02 มีนาคม 2556

สิ่งที่เป็นที่สุดของผู้นำ


ผู้คนมักจะถามว่า   “อะไรคือสิ่งที่จำเป็นต้องมีที่สุดในภาวะผู้นำ?”

หลายคนต้องการมีภาวะผู้นำ  ต้องการที่จะมีชีวิตมีบารมีอิทธิพลและสร้างผลกระทบต่อผู้อื่น   แต่กลับเป็นคนที่ขาดด้อยความอดทนที่จะแข็งขันหมั่นเพียรในการที่จะแสวงหาการเรียนรู้และการเติบโตในชีวิตที่สม่ำเสมอและต่อเนื่อง

จอห์น แมกซ์แวลล์ เคยตอบคำถามข้างต้นไว้ว่า  “สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดที่ผู้นำที่ยิ่งใหญ่จำเป็นต้องมีก็คือ...มีมากกว่าหนึ่งสิ่งที่คุณจะต้องรู้เกี่ยวกับภาวะผู้นำ”

ไม่มีเส้นทางลัดที่จะนำคนขึ้นไปสู่จุดหมายปลายยอด   แล้วก็ไม่มี “แหล่งลับลี้” ของการสร้างภาวะผู้นำ   หรือ ก็ไม่มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใดที่คนนั้นดื่มเข้าไปแล้วจะทำให้เขากลายเป็นผู้นำที่เลิศเลอขึ้นในทันที   จอห์น แมกซ์แวลล์ ได้เขียนบทความสรุปประเด็นที่สุดของภาวะผู้นำไว้ 10 ประการดังนี้

1. ชัยชนะสุดยอดของผู้นำคือ... การชนะตนเอง

คนส่วนมากมักคิดถึงชัยชนะของผู้นำคือการที่ผู้นำนั้นมีชัยชนะเหนือคนอื่น  หรือการที่ทำให้ฝ่ายตรงกันข้ามต้องพ่ายแพ้   หรือการที่อยู่เหนือกว่าคู่แข่ง   แต่เพลโตเคยกล่าวไว้ว่า  ชัยชนะอันดับแรกและเป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือชัยชนะที่มีเหนือตนเอง   ผู้นำหลายต่อหลายคนที่มักถูกผจญจากผลประโยชน์ส่วนตน   แม้ลูกน้องหรือลูกทีมมักมีแนวโน้มที่คิดถึงแต่ตนเองก่อน   แต่ผู้นำจะต้องเรียนรู้ที่จะให้คนอื่นนำหน้า   ผู้นำต้องคิดถึงผู้อื่นมากกว่าหมกมุ่นคิดถึงแต่สิ่งที่ตนเองอยากได้   หรือผลประโยชน์เพื่อตนเองก่อน

2. สิ่งที่มีคุณค่ายิ่งสำหรับผู้นำคือ   เป็นคนที่ไว้ใจได้(ทั้งของผู้อื่นและตนเอง)

การเป็นคนที่ผู้คนรอบข้างไว้วางใจคือรากฐานความสำเร็จประการหนึ่งของผู้นำ   และการที่ผู้นำมีความมั่นใจในตนเองก็จะช่วยให้เขามีสายตามุมมองในการมองคนอื่นในทางสร้างสรรค์  และเชื่อมั่นในคนอื่นด้วย

3.   ความหนักแน่นที่สุดของภาวะผู้นำคือ  ความรับผิดชอบในการนำ

ความหนักแน่นของผู้นำมิได้วัดกันที่ความกล้าบ้าบิ่นในการตัดสินใจของผู้นำ   แต่ความหนักแน่นของผู้นำคือความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะรับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของตน   ด้วยความมุ่งมั่นรับผิดชอบเช่นนี้เอง   ผู้นำที่หนักแน่นจะไม่โยนกลองความผิดไปให้ลูกน้อง   หรือแก้ตัวกล่าวอ้างถึงความเลวร้ายของดินฟ้าอากาศ   หรือกล่าวร้ายป้ายสีความเลวร้ายของฝ่ายตรงกันข้าม   หรือบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบเพราะเงื่อนไขปัจจัยอื่นใด   แต่ผู้นำที่หนักแน่นยอมรับผลที่เกิดขึ้นว่าเป็นความรับผิดชอบของตน

4.  วินัยที่สำคัญยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้นำคือ   ใช้เวลาในการคิด

เหตุผลประการหนึ่งที่ผู้นำไม่สามารถพัฒนาเป็นผู้นำที่เติบโตอย่างมีคุณภาพคือ   ผู้นำท่านนั้นมุ่งที่จะเปลี่ยนผลที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้เปลี่ยนความคิดของตนเอง    ผลที่เกิดขึ้นในชีวิตแต่ละเรื่องแต่ละราวเป็นผลที่เกิดขึ้นจากความคิดของเราที่ผ่านมา   แต่ชีวิตที่จะเป็นไปในวันพรุ่งนี้มันอยู่ในการคิดการตัดสินใจของเราในวันนี้    ถ้าเราปรารถนาที่จะอยู่เหนือสถานการณ์แวดล้อมทั้งหลายของเรา   แล้วต้องการขับเคลื่อนขึ้นสู่อีกระดับหนึ่งในการทำงานชีวิตของเรา   ถ้าเช่นนั้นเราต้องคิดพิจารณา แก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาความคิดของเราก่อน

5.   จุดอ่อนแอเปราะบาง หรือ อุปสรรคก้อนโตที่สุดของผู้นำคือ    คามผยองพองตัว  ยโสโอหัง 

การผยองพองตน  สำคัญผิดคิดว่าตนเป็นผู้สำคัญเกินกว่าความจริงเป็นเหตุให้ผู้นั้นมีคุณค่าลดลงในสายตาและความรู้สึกของผู้อื่น   เป็นผู้นำประเภททำทุกหนทางที่จะตักตวงสิ่งดีใส่ตัว   เพื่อที่จะได้รับการยกย่องสรรเสริญจากคนอื่น    ผู้นำที่ผยองพองตนมักเบียดและเขี่ยให้คนอื่นตกขอบจากความสำคัญเด่นดัง   ผลที่ได้รับคือการแปลกแยกปลีกตน และ สูญเสียเพื่อนร่วมงาน  ทีมงานที่ดีๆ ของเขา   แล้วจบลงด้วยการที่จะต้องแสวงหาทีมงานใหม่    แต่ภาระงานที่หนักอึ้งข้างหน้ามิได้รับการรับผิดชอบ

6.   “วันนี้”   คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผู้นำ

ผู้นำแสวงหาโอกาส  และผู้นำมักรู้สึกว่าโอกาสไม่ใช่สิ่งที่จะคว้าหมับไว้ได้ง่ายๆ   มันมักจะหลุดไหลออกจากกำมือของเราผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วมือ       แล้วก็มักเป็นสิ่งที่ผู้นำบางคนใช้กล่าวว่าอ้างว่า   ถ้าเขามีโอกาสอย่างนั้นอย่างนี้เขาจะสามารถสร้างความแตกต่างของผลที่เกิดขึ้น   แต่นั่นเป็นผู้นำที่ใช้อดีตในการแก้ตัว  หรือฟอกภาพลักษณ์ของตน   แต่ผู้นำกลุ่มนี้มักมองเมินความจริงที่ว่า วันนี้คือโอกาสตัวจริงที่เขาจะคว้าฉุดและใช้ให้เกิดผล

ผลหรือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเนื่องจากปัจจัยเงื่อนไขในอดีตมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว   มันเป็นผลที่เกิดขึ้นเบ็ดเสร็จในตัวของมันแล้ว   แต่ปัจจุบันเป็นโอกาสที่อยู่ข้างหน้าเราที่เราสามารถทุ่มเทความคิดความตั้งใจและพลังชีวิตของเราในการใช้โอกาสนี้ในการจัดการ   ดังนั้น  ให้เราเปิดใจกว้างด้วยมีสติ   และมองสิ่งที่อยู่ข้างหน้าให้เห็นชัดเจนตามความเป็นจริง    ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม   ย่อมเป็นโอกาสสำหรับเราจะสร้างสรรค์สิ่งดีที่จะตามมาจากการทุ่มเทจัดการของเรา

7.   สิ่งที่เป็นความสูญเสียสูงสุดของผู้นำคือ   การสูญเสียความหวัง

ความหวัง เป็นหนึ่งในความสำคัญยิ่งในชีวิตของผู้คน   เพราะความหวังในชีวิตคือพลังที่ผลักดันขับเคลื่อนชีวิตของคนๆ นั้น   ที่สร้างผลกระทบต่อสังคมคนรอบข้างด้วย   ความหวังเป็นพลังใจพลังชีวิตที่หนุนเนื่องเราให้คนๆ นั้นทนสู้ ยืนหยัด และเหนียวแน่นในยามที่ชีวิตประสบพบกับวิกฤติที่ยากลำบากสุดๆ   และเช่นเดียวกัน   ความหวังเป็นพลังที่ทำให้ชีวิตของเรามีชีวิตชีวาตื่นเต้น  และทำให้เราคาดหวังในสิ่งที่อยู่ข้างหน้า  เป็นแรงผลักดันให้เราก้าวเข้าไปในพรมแดนของอนาคต

ความหวังคือ  เหตุผลที่เรายังมีชีวิตอยู่   ความหวังคือตัวเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นความเป็นไปได้   ความหวังให้พลังความกล้าหาญในชีวิตที่เราทุกคนต้องการ   ความหวังเป็นแสงสว่างที่ปลายถ้ำอีกข้างหนึ่งที่เรามุ่งหน้าไล่ล่าตามติดให้ถึง    ดังนั้น  ถ้าผู้นำสูญเสียความหวังก็สูญเสียความเป็นผู้นำอย่างสิ้นเชิง

8.   ความผิดพลาดที่มหันต์ของผู้นำคือ  เอาตนเองเป็นเอกเหนือคนอื่น

ผู้นำที่หมกมุ่นครุ่นคิดถึงแต่ตนเองเป็นสูตรการเป็นผู้นำที่ไร้ประสิทธิภาพ และสิ้นคิด    เป็นผู้นำที่เราสามารถเห็นดาษดื่นทั่วไป   มักเป็นผู้นำที่ให้ทีมงานหรือลูกน้องทำให้แผนงานของผู้นำสำเร็จ   หรือทำตามแผนงานของผู้นำ... แต่ทำนายได้เลยว่า  ผู้นำคนนั้นจะไม่ได้ผลตามใจปรารถนาที่ตั้งไว้   

แต่ผู้นำที่มีวุฒิภาวะจะให้ความสนใจและความสำคัญแก่ความจำเป็นต้องการของทีมงานหรือลูกน้องเป็นเสมือนความจำเป็นต้องการของผู้นำเอง    แทนที่ผู้นำมุ่งมองที่จะใช้คุณค่าและความสามารถของลูกน้องเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จในวิสัยทัศน์ของตน   แต่ผู้นำที่มีวุฒิภาวะที่เพิ่มพูนหนุนเสริมคุณค่าคนในทีมงาน   หมายความว่าผู้นำหนุนเสริมให้ลูกทีมได้ไปถึงเป้าหมายในชีวิตของพวกเขา    ผู้นำแบบนี้มีเป้าหมายปลายทางในการเป็นผู้นำคือ  การรับใช้ทีมงานที่ทำงานด้วยกัน   แทนที่จะดูดดึงทักษะความสามารถ และ ศักยภาพของทีมงานรับใช้แผนงานต่างๆ ของผู้นำเอง    จอห์น แมกซ์แวล เคยกล่าวว่า  ท่านมีประสบการณ์และได้เรียนรู้ว่า    ความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับเมล็ดที่เราหว่านลงไป   มิใช่สิ่งที่เราเก็บเกี่ยวได้

9.   คำทูลขออธิษฐานที่ยิ่งใหญ่ของผู้นำคือ   ปัญญาจากเบื้องบน

ในพระธรรม 1 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 3  พระเจ้าจะประทานสิ่งที่กษัตริย์โซโลมอนจะทูลขอจากพระองค์   แทนที่โซโลมอนจะทูลขอความมั่งคั่งร่ำรวย  ชื่อเสียงเกียรติยศ   แต่ท่านทูลขอ “ปัญญา” จากพระเจ้าว่า   “พระองค์ทรงสำแดงความรักมั่นคงอันยิ่งใหญ่แก่ดาวิดผู้เป็นบิดาของข้าพระองค์และเป็นผู้รับใช้ของพระองค์...แต่ข้าพระองค์เป็นเพียงเด็กเล็ก   ข้าพระองค์ไม่ทราบว่าจะดำเนินการปกครองอย่างไรถูก   และผู้รับใช้ของพระองค์ก็อยู่ท่ามกลางประชากรของพระองค์ผู้ซึ่งพระองค์ทรงเลือกไว้  เป็นประชาชาติใหญ่   ซึ่งไม่สามารถนับหรือคำนวณได้   ฉะนั้น ขอพระองค์ประทานความคิดความเข้าใจแก่ผู้รับใช้ของพระองค์   เพื่อจะวินิจฉัยประชากรของพระองค์   เพื่อแยกแยะความแตกต่างระหว่างดีกับชั่วได้   เพราะใครจะสามารถวินิจฉัยประชากรมากมายนี้ของพระองค์ได้? (ข้อ 6-9  ฉบับมาตรฐาน)

ในการเป็นผู้นำ   เราจะต้องประสบพบเจอกับสถานการณ์ที่เราไม่เคยพบไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน   เราอาจจะถูกบีบรัดผลักดันให้ต้องตัดสินใจ   ภายใต้ภาวการณ์ที่ไม่แน่นอน  สุ่มเสี่ยง และเปราะบาง  ที่จะสร้างผลกระทบต่อสวัสดิภาพและคุณภาพชีวิตของผู้คนอื่น   ในภาวะเช่นนี้ผู้นำที่ดีคือผู้นำที่แสวงหาความรู้ความเข้าใจ   ผู้นำที่แสวงหาการเรียนรู้มาตลอด  ย่อมมีความแหลมคมมากกว่า   เพราะผู้นำเหล่านี้จะเรียนรู้ และ  พัฒนาทักษะใหม่ๆ สม่ำเสมอต่อเนื่อง   จนเกิดเป็นองค์ความรู้ในตัวผู้นำ   ที่ผู้นำกลุ่มอื่นด้อยขาดพลังความรู้และปัญญาเช่นนี้   เพราะขาดการติดตามแสวงหาความรู้ ความเข้าใจ และฝึกฝนทักษะอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง 

10.   ความปีติชื่นชมสุดๆ ของผู้นำคือ   เมื่อได้เพิ่มหนุนคุณค่าในคนอื่น

คนส่วนมากมักเห็นว่าสิ่งที่ดียิ่งใหญ่สุดของภาวะผู้นำคือ  การที่สามารถบรรลุความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ด้วยความกล้าหาญ  ไม่ว่าในด้านธุรกิจ  หรือการชนะในการแข่งขันต่างๆ   คงต้องบอกว่าไม่ใช่สิ่งผิดอันใดในการที่จะมีความก้าวหน้าบรรลุสำเร็จตามเป้าหมายในการงานที่ทำ   แต่สิ่งนี้มิได้นำความปีติชื่นชมมาสู่ชีวิตของคนๆ นั้นเสมอไป   แต่สิ่งที่นำความชื่นชมปีติมาสู่ผู้นำเสมอคือสัมพันธภาพ  ถ้วยรางวัล โล่ ยกย่องเกียรติคุณสักพักหนึ่งแล้วมันก็เป็นที่เกาะยึดของฝุ่นในบ้านในสำนักงาน   เป็นการทำให้ผู้นำได้รับมีความชื่นชมปีติเพียงชั่วครู่ชั่วยาม   แต่สิ่งที่จะคงเหลือที่ยาวนานยั่งยืนกว่าในชีวิตของคนเราคือความสัมพันธ์   อะไรอีกล่ะที่จะนำมาซึ่งความปีติชื่นชมและความพึงพอใจที่ทำให้ชีวิตมีความชุ่มชื่นไปกว่าการที่ผู้นำเสริมหนุนให้คน  ทีมงานที่เขารักได้รับการเสริมเพิ่มคุณค่าในชีวิตของพวกเขาเกิดความปีติชื่นชม  นั่นเป็นความชื่นชมยินดีที่สุดของผู้นำ

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น