ผู้ใดอ้างว่าอยู่ในพระองค์
ผู้นั้นต้องดำเนินชีวิตอย่างที่พระเยซูคริสต์ดำเนิน
(1ยอห์น 2:6 อมตธรรม)
ถ้าอย่างนั้น
พระเยซูคริสต์ดำเนินชีวิตแบบไหน?
พระองค์มุ่งหางานที่ดีมีตำแหน่งในตะวันออกกลางหรือ? พระองค์พยายามทำงานหนักเพื่อมีบ้านหลังใหญ่สวยหรู และพรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีหรือ? พระองค์ซื้อรถหรูคันใหม่ หรือ
อูฐที่แข็งแรงลักษณะดีหรือ?
พระองค์คบค้าหาเพื่อนฝูงที่มีบารมีชื่อเสียงหรือ?
พระองค์ตีสนิทกับคนที่สามารถช่วยพระองค์ได้ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน หรือเอื้อให้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ของพระองค์รุ่งเรืองมั่นคงหรือ?
หรือพระองค์คบค้ากับคนที่มีอำนาจหนุนเสริมพันธกิจที่พระองค์ทำหรือ?
แล้วชีวิตครอบครัวของพระองค์เป็นอย่างไรบ้าง? ภรรยาและลูกๆ ของพระองค์ล่ะเป็นเช่นไร?
พระคัมภีร์ที่เราอ่านวันนี้ทำให้ผมฉงนใจว่า แล้วผมจะดำเนินชีวิตอย่างไร?
แล้วท่านล่ะ ท่านคิดว่าท่านจะดำเนินชีวิตแบบไหน?
อะไรคือสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับชีวิตของเรา?
พระคัมภีร์กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า ถ้าเราเรียกตนเองว่าเป็นคริสตชน หรืออ้างตนว่าเป็นสาวกของพระคริสต์ เราต้อง
“ดำเนินชีวิตอย่างที่พระเยซูคริสต์ทรงดำเนิน”
สำหรับผมแล้ว
ผมเห็นว่าสิ่งที่พระเยซูคริสต์สำแดงว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของพระองค์คือ
การที่พระองค์ทรงมีพระเจ้าพระบิดาเป็นเอกเป็นใหญ่ในชีวิตของพระองค์
ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำและดำเนินชีวิตก็เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระบิดา เป็นการยกย่องสรรเสริญพระเจ้า มิใช่เพื่อเกียรติยศชื่อเสียงของพระองค์เอง การกระทำทั้งสิ้น
การดำเนินชีวิตทุกขณะของพระเยซูคริสต์ทรงดำเนินชีวิตตามแบบความรักเมตตาของพระบิดา
“...เพราะว่าพระองค์(พระบิดา)ทรงให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ส่องสว่างแก่คนดีและคนชั่วเสมอกัน และให้ฝนตกแก่คนชอบธรรมและคนอธรรม...
เพราะฉะนั้น
พวกท่านจงเป็นคนดีพร้อมเหมือนอย่างพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงดีพร้อม”
(มัทธิว 5:45, 48
ฉบับมาตรฐาน)
“เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก” (1ยอห์น 4:8,
16 ฉบับมาตรฐาน)
การมีชีวิตตามอย่างพระเยซูคริสต์หมายถึงการที่เรามีชีวิตที่
“รักซึ่งกันและกัน” พระเจ้าก็จะสถิตในพวกเรา และความรักของพระองค์ก็สมบูรณ์ในเรา” (1ยอห์ 4:12)
นอกจากนั้นแล้ว ยอห์นยังได้สอนเราอีกว่า “อย่ารักโลกและสิ่งของในโลก ถ้าใครรักโลกความรักของพระบิดาไม่ได้อยู่ในผู้นั้น”
(1ยอห์น 2:15) “เพราะว่าทุกสิ่งที่อยู่ในโลก
คือตัณหาของเนื้อหนัง และ ตัณหาของตา
และความทะนงใจในลาภยศไม่ได้มาจากพระบิดาแต่มาจากโลก” (ข้อ 16)
“โลกกับสิ่งยั่วยวนของโลกกำลังผ่านพ้นไป
แต่คนที่ประพฤติตามพระทัยของพระเจ้าจะดำรงอยู่เป็นนิตย์”
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เมื่อใดก็ตามที่เราติดตามสิ่งอื่นใดมากกว่าติดตามพระคริสต์ เราเป็นคริสตชนที่กำลังฉ้อฉลและจะหลงวนเวียนใต้อำนาจของบาปชั่ว เราต้องการการทรงนำ เราต้องติดตามพระคริสต์ แล้วเราต้องนำคนอื่นให้มาถึงพระคริสต์ด้วย!
“อย่าลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรยอดเยี่ยม” (โรม12:2 ฉบับมาตรฐาน) “...ท่านทั้งหลายรู้ว่าการเป็นมิตรกับโลกนั้นคือการเป็นศัตรูกับพระเจ้าไม่ใช่หรือ? ...ใครก็ตามที่ต้องการเป็นมิตรกับโลก ก็ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพระเจ้า” (ยากอบ 4:4 ฉบับมาตรฐาน)
“...ถ้าข้าพเจ้ากำลังเอาใจมนุษย์อยู่
ข้าพเจ้าก็ไม่ใช่ทาสของพระคริสต์” (กาลาเทีย 1:10
ฉบับมาตรฐาน)
ให้เรากลับไปยังรากฐานแห่งชีวิตของเรา ให้เราเริ่มต้นวันใหม่ของเราด้วยการอธิษฐานทูลขอพระเจ้า
ได้เมตตาสำแดงว่าเราจะดำเนินชีวิตอย่างพระเยซูคริสต์อย่างไร หลักการรากฐานที่เข้าใจได้ง่ายๆ คือ
การที่เราให้พระเจ้าทรงเป็นเอกเป็นใหญ่ในการดำเนินชีวิตของเรา กระทำและดำเนินชีวิตทุกอย่าง
ด้วยความรักเมตตาของพระองค์เพื่อถวายพระเกียรติ และ สรรเสริญยกย่องพระองค์
วันนี้ให้เรามีความสุขกับการกระทำงาน และ
ดำเนินชีวิตเพื่อพระคริสต์ครับ!
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น