26 กุมภาพันธ์ 2557

อะไรคือความ “มั่งคั่ง” ?

มุมมองที่ใช้ในการมองโลก   และท่าทีของท่านในการเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับโลก
คือตัวบ่งชี้ถึงความมั่งคั่งบริบูรณ์ที่แท้จริงในชีวิตของท่าน

คุณพ่อท่านหนึ่งจากครอบครัวที่มีความมั่งคั่งร่ำรวยต้องการที่จะสอนให้ลูกได้รู้ถึงความยากจนในชีวิตของผู้คน    จึงพาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในชนบท   แล้วเข้าไปขอพักแรม 2-3 วันในบ้านของชาวบ้านที่คุณพ่อเห็นว่ายากจนมากครอบครัวหนึ่ง

ขณะเมื่อกำลังเดินทางกลับ  ผู้เป็นพ่อได้ถามลูกชายของตนว่า “การมาพักแรมครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

“มันยอดเยี่ยมเลยครับพ่อ”

“ลูกได้เห็นไหมว่าผู้คนในหมู่บ้านต้องอยู่อย่างยากจน?”   ผู้เป็นพ่อตั้งกระทู้ถาม

“เห็นครับ”  ลูกชายตอบ

คุณพ่อพูดกับลูกต่อไปว่า  “ขอลูกช่วยเล่าให้พ่อฟังว่า  ลูกได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการพักแรมครั้งนี้”

ลูกชายเล่าให้ผู้เป็นพ่อว่า

ที่บ้านของเรามีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางสวนของเรา   แต่ที่บ้านของคนที่เราไปพักแรมด้วยเขามีลำธารธรรมชาติที่ยาวเหยียดไม่รู้ว่ามันยาวไปถึงที่ไหน

ที่บ้านของเรามีโคมไฟที่กลางสวน   แต่บ้านที่เราพักแรมในเวลากลางคืนเขามีดวงดาวมากมายนับไม่ถ้วน

ชานบ้านของเรายื่นออกไปถึงสนามหน้าบ้าน    แต่บ้านที่เราพักมีทุ่งนาเขียวขจีสุดขอบฟ้า

เรามีพื้นดินผืนเล็กๆ ที่เราอาศัยอยู่    แต่พวกเขามีท้องทุ่งสุดลูกหูลูกตา

เรามีคนใช้ที่คอยรับใช้พวกเรา   แต่พวกเขารับใช้คนอื่นๆ

เราต้องซื้ออาหารรับประทาน   แต่พวกเขาผลิตอาหารไว้รับประทานเอง   

เรามีรั้วรอบขอบชิดล้อมรอบทรัพย์สินของเรา   แต่เขามีเพื่อนบ้านคอยป้องกันชีวิตพวกเขา

พ่อของเด็กชายเงียบพูดไม่ออก   จากนั้นลูกชายพูดเพิ่มเติมว่า
“ขอบคุณคุณพ่ออย่างมากที่ช่วยให้ผมเห็นว่าเรายากจนมากมายแค่ไหน”

เมื่อใคร่ครวญถึงเรื่องราวข้างต้นที่ผมได้อ่านจากข้อเขียนของ  Chris Cade ทำให้ผมสำนึกถึงความรักเมตตา และ การหนุนช่วยตลอดชีวิตที่ผ่านมาที่มีในชีวิตของผม   ทั้งจากครอบครัว และ ผู้คนแวดล้อมในเวลาต่างๆ   ทั้งในเวลาทุกข์สุข   ในเวลาที่มีการท้าทายและมีการเปลี่ยนแปลง   เตือนให้ผมระลึกว่า   แท้จริงแล้วในชีวิตของผมได้รับความมั่งคั่งอย่างแท้จริงมากเพียงใด   รวมถึงความทุกข์ยากลำบากที่เป็นส่วนหนึ่งบนเส้นทางที่สร้างความมั่งคั่งสมบูรณ์แก่ชีวิตของผม

ผมยังได้เรียนรู้อีกว่า   เราสามารถสัมผัสถึงความมั่งคั่งในชีวิตไม่ว่าเราจะมีทรัพย์สินเงินทองมากน้อยแค่ไหน   อีกประการหนึ่งผมเรียนรู้ว่า   เราแต่ละคนต่างสมควรที่จะได้รับชีวิตที่มั่งคั่งอุดมสมบูรณ์อยู่ที่ว่าเราจะมองและให้คุณค่าและความหมายความมั่งคั่งบริบูรณ์นั้นอย่างไรต่างหาก

เมื่อผมใคร่ครวญชีวิตตนเองมาถึงตรงนี้   ทำให้ผมได้ยินเสียงเพลงหนึ่งในจิตใจว่า

ขอบพระคุณในความรักเมตตา   พระบิดาเบื้องบนประทาน
ขอบพระคุณสิ่งสรรพทรงบันดาล   มาเนิ่นนานด้วยรักการุณย์
ขอบพระคุณในภาระการงาน   การผ่อนพักเมื่อยามสายัณห์
ขอบพระคุณในความรักผูกพัน   ของประทานอันดีทั้งปวง

ทั้งขวากหนามหรือหนทางปลอดภัย   ทั้งอ่อนแอหรือใจมั่นคง
มืดหม่นหมองหรือสว่างดำรง   ทุกข์หรือสุขจงขอบพระคุณ
ความเจ็บปวดหรือยินดีปรีดา   ประทานมาทุกวันทรงนำ
พระวาจามีค่าประเสริฐล้ำ   เป็นสว่างส่องทางดำเนิน

ขอบพระคุณความเริงรื่นชื่นบาน   ทั้งอาหารเลี้ยงชีพดำรง
ขอบพระคุณความสัมพันธ์ยืนยง   ทรงบำรุงวิญญาณเปรมปรีดิ์
ขอบพระคุณในยามเศร้าโศกา   สุขหรรษาชื่นชมยินดี
ขอบพระคุณหวังใจในวันนี้   ชั่วชีวิตราบนิรันดร   อาเมน
(เพลงไทยนมัสการบทที่ 278  ขอบพระคุณในความรักเมตตา  Thanks, O God, For Boundless Mercy)

มนุษย์​แม้​มั่งคั่ง​แต่​หาก​ปราศ​จาก​ความ​เข้า​ใจ
เขา​ก็​พินาศ​เหมือน​สัตว์​เดีย​รัจ​ฉาน (สดุดี 49:20 มตฐ.)

บาง​คน​ยิ่ง​แจก​จ่าย​ยิ่ง​มั่ง​คั่ง
บาง​คน​ยิ่ง​หวง​สิ่ง​ที่​ควร​จ่าย​แจก​ก็​ยิ่ง​ขัด​สน  (สุภาษิต 11:24 มตฐ.)

คน​มั่ง​คั่ง​และ​คน​ยาก​จน​เหมือน​กัน​อยู่​อย่าง​หนึ่ง
คือ​พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​สร้าง​พวก​เขา​ทั้ง​สิ้น  (สุภาษิต 22:2 มตฐ.)

คน​ยาก​จน​ที่​ดำ​เนิน​ใน​ความ​ซื่อ​สัตย์​ของ​เขา
ก็​ดี​กว่า​คน​ที่​คด​โกง​ใน​ทาง​ของ​ตน​แล้ว​มั่ง​คั่ง  (สุภาษิต 28:6 มตฐ.)

ขโมย​นั้น​ย่อม​มา​เพื่อ​จะ​ลัก ฆ่า และ​ทำลาย
เรา(พระเยซูคริสต์)​มา​เพื่อ​พวก​เขา​จะ​ได้​ชีวิต​และ​จะ​ได้​อย่าง​ครบ​บริ​บูรณ์
เรา(พระเยซูคริสต์)​เป็น​ผู้​เลี้ยง​ที่​ดี ผู้​เลี้ยง​ที่​ดี​ย่อม​สละ​ชีวิต​ของ​ตน​เพื่อ​ฝูง​แกะ (ยอห์น 10:10 มตฐ.)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น