14 กุมภาพันธ์ 2557

วันนี้ชี้อนาคต

ท่านกำลังจมจ่อมอยู่ในอดีตแล้วฝันพิชิตอนาคต   หรือ

ท่านกำลังจัดการกับปัจจุบันเพื่อเกิดปลายทางในอนาคต?

คงเป็นการเปลืองเปล่าเวลาชีวิตที่เราคิดจะกลับไปแก้สิ่งผิดพลาดย่ำแย่ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว   เพราะเราแก้อดีตที่ผ่านพ้นไปแล้วของเราไม่ได้   และในเวลาเดียวกันเราจะมัวแต่ฝันหวานถึงความสำเร็จรุ่งโรจน์ในอนาคตโดยไม่ลงมือทำอะไรเลยในขณะนี้ก็เป็นการหลอกตนเองให้สบายใจ   และความทุกข์ที่อยู่ข้างหน้ากำลังคืบคลานเข้ามาหาเรา

เราต้องพิจารณา ตัดสินใจ และลงมือทำตั้งแต่เดี๋ยวนี้   เพื่อผลจะเกิดขึ้นตามเป้าหมายปลายทางในอนาคต

เปาโลได้เปรียบเทียบการขับเคลื่อนชีวิตของเรากับการเป็นนักกีฬาที่กำลังขับเคี่ยวบนลู่วิ่งแห่งชีวิตว่า

“... ข้าพ​เจ้า​ทำ​อย่าง​หนึ่ง คือ​ลืม​สิ่ง​ที่​ผ่าน​พ้น​มา แล้ว​โน้ม​ตัว​ไป​ยัง​สิ่ง​ที่​อยู่​เบื้อง​หน้า...”  (ฟิลิปปี 3:13)

ชีวิตที่มุ่งสู่หลักชัย   เพื่อจะฉวยเอาชัยชนะในชีวิตไว้   เปาโลให้หลักการสองประการคือ  ลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมา   เพราะไม่เป็นประโยชน์อะไรเลยที่จะมัวรู้สึกผิดหรือเจ็บปวด  เสียใจกับอดีต   ประการที่สองเปาโลชี้ว่า  ให้เราโน้มตัวไปยังสิ่งที่อยู่ข้างหน้า   การโน้มตัวเป็นภาพของนักวิ่งแข่งขัน   ที่ทุ่มแรงสุดกำลังชีวิตของเขาอย่างมีเป้าหมาย   และเป้าหมายในชีวิตของเปาโลคือพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของตน   กล่าวคือเปาโลกำลังหนุนใจเราว่า  เราต้องมุ่งมั่นทุ่มเทการดำเนินชีวิตของเราทุกหนทางให้ไปสู่เป้าหมายตามพระประสงค์ของพระคริสต์สำหรับชีวิตของเรา

ดังนั้น   วันนี้เป็นตัวชี้อนาคต   ซึ่งมีประเด็นชวนใคร่ครวญพิจารณาดังนี้

1. อนาคตอยู่ที่วันนี้:   วันต่อวันในความสำเร็จ

เวลาที่เราคิดเราพูดถึงอนาคต   เรามักคิดถึงอนาคตที่ยืดยาว   แต่สำหรับคริสตชนเรามองอนาคต “วันต่อวัน”  และเป็นวันต่อวันกับพระเจ้าเสียด้วย   เช่น   บางคนที่ต้องการเป็นนักเขียนที่สร้างพลังเร้าดลใจแก่ผู้อ่าน   แต่การที่จะเป็นนักเขียนระดับเช่นนั้นมิใช่อนาคตครับ   แต่เป็นวันนี้   วันนี้เราต้องเริ่มคิดและหยิบปากกาขึ้นเขียนครับ   จากนั้นเขียนอย่างต่อเนื่อง   พัฒนา แก้ไข  ปรับปรุงทั้งเนื้อหาและวิธีการเขียนของเรา   เป็นการพัฒนาแบบวันต่อวันครับ   และในกระบวนการวันต่อวันที่กล่าวนี้มิใช่ความมุมานะพยายามของเราแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น   แต่ในฐานะคริสตชนเรามีพระเยซูคริสต์ทรงเคียงข้าง  พระองค์จะเป็นโค้ชการเป็นนักเขียนของเรา   ด้วยการประทานพระปัญญาแก่เรา  ประทานการหล่อหลอมผ่านคนอ่าน  เพื่อนนักเขียน   ตัวอย่างการเขียนที่ดี  รวมถึงการดลใจจากพระองค์

สิ่งที่ต้องระวังคือ   เราต้องมุ่งมองที่หลักชัยให้ชัดเจน   เพื่อเราจะไม่พลาดจากเป้าหมายปลายทางแห่งพระประสงค์ของพระเจ้า    แต่ในเวลาเดียวกันสิ่งที่เราต้องพึงระวังอีกประการหนึ่งก็คือ   เรามักไปมองที่ “ความสำเร็จสมบูรณ์”  ซึ่งถ้าเราเปรียบเทียบจากปัจจุบันที่เราเป็นอยู่ดูมันช่างห่างไกลเหลือเกิน   การมองเช่นนี้อาจจะสร้างความท้อแท้แก่จิตใจของเรา   แต่ให้เรามองที่ “ความสำเร็จวันต่อวัน” ที่พระเจ้าประทาน ถ้าเช่นนี้จะมีกำลังใจที่จะมุ่งไปข้างหน้า

2.   ความสำเร็จในอนาคต:   ทำสิ่งที่ควรจะทำที่ไม่ได้ทำในอดีต

จากการสัมภาษณ์ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 80 ปีขึ้นไปว่า  “ถ้าท่านกลับไปมีอายุเป็นหนุ่มสาววัยทำงาน   ท่านจะทำอะไรที่แตกต่างจากสิ่งที่ท่านได้ทำเมื่ออยู่ในวัยนั้น?    เราได้รับคำตอบมากมายหลากหลายความคิดเห็น   แต่มีประเด็นหนึ่งที่สามารถสรุปว่าเป็นประเด็นร่วมและมีการเอ่ยถึงเกือบทุกคนคือ   ผู้สูงอายุกลุ่มนี้บอกว่า   ถ้าเขามีโอกาสเป็นหนุ่มสาววัยทำงานอีกครั้งหนึ่งสิ่งที่เขาต้องการทำแตกต่างจากที่เคยทำคือ  เขาจะกล้าเสี่ยงในชีวิตมากยิ่งขึ้น และมีความอดทนมากขึ้น  หมายความว่า พวกเขาจะไม่กลัวความล้มเหลวในชีวิต   ที่เป็นตัวกีดขวางให้เขาที่จะกล้าทำสิ่งใหม่ๆ  และจะทำด้วยความมั่นคงอดทน   เพราะถ้าไม่กล้าเสี่ยงเมื่อเวลาชีวิตผ่านไปแล้วมักจะเกิดคำที่ว่า   “จริงแล้วผมน่าจะทำสิ่งนั้นได้... หรือ  ฉันควรจะทำสิ่งนั้น...”

3.   เราไม่สามารถแก้ไขอดีต   แต่เราสามารถสร้างอนาคต

เราไม่สามารถย้อนกลับไปเริ่มต้นชีวิตอีกครั้งหนึ่งในอดีต   แต่เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เดี๋ยวนี้ ปัจจุบันนี้  และสามารถที่จะขับเคลื่อนเป้าหมายปลายทางชีวิตใหม่ได้   ใช่ เราจำเป็นต้องพูดและต้องเรียนรู้ถึงความผิดพลาดในอดีต   แต่ในเวลาเดียวกันเราไม่ควรให้โอกาสแก่ความรู้สึกจากความผิดพลาดในอดีตกลับมามีอิทธิพลทิ่มแทงบาดลึกสร้างความเจ็บปวดและบาดแผลในชีวิตของเรา   หรือเปิดทางให้ความรู้สึกผิด  หรือความคับข้องเคืองใจไล่ล่าความรู้สึกนึกคิดของเรา    เราต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัยแก่คนอื่น และ ให้ความรักเมตตาด้วยพระคุณของพระเจ้าแก่ตนเอง   ปลดภาระที่หนักอึ้งแห่งอดีตลงจากบ่าของเรา   วางไว้ที่ใต้กางเขนของพระคริสต์   แล้วเงยหน้าขึ้นรับความเป็นไทจากพระองค์

ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญ
  1. การกระทำใดที่ท่านจะต้องเสริมสร้างให้เป็น “พฤติกรรมชีวิตในปีใหม่นี้”   เพื่อช่วยให้สิ่งที่ท่านคาดฝัน หรือ เป้าหมายที่วางไว้ให้สำเร็จเป็นจริงได้?
  2. เพื่อให้งานอาชีพของท่านประสบความสำเร็จตามความมุ่งหมาย   ในปีใหม่นี้ท่านคิดว่าตนเองควร “กล้าเสี่ยง” และ “อดทน” ในการทำเรื่องอะไร ด้านไหน?
  3. มีใครบ้างที่ท่านจะต้องให้อภัย/ยกโทษ  เพื่อความขมขื่นในชีวิตของท่านจะไม่ฉุดกระชากลากถูชีวิตของท่านให้ต้องล่มล้มลง?     และท่านควรให้อภัยกับตนเองในเรื่องอะไรบ้าง?


ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น