อ่าน
สดุดี 103
บิดาเอ็นดูสงสารบุตรของตนฉันใด
องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงเอ็นดูสงสารผู้ที่ยำเกรงพระองค์ฉันนั้น
เพราะพระองค์ทรงทราบว่าเราถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร
พระองค์ทรงระลึกว่าเราเป็นธุลีดิน
(ข้อ 13-14 อมตธรรม)
อย่างที่กล่าวมาก่อนนี้แล้วว่า Lent
เริ่มต้นในวันพุธขี้เถ้า
เป็นที่งงสำหรับผมเองอย่างยิ่งว่า “วันพุธขี้เถ้าคืออะไรกันแน่?” ผมเติบโตขึ้นมาในคริสตจักรโปรเตสแตนท์
ในสังกัด คริสตจักรภาคที่ 7
สภาคริสตจักรในประเทศไทย
ไม่เคยเรียนรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
ต่อมาผมได้มาเรียนที่โรงเรียนพระคริสตธรรมเชียงใหม่
(ปัจจุบันเป็นวิทยาลัยพระคริสต์ธรรมแมคกิลวารี
เป็นคณะหนึ่งในมหาวิทยาลัยพายัพ)
ในช่วง 5-6
ปีแรกไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับเรื่องวันพุธขี้เถ้า
จนมาในปีสุดท้ายถึงมีโอกาสร่วมในพิธีวันพุธขี้เถ้า ขอสารภาพว่าในครั้งแรกนี้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดกับพิธีนี้ แปลกประหลาดเพราะไม่เคยปฏิบัติมาก่อน และผมบอกกับตนเองว่าผมอ่านพระคัมภีร์มาเป็นสิบๆ
ปีไม่เห็นมีวันพุธขี้เถ้าในพระคัมภีร์สักแห่งเลย!
ผมร่วมในพิธีวันพุธขี้เถ้า แต่ผมไม่ทำอย่างคนอื่นที่ทำกันในวันพุธขี้เถ้า
(เพิ่งมาตระหนักว่าตนเป็นนักศึกษาที่ดื้อด้านพอประมาณทีเดียว!) ผมเห็นอาจารย์เอาขี้เถ้า หรือ
โคลนเถ้า มาป้ายทำสัญญลักษณ์กางเขนที่หน้าผากของนักศึกษาแต่ละคนที่สมัครใจ พร้อมกับกล่าวว่า “ท่านมาจากดิน
ท่านจะกลับไปเป็นธุลีดิน”
ทันทีเกิดคำถามขึ้นในใจ “เอ ประโยคนี้คุ้นหูจริงๆ เราเคยได้ยินมาจากไหนนะ?” ใช่
เราจะได้ยินประโยคที่คล้ายคลึงกันนี้ในพิธีฝังศพครับ
เอ้า...แล้วทำไมมาใช้ในวันพุธขี้เถ้าที่ว่านี้ล่ะ?
ประโยคนี้ดัดแปลงมาจากพระธรรมปฐมกาล 3:19 “...เพราะเจ้าเป็นธุลีดิน...เจ้าจะกลับคืนสู่ธุลีดิน” (อมตธรรม) พระธรรมข้อนี้เตือนสติเราแต่ละคนว่า เราเป็นผู้ที่อ่อนแอ เปราะบาง
จำกัด ขัดสนในความเป็นคน และเราต้องไม่ลืมว่า พระเจ้าตรัสประโยคนี้กับอาดัมและเอวา
เมื่อชีวิตของเขาทั้งสองต้องตกลงใต้อำนาจของซาตานผู้หลอกลวง และผลที่จะได้รับคือชีวิตที่ต้องตกระกำลำบาก แม้สิ่งดีที่จะได้รับเช่นบุตรก็ยังต้องพบกับสภาพความทุกข์ในชีวิต และชีวิตของเขา “มาจากดิน
ก็จะกลับคืนสู่ธุลีดิน” ความหมายจริงๆ คือ
ผู้ประกอบพิธีพุธขี้เถ้ากำลังบอกกับเราแต่ละคนว่า “ท่านจะต้องตาย” มิใช่พิธีที่มีความชื่นชมยินดีแต่ประการใดเลย!
ด้วยเหตุนี้
ในพิธีพุธขี้เถ้าจึงเป็นช่วงเวลาที่เตือนสติผู้ที่เข้ามาร่วมว่า ตั้งแต่วันนี้ไปอีก 6
อาทิตย์
เป็นช่วงเวลาที่เราจะต้องจริงจังทุ่มเทกับการพินิจพิจารณาใคร่ครวญถึงชีวิตที่เราดำเนินมาจนถึงวันนี้ ความจริงประการหนึ่งก็คือว่า เราทุกคนมาจากธุลีดิน ร่างกายของเราจะแตกสลายกลับคืนสู่ธุลีดิน... เราทุกคนจะต้องตาย!
แต่ในเวลาเดียวกันความจริงประการที่สองที่ยิ่งใหญ่สำคัญกว่าประการที่หนึ่งสำหรับคริสตชนคือ
“พระคุณของพระเจ้าที่ผ่านมาทางชีวิตและพระราชกิจของพระเยซูคริสต์” เพราะในความตายนั้น
พระเจ้าทรงประทานโอกาสแห่งชีวิตใหม่แก่มนุษย์แต่ละคน Lent
จึงเป็นช่วงเวลาที่เราคริสตชนแต่ละคนจะเปิดใจเปิดชีวิตรับความรักเมตตากรุณาของพระเจ้า ที่จะทรงเสริมสร้างชีวิตใหม่ในตัวเรา
ถึงแม้ว่าเราจะต้องเสื่อมสลายกลับคืนสู่ธุลีดิน
แต่ความรักเมตตากรุณาของพระเจ้าจะมิเสื่อมสลาย แต่เป็นพลังแห่งชีวิตใหม่ที่ปกป้องคุ้มครอง
และ หนุนเสริมเพิ่มพลังจากพระเจ้า
วันนี้พุธขี้เถ้า ที่เป็นวันเริ่มต้น Lent
ของปี 2013 นี้
ขอให้เราเตือนสติกันและกันว่า “เราท่านนั้นเป็นธุลีดิน” ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องการพึ่งพาในพระคุณความรักเมตตากรุณาของพระเจ้าในชีวิตแต่ละวันของเรา ในช่วงเวลาของ Lent
ให้เราจาริกไปด้วยความสำนึกและตระหนักรู้ว่า
พระเจ้าทรงรู้จักเราแต่ละคนอย่างดี
พระองค์รู้ว่าเราแต่ละคนถูกสร้างขึ้นอย่างไร มีสภาพชีวิตเช่นไร เปราะบางและมาจากธุลีดิน
แต่ความเมตตากรุณาของพระเจ้ามีล้นเหลือสำหรับเราแต่ละคน และที่สำคัญคือ
พระคริสต์ทรงดำเนินเคียงข้างชีวิตเราแต่ละคนในแต่ละวัน ในทุกสถานการณ์ชีวิตครับ
ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญ
1. ท่านเคยมีโอกาสเข้าร่วมในพิธีพุธขี้เถ้าหรือไม่? ท่านรู้สึกเช่นไร?
2.
ในแต่ละวันท่านเตือนสติตนเองว่าท่านมาจากธุลีดิน
จะต้องกลับคืนสู่ธุลีดินหรือไม่?
การเตือนสติตนเองเช่นนี้ ท่านรู้สึกและมีผลกระทบเช่นไรต่อชีวิตประจำวันของท่าน?
3.
ท่านจะตอบสนองต่อพระคุณเมตตากรุณาของพระเจ้าที่มีต่อท่านอย่างไร?
ใคร่ครวญภาวนา
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณ ในวันนี้ข้าพระองค์ตระหนักรู้แล้วว่า ข้าพระองค์มาจากธุลีดิน และจะต้องกลับคืนสู่ธุลีดิน ชีวิตข้าพระองค์อ่อนแอ จำกัด
ขัดสน และเปราะบาง ข้าพระองค์จึงต้องการและพึ่งพาในพระกำลังและความรอดที่มาจากพระองค์
ข้าพระองค์ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงรู้ถึงความเป็นธุลีดินของข้าพระองค์
แต่กลับทรงห่วงใยในความอ่อนแอของข้าพระองค์ พระองค์มิได้ทรงละทิ้งข้าพระองค์ แต่พระองค์ทรงพระคุณเมตตากรุณาต่อข้าพระองค์
พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์แห่งความรักเมตตาคว้าและฉุดข้าพระองค์ไว้ แล้วทรงเมตตากรุณาเอาพระทัยใส่ชีวิตที่มาจากธุลีดินของข้าพระองค์ ที่ถูกแปดเปื้อนครอบงำจากอำนาจแห่งความบาป
เกินความคาดหมาย
พระองค์กลับเป็นผู้แบกรับความบาปผิดของข้าพระองค์บนกางเขน ด้วยเหตุนี้เอง
ข้าพระองค์จึงต้องการพึ่งในพระคุณเมตตาของพระองค์ ข้าพระองค์ต้องการพระผู้ช่วยให้รอดคือพระองค์
โปรดทรงบ่มเพาะและฟูมฟักข้าพระองค์ในช่วงเวลาของ
Lent
ที่ข้าพระองค์จะใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดติดสนิทกับพระองค์ในทุกเวลา และข้าพระองค์ขอถวายชีวิตทั้งกาย ใจ
และจิตวิญญาณแด่พระองค์
เพื่อขอทรงเตรียมพร้อมข้าพระองค์สำหรับข่าวดีของพระองค์ที่กำลังเข้ามาในชีวิตของข้าพระองค์
ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรักเมตตากรุณา อุดมด้วยพระคุณ อาเมน
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น