อ่านอิสยาห์ 53:4-9
ท่านถูกบีบบังคับ และ ถูกข่มใจ
ถึงกระนั้นท่านก็ไม่ปริปาก
เหมือนลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า
และเหมือนแกะที่เป็นใบ้ต่อหน้าผู้ตัดขนของมันฉันใด
ท่านก็ไม่ปริปากของท่านเลยเช่นนั้น
(ข้อ 7 ฉบับมาตรฐาน)
ในสำนักงานแห่งหนึ่งที่ผมเคยทำงานด้วย เป็นสำนักงานที่มีการพูดคุยสื่อสารกัน แล้วเป็นการสื่อสารที่ใช้ปัญญามีเหตุมีผล
อีกทั้งคนในสำนักงานก็รู้เรื่องราวข่าวสารอย่างดี จนทำให้เราที่อยู่ในสำนักงานนั้นคิดไปว่าตนรู้อะไรต่อมิอะไรมากมายเกินกว่าความเป็นจริง ดังนั้น
คนในสำนักงานนี้จึงไวในการวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็น หรือไม่บางครั้งก็พูดล้อเล่นจนเพื่อนเสียหาย หรือไม่ก็กล่าวตำหนิบุคคลที่สาม
และที่ชัดเจนคือเราสวมหน้ากากแห่งความรู้เข้าหากัน
ในเทศกาลมหาพรตปีหนึ่ง ผมตัดสินใจลดละเลิกการกล่าวตอบโต้คนอื่น เพื่อผมจะได้กดปุ่มปิดปากตนเองให้หยุดเอื้อนเอ่ยปริปากอย่างไม่จำเป็น
และเพื่อผมจะได้มีโอกาสในการตรวจสอบให้รู้เท่าทันตนเองว่า อะไรคือแรงกระตุ้นที่ทำให้ผมพูดหรือตอบโต้คนอื่น
และดูว่าเมื่อตนสงบปากสงบคำแล้วทำให้เกิดผลเช่นไรบ้าง
พระธรรมที่เราอ่านตอนนี้เขียนขึ้นเมื่อกว่า
700 ปีก่อนที่พระคริสต์ทรงสภาพมนุษย์บนโลกใบนี้
เมื่อพระองค์เงียบและไม่ปริปากอะไรเลยต่อข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง พระองค์ไม่ยอมเอ่ยปากเพื่อปกป้องตนเอง ซึ่งทั้งสาวกของพระองค์ และ
ผู้ไต่สวนคาดหวังว่าพระองค์จะสามารถกล่าวปกป้องตนเองได้อย่างดี
แต่อิสยาห์ได้อธิบายไว้ก่อนแล้วว่า พวกเราทุกคนเป็นเหมือนแกะที่หลงทาง แล้วต่างคนต่างหันไปตามทางตนเอง (ข้อ 6)
ท่านต้องรับความทนทุกข์บอบช้ำเพราะการทรยศและความบาปผิดของเรา ท่านถูกลงโทษเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของเรา
การที่ท่านถูกเฆี่ยนตีลงโทษเพื่อชีวิตของพวกเราจะได้รับการรักษา (ข้อ 5)
ท่านถูกบีบบังคับและถูกข่มใจ
ถึงกระนั้นท่านก็ไม่ปริปาก (ข้อ 7)
การเงียบไม่ยอมปริปากอาจจะเป็นการดึงดูดความสนใจ หรืออาจจะถูกมองว่าน่าจะเป็นผู้กระทำผิด
หรืออาจจะทำให้เข้าใจว่าเป็นคนที่มีลับลมคมใน หรือมีแผนการลับๆ ทำให้ผู้คนฉงนสงสัยไปต่างๆ นานา
ในเทศกาลมหาพรตครั้งนั้นผมพยายามปริปากให้น้อยที่สุด ผมได้เรียนรู้ว่า
บ่อยครั้งที่เราด่วนปริปากพูดออกไปนั้นเป็นการถูกกระตุ้นให้สนองความอยากปรารถนาที่จะยกตนเองให้เหนือคนอื่น หรือไม่ก็แทรกตัวเข้าไปแล้วก็วิพากษ์เสนอความคิดเห็นโดยที่ยังไม่มีใครร้องขอ
บางครั้งเพื่อสนุกปากตอบสนองตัณหาในตนเท่านั้น และผมเรียนรู้อีกว่า
ความเข้มแข็งและสงบนิ่ง ไม่ปะทะ โต้แย้ง
และเป็นปรปักษ์ต่อกัน
เป็นตัวที่บ่มเพาะและเสริมสร้างให้ผมมีชีวิตคริสตชนที่เติบโตขึ้น
ในยุคที่สังคมไหลล้นด้วยข้อมูลข่าวสาร ทั้งเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ที่ยัดเยียดข้อมูลเรื่องราวจนทับถมชีวิตของเรา ขอให้พระคริสต์ “แกะ” ที่เงียบต่อหน้าคนตัดขนของมัน หรือเงียบแม้จะรู้ว่าตนกำลังถูกนำไปฆ่า
และพระองค์เงียบด้วยความเต็มใจ ด้วยความเชื่อฟัง
ยอมรับบาดแผลในชีวิต ทั้งนี้เพื่อจะเป็นการทรงเยียวยารักษาความป่วยไข้ของพวกเราอันเกิดจากการที่พวกเราทรยศต่อพระเจ้า ได้สอนให้เราเรียนรู้ที่จะร่วมในพันธกิจแห่งความเงียบ
ขอพระเจ้า ได้โปรดเยียวยารักษาความคิด
ความเข้าใจ ความตั้งใจ มุมมองชีวิต
และ เสริมสร้างเราแต่ละคนให้มีชีวิตคริสตชนที่เต็มใจ เชื่อฟัง ยอมที่จะ “เงียบ”
ท่ามกลางสถานการณ์ที่เราคิดว่าควรจะพูดเพื่อปกป้องตนเอง พูดเพื่อแสดงจุดยืนของตนเอง พูดเพื่อสำแดงความถูกต้องของตนเอง
พูดถึงความยุติธรรมและความชอบธรรมที่ตนเองควรได้รับ
ขอพระเจ้า โปรดให้พลังชีวิตแก่เรา “กล้าที่จะเงียบ” แม้ความเงียบนั้นนำความเจ็บปวดเกิดแก่ชีวิตของเรา
แม้ความเงียบนั้นทำให้ชีวิตของเราเกิดความสูญเสีย ขอเพียงให้ทราบว่า “การเงียบ” นั้นเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า และเป็นพระราชกิจแห่งการช่วยกู้ เยียวยา
และเสริมสร้างของพระองค์สำหรับมนุษย์และสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง และขอให้เราตระหนักรู้ว่า “การเงียบ” นั้นเราจึงได้มีโอกาสเข้าร่วมในพระราชกิจที่สำคัญยิ่งของพระคริสต์ ตามที่พระองค์ทรงเรียก เพื่อเราจะได้กลับไปสู่ชีวิตที่ยกย่องสรรเสริญพระองค์อีกครั้งหนึ่ง
ประเด็นเพื่อการใคร่ครวญและสะท้อนคิด
1. เมื่ออ่านพระธรรมอิสยาห์ในตอนนี้ที่กล่าวถึงภาพที่พระเยซูคริสต์เงียบไม่ปริปาก
ท่านเกิดภาพหรือความรู้สึกอะไรในความคิดและความรู้สึกของท่านบ้าง?
2. ในวันนี้
ท่านจะทดสอบที่จะ “เงียบ” ในที่ไหน? หรือ ในสถานการณ์อะไร?
3. เป็นการยากหรือลำบากมากน้อยแค่ไหน ที่วันนี้ท่านจะ “เงียบ”
เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางที่ทำงาน หรือ ท่ามกลางเพื่อนฝูงของท่าน? หรือท่ามกลางความขัดแย้งเอาแพ้เอาชนะ? เพราะเหตุใด?
ใคร่ครวญภาวนา
พระบิดาที่รัก
โปรดอย่าให้ข้าพระองค์ประเมินค่าชีวิตบนกางเขนของพระคริสต์ต่ำกว่าความเป็นจริง
ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระคริสต์ที่ทรงเป็นแบบอย่างชีวิตแห่งการเชื่อฟังและการเป็นผู้รับใช้แห่งพระวจนะ
โปรดให้ความรักเมตตาของพระองค์ควบคุมข้าพระองค์ให้ “เงียบ” แล้วรู้จักตั้งใจที่ “จะฟัง” อาเมน
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น