ให้ทุกคนถือว่าเราเป็น…เหมือนคนรับใช้ของพระคริสต์
และเป็นผู้รับมอบฉันทะให้ดูแลสิ่งล้ำลึกของพระเจ้า” (1โครินธ์ 4:1 มตฐ.)
เพราะฉะนั้นถ้าเราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระอาจารย์
ยังล้างเท้าของพวกท่าน
ท่านก็ควรจะล้างเท้าของกันและกันด้วย
เพราะว่าเราวางแบบอย่างแก่พวกท่านแล้ว
เพื่อให้ท่านทำเหมือนอย่างที่เราทำกับท่านด้วย
(ยอห์น 13:14-15 มตฐ.)
สำหรับท่านการเป็นคนใช้มีความหมายว่าเช่นไร?
แต่ในโลกปัจจุบันนี้ความหมายของการเป็นคนรับใช้มีความหมายเอนเอียงไปทางลบ คนที่เป็นคนใช้คือคนที่ต่ำต้อยคอยรับใช้คนอื่น เป็นคนที่อ่อนแอต้องพึ่งพิงคนอื่น
แต่สำหรับคริสตชนแล้วการเป็นคนรับใช้คือสถานภาพที่พระคริสต์ทรงมอบหมายให้เรา
เปาโลกล่าวว่า “ให้ทุกคนถือว่าเราเป็น…เหมือนคนรับใช้ของพระคริสต์และเป็นผู้รับมอบฉันทะให้ดูแลสิ่งล้ำลึกของพระเจ้า”
(1โครินธ์ 4:1 มตฐ.)
เปาโลเน้นย้ำในพระธรรมข้อนี้ว่า
ในฐานะที่เราเป็นคริสตชน
เราเป็นคนรับใช้ผู้คนรอบข้างเราในฐานะคนรับใช้ของพระคริสต์ และเรารับใช้พระองค์ในชีวิตประจำวัน และในหน้าที่การงานที่เรารับผิดชอบ
เราจะเป็นคนรับใช้ของพระคริสต์ได้อย่างไร?
ถ้าใครก็ตามที่บอกว่าตนเองเป็นผู้รับใช้ของพระคริสต์ ประการแรกที่สุดคือเราต้องมีเป้าหมาย และ
ความปรารถนาในชีวิตที่สอดคล้องเป็นตามพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของเรา
ผู้รับใช้ของพระคริสต์คือผู้ที่มีพระประสงค์ของพระคริสต์สำหรับชีวิต เป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของตน
นั่นหมายความว่าการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน แต่ละงาน
แต่ละสถานการณ์จะต้องดำเนินชีวิตตามที่พระคริสต์ประสงค์ แน่นอนว่า
การมีชีวิตที่รับใช้ตามน้ำพระทัยของพระคริสต์มิได้เกิดขึ้นหรือสำเร็จสมบูรณ์ทันที ต้องมีการบ่มเพาะ เลี้ยงดู
เสริมสร้างเพื่อให้เกิดการเจริญเติบโต และ เกิดผลในชีวิต นั่นหมายความว่า
คนรับใช้ของพระคริสต์แต่ละคนจะต้องดำเนินชีวิตตามแบบอย่างและเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้นทุกวัน นี่เป็นประการที่สอง
ถ้าชีวิตของเราจำเริญเติบโตเป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวัน เราก็จะเต็มใจที่จะรับใช้พระคริสต์ และรับใช้ในทุกสถานการณ์ชีวิตในพระนามของพระคริสต์
ในพระธรรมยอห์น
13:14-15
ภายหลังที่พระคริสต์ก้มลงทำความสะอาดด้วยการล้างเท้าของสาวกแต่ละคนแล้วเช็ดจนแห้งแล้ว พระองค์ตรัสสั่งสาวกของพระองค์ว่า
เพราะฉะนั้นถ้าเราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระอาจารย์
ยังล้างเท้าของพวกท่าน
ท่านก็ควรจะล้างเท้าของกันและกันด้วย
เพราะว่าเราวางแบบอย่างแก่พวกท่านแล้ว
เพื่อให้ท่านทำเหมือนอย่างที่เราทำกับท่านด้วย
(ยอห์น 13:14-15 มตฐ.)
พระเยซูคริสต์ตรัสแก่เราในวันนี้เช่นกันว่า ให้เราทำอย่างที่พระองค์ทำ ตามที่พระองค์เป็นแบบอย่างในชีวิตของเรา บ่อยครั้งเมื่อเรารับใช้คนอื่นได้สร้างความอึดอัด รู้สึกเสียหน้า ต่ำต้อย
ไม่สบายใจ
แต่นั่นเป็นการที่เรายอมทำตามพระบัญชาของพระคริสต์ แต่เราไม่มีทางเลี่ยงถ้าเรายังเต็มใจต้องการเป็นสาวกของพระองค์
และที่สำคัญถ้าเรายอมกระทำตามแบบอย่างของพระคริสต์ เราจะได้รับการเสริมสร้างใหม่จากพระองค์
และเราจะเติบโตเป็นเหมือนพระองค์มากยิ่งขึ้นทุกวัน
คงมีสาวกหลายคนคิดในใจว่า ถ้าให้ล้างเท้าของพระเยซูคริสต์ เท่าไหร่เท่ากันรับรองว่าตนยอมกระทำอย่างเต็มอกเต็มใจ
เพราะการรับใช้คนที่อยู่ในสถานภาพเหนือเราเป็นเรื่องปกติ และ
ในบางกรณีมีเกียรติเสียอีก
แต่พระคริสต์ทรงเน้นว่าให้ล้างเท้าแก่เพื่อนสาวกด้วยกันนี่สิ มันทำได้ยาก
มันเป็นหน้าที่ของคนใช้ในบ้าน
ไม่ใช่หน้าที่ของ “สาวก” ที่ติดตามพระเยซูคริสต์
เพราะเพื่อนสาวกอยู่ในระดับเดียวกับเราที่เรา และลึกๆ
แล้วเราต้องการแสดงให้เห็นว่าเราเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะก่อนหน้านี้พวกสาวกเกิดความขัดแย้งกันว่าใครจะได้ตำแหน่งซ้ายขวาของพระเยซูคริสต์
พระองค์รู้ดีว่า สาวกจะเกิดความไม่สบายใจอย่างยิ่งที่จะก้มลงล้างเท้าแก่เพื่อนสาวกคนอื่นๆ
เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของคนรับใช้ในบ้านในยุคนั้น สิ่งที่สาวกทูลขอจากพระเยซูคริสต์คือ “ตำแหน่ง” เพราะสาวกเห็นว่า
“ตำแหน่ง” ดังกล่าวมีผลบ่งบอกถึงศักดิ์ศรี ความสำคัญ
ชื่อเสียง เกียรติยศ การเป็นคนสำคัญของพระคริสต์ คนจะนับหน้าถือตา และตนคาดหวังว่าจะมีอำนาจโดยปริยาย
ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า
หลังจากที่พระคริสต์ทรงบัญชาให้กระทำตามอย่างพระองค์
นอกจากเราไม่ได้เห็นสาวกก้มลงล้างเท้าของเพื่อนสาวกด้วยกันตามพระบัญชาแล้ว ยังไม่มีสาวกแม้แต่คนเดียวที่ยอมก้มลงล้างเท้าให้แก่พระเยซูคริสต์
ท่านพอจะมีคำตอบบ้างไหมครับว่าทำไมสาวกไม่ยอมทำตามพระบัญชาของพระคริสต์?
ปัจจุบันนี้การที่จะค้นหาคริสตชนที่หมกมุ่นควานหาตำแหน่งไม่ยากครับ พบได้บ่อยออก
แต่คนที่ประกาศตัวว่า
“เป็นผู้รับใช้ของพระคริสต์”
มีมากมายหลายคน
แต่ก็ไม่ค่อยเห็นว่าคนพวกนี้ยอมมีชีวิตที่ก้มลงรับใช้คนรอบข้างในพระนามของพระคริสต์ ตามแบบอย่างที่พระองค์ทรงวางไว้ แต่กลับวิ่งบนเส้นทางคนละเส้นกับพระคริสต์ นอกจากไม่ทำแบบพระคริสต์แล้ว
ยังวิ่งสวนทางกับพระองค์ไขว่คว้าหาตำแหน่ง
ชื่อเสียง และศักดิ์ศรีแห่งตนไม่รู้จักพอ? ทั้งๆ
ที่ปากบอกว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญจีรังยั่งยืนก็ตาม
วันนี้ให้เรามีชีวิตตามพระบัญชา ที่รับใช้คนรอบข้างอย่างพระคริสต์ ในพระนามของพระองค์!
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น