกล่อให้ดาวิดเข้าร่วมในการกระทำบาปร่วมกับคนที่ทำชั่ว ดังนั้น
ดาวิดจึงทูลอธิษฐานต่อพระเจ้าว่า
“ขออย่าให้ใจของข้าพระองค์เอนเอียงไปหาสิ่งชั่วใดๆ ที่จะกระทำการอธรรมต่างๆ ร่วมกับคนที่ทำชั่ว และขออย่าให้ข้าพระองค์กินของโอชะของพวกเขา” (141:4 ฉบับมาตรฐาน)
ขอตั้งข้อสังเกตในที่นี้ว่า ดาวิดกล่าวถึงความหอมหวานโอชะที่ประจักษ์ ดาวิดกล่าวถึง “ความหอมหวานโอชะ”
จากการกระทำชั่ว
รากศัพท์ในภาษาฮีบรูของคำว่า “ของโอชะ” หมายถึงสิ่งที่ดูสวยสดงดงาม น่ารัก น่าชื่นชม สนุกสนาน เพลิดเพลิน บันเทิงใจ อย่างที่ใช้ในบทเพลงของซาโลมอน 1:16 ที่พรรณนาถึงความงามของร่างกาย หรือใช้ในการพรรณนาถึงรสชาติของอาหาร
(สุภาษิต 9:17)
หรือเสียงของดนตรีที่ไพเราะ (สดุดี 81:2)
ความบาปสามารถสำแดงตนออกมาในรูปแบบของอาหารที่โอชะ ที่มีกลิ่นรสหอมหวานอร่อย ออกมาในรูปแบบของความสนุกสนานเพลิดเพลิน ออกมาในรูปแบบที่ให้ผลประโยชน์และกำไร
แต่ดาวิดรู้ว่าสิ่งที่ปรากฏออกมาที่ดูดีน่าชื่นชมเหล่านี้เป็นอุบายที่โป้ปดหลอกลวง สิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความหวานชื่นของความชั่วร้าย
คือความขมขื่น ผุพัง เน่าเปื่อย
การสูญเสีย ความพ่ายแพ้ ดังนั้น
ดาวิดจึงทูลขอพระเจ้าให้ตนสามารถหลีกหนีจากสิ่งเหล่านี้ว่า
“...อย่าให้ใจของข้าพระองค์เอนเอียงไปหาสิ่งชั่วใดๆ”
ความบาปชั่วมันจะเริ่มต้นในชีวิตของเราแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบร้อนลงมือให้เกิดผล แต่มันเริ่มต้นภายในชีวิตจิตใจของเรา ด้วยกระบวนการทดลองแบบซึมลึกอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมและใช้เวลา ที่ดูเหมือนว่าไม่เห็นเป็นความคิดมีอันตรายร้ายแรงใดๆ
ดังนั้น ให้เราปฏิเสธ หลีกเลี่ยงความหวานชื่นของความชั่วร้ายด้วยการเฝ้าดูแลจิตใจเราอย่างระมัดระวัง และตระหนักชัดว่านั่นเป็นการทดลอง แล้วหันหลังออกห่างจากมัน
แต่บ่อยครั้งเราไม่สามารถที่จะกระทำการเช่นนี้ด้วยกำลังชีวิตของเราเอง เราต้องการพระกำลังจากองค์พระผู้เป็นเจ้าที่จะเสริมหนุนช่วยเหลือ
และพระองค์จะทรงหนุนเสริมเพิ่มกำลังแก่เรา
เมื่อเราทูลขอและให้จิตใจของครุ่นคิดและใกล้ชิดพระเจ้า มิใช่ความหวานชื่นของความบาปชั่ว
ประเด็นใคร่ครวญ
1.
ความบาปชั่วแบบไหนที่มักมาเย้ายวน กระตุ้นจิตใจของท่าน?
2.
เมื่อท่านถูกทดลอง
ท่านทำเช่นไรกับชีวิตและการทดลองนั้น?
3.
เมื่อตกในภาวะทดลองจิตใจของท่านเอนเอียง ครุ่นคิด ใกล้ชิดกับสิ่งใด?
ใคร่ครวญภาวนา
พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณเมตตา
บางครั้งที่ข้าพระองค์รู้ว่าความบาปชั่วกำลังมาทดลองข้าพระองค์ ด้วยสิ่งที่ใจข้าพระองค์ปรารถนา
ด้วยสิ่งเย้ายวนด้วยสิ่งที่ทำให้จิตใจข้าพระองค์วนเวียนอยากไขว่คว้า
สิ่งเหล่านั้นดูเหมือนสามารถให้ความสุขแก่ข้าพระองค์ สิ่งเหล่านั้นดูเหมือนจะทำให้จิตใจข้าพระองค์แช่มชื่น
แต่ข้าพระองค์รู้ถึงสัจจะความจริงที่ความบาปชั่วจะนำมาถึงชีวิตของพระองค์
และแผนการที่มันต้องการครอบงำและพันธนาการชีวิตของข้าพระองค์ไว้ใต้อำนาจของมัน
ข้าพระองค์ขอทูลอธิษฐานอย่างกษัตริย์ดาวิด ขอพระองค์โปรดช่วยจิตใจของข้าพระองค์ให้ใคร่ครวญมุ่งหาใกล้ชิดพระองค์ มิใช่ความบาปชั่ว โปรดปกป้องข้าพระองค์ที่จะเข้าไปมีส่วนกับความชั่ว
โปรดนำข้าพระองค์ให้ดำเนินไปบนเส้นทางชีวิตตามพระประสงค์
และโปรดช่วยให้ข้าพระองค์รู้เท่าทันการหลอกล่อของความบาปชั่วว่า ความชื่นชมหอมหวานคือยาพิษที่จะทำร้ายและทำลายชีวิตจิตวิญญาณของข้าพระองค์
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดนำข้าพระองค์อย่าให้เข้าไปในการทดลอง แต่ขอให้รอดพ้นจากอำนาจของสิ่งชั่วร้าย
โปรดนำข้าพระองค์ดำเนินไปบนเส้นทางชีวิตที่พระองค์จัดเตรียมไว้เพื่อข้าพระองค์
เติมเต็มจิตใจของข้าพระองค์ด้วยความปรารถนาในพระองค์ และ
ความบริสุทธิ์ของพระองค์ อาเมน
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น