07 กุมภาพันธ์ 2557

ท่านกำลังรับใช้ใคร? อะไร?

ให้ทุกคนถือว่าเราเป็นเหมือนคนรับใช้ของพระคริสต์
และเป็นผู้รับมอบฉันทะให้ดูแลสิ่งล้ำลึกของพระเจ้า” (1โครินธ์ 4:1 มตฐ.)

เพราะฉะนั้นถ้าเราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระอาจารย์
ยังล้างเท้าของพวกท่าน
ท่านก็ควรจะล้างเท้าของกันและกันด้วย
เพราะว่าเราวางแบบอย่างแก่พวกท่านแล้ว
เพื่อให้ท่านทำเหมือนอย่างที่เราทำกับท่านด้วย (ยอห์น 13:14-15 มตฐ.)

สำหรับท่านการเป็นคนใช้มีความหมายว่าเช่นไร?

แต่ในโลกปัจจุบันนี้ความหมายของการเป็นคนรับใช้มีความหมายเอนเอียงไปทางลบ   คนที่เป็นคนใช้คือคนที่ต่ำต้อยคอยรับใช้คนอื่น   เป็นคนที่อ่อนแอต้องพึ่งพิงคนอื่น   แต่สำหรับคริสตชนแล้วการเป็นคนรับใช้คือสถานภาพที่พระคริสต์ทรงมอบหมายให้เรา

เปาโลกล่าวว่า  ให้ทุกคนถือว่าเราเป็นเหมือนคนรับใช้ของพระคริสต์และเป็นผู้รับมอบฉันทะให้ดูแลสิ่งล้ำลึกของพระเจ้า” (1โครินธ์ 4:1 มตฐ.)   เปาโลเน้นย้ำในพระธรรมข้อนี้ว่า   ในฐานะที่เราเป็นคริสตชน  เราเป็นคนรับใช้ผู้คนรอบข้างเราในฐานะคนรับใช้ของพระคริสต์   และเรารับใช้พระองค์ในชีวิตประจำวัน   และในหน้าที่การงานที่เรารับผิดชอบ

เราจะเป็นคนรับใช้ของพระคริสต์ได้อย่างไร?

ถ้าใครก็ตามที่บอกว่าตนเองเป็นผู้รับใช้ของพระคริสต์   ประการแรกที่สุดคือเราต้องมีเป้าหมาย และ ความปรารถนาในชีวิตที่สอดคล้องเป็นตามพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของเรา

ผู้รับใช้ของพระคริสต์คือผู้ที่มีพระประสงค์ของพระคริสต์สำหรับชีวิต   เป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของตน

นั่นหมายความว่าการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน  แต่ละงาน  แต่ละสถานการณ์จะต้องดำเนินชีวิตตามที่พระคริสต์ประสงค์   แน่นอนว่า  การมีชีวิตที่รับใช้ตามน้ำพระทัยของพระคริสต์มิได้เกิดขึ้นหรือสำเร็จสมบูรณ์ทันที   ต้องมีการบ่มเพาะ  เลี้ยงดู  เสริมสร้างเพื่อให้เกิดการเจริญเติบโต และ เกิดผลในชีวิต   นั่นหมายความว่า  คนรับใช้ของพระคริสต์แต่ละคนจะต้องดำเนินชีวิตตามแบบอย่างและเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้นทุกวัน   นี่เป็นประการที่สอง

ถ้าชีวิตของเราจำเริญเติบโตเป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวัน   เราก็จะเต็มใจที่จะรับใช้พระคริสต์  และรับใช้ในทุกสถานการณ์ชีวิตในพระนามของพระคริสต์

ในพระธรรมยอห์น 13:14-15  ภายหลังที่พระคริสต์ก้มลงทำความสะอาดด้วยการล้างเท้าของสาวกแต่ละคนแล้วเช็ดจนแห้งแล้ว   พระองค์ตรัสสั่งสาวกของพระองค์ว่า 

เพราะฉะนั้นถ้าเราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระอาจารย์
ยังล้างเท้าของพวกท่าน
ท่านก็ควรจะล้างเท้าของกันและกันด้วย
เพราะว่าเราวางแบบอย่างแก่พวกท่านแล้ว
เพื่อให้ท่านทำเหมือนอย่างที่เราทำกับท่านด้วย (ยอห์น 13:14-15 มตฐ.)

พระเยซูคริสต์ตรัสแก่เราในวันนี้เช่นกันว่า   ให้เราทำอย่างที่พระองค์ทำ  ตามที่พระองค์เป็นแบบอย่างในชีวิตของเรา   บ่อยครั้งเมื่อเรารับใช้คนอื่นได้สร้างความอึดอัด  รู้สึกเสียหน้า   ต่ำต้อย  ไม่สบายใจ   แต่นั่นเป็นการที่เรายอมทำตามพระบัญชาของพระคริสต์   แต่เราไม่มีทางเลี่ยงถ้าเรายังเต็มใจต้องการเป็นสาวกของพระองค์   และที่สำคัญถ้าเรายอมกระทำตามแบบอย่างของพระคริสต์   เราจะได้รับการเสริมสร้างใหม่จากพระองค์  และเราจะเติบโตเป็นเหมือนพระองค์มากยิ่งขึ้นทุกวัน

คงมีสาวกหลายคนคิดในใจว่า   ถ้าให้ล้างเท้าของพระเยซูคริสต์   เท่าไหร่เท่ากันรับรองว่าตนยอมกระทำอย่างเต็มอกเต็มใจ  เพราะการรับใช้คนที่อยู่ในสถานภาพเหนือเราเป็นเรื่องปกติ และ ในบางกรณีมีเกียรติเสียอีก    แต่พระคริสต์ทรงเน้นว่าให้ล้างเท้าแก่เพื่อนสาวกด้วยกันนี่สิ   มันทำได้ยาก   มันเป็นหน้าที่ของคนใช้ในบ้าน   ไม่ใช่หน้าที่ของ สาวกที่ติดตามพระเยซูคริสต์   เพราะเพื่อนสาวกอยู่ในระดับเดียวกับเราที่เรา   และลึกๆ แล้วเราต้องการแสดงให้เห็นว่าเราเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ   เพราะก่อนหน้านี้พวกสาวกเกิดความขัดแย้งกันว่าใครจะได้ตำแหน่งซ้ายขวาของพระเยซูคริสต์

พระองค์รู้ดีว่า   สาวกจะเกิดความไม่สบายใจอย่างยิ่งที่จะก้มลงล้างเท้าแก่เพื่อนสาวกคนอื่นๆ   เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของคนรับใช้ในบ้านในยุคนั้น    สิ่งที่สาวกทูลขอจากพระเยซูคริสต์คือ ตำแหน่ง”   เพราะสาวกเห็นว่า ตำแหน่งดังกล่าวมีผลบ่งบอกถึงศักดิ์ศรี  ความสำคัญ  ชื่อเสียง  เกียรติยศ   การเป็นคนสำคัญของพระคริสต์   คนจะนับหน้าถือตา   และตนคาดหวังว่าจะมีอำนาจโดยปริยาย

ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า  หลังจากที่พระคริสต์ทรงบัญชาให้กระทำตามอย่างพระองค์   นอกจากเราไม่ได้เห็นสาวกก้มลงล้างเท้าของเพื่อนสาวกด้วยกันตามพระบัญชาแล้ว   ยังไม่มีสาวกแม้แต่คนเดียวที่ยอมก้มลงล้างเท้าให้แก่พระเยซูคริสต์  

ท่านพอจะมีคำตอบบ้างไหมครับว่าทำไมสาวกไม่ยอมทำตามพระบัญชาของพระคริสต์?

ปัจจุบันนี้การที่จะค้นหาคริสตชนที่หมกมุ่นควานหาตำแหน่งไม่ยากครับ   พบได้บ่อยออก

แต่คนที่ประกาศตัวว่า เป็นผู้รับใช้ของพระคริสต์”  มีมากมายหลายคน   แต่ก็ไม่ค่อยเห็นว่าคนพวกนี้ยอมมีชีวิตที่ก้มลงรับใช้คนรอบข้างในพระนามของพระคริสต์  ตามแบบอย่างที่พระองค์ทรงวางไว้   แต่กลับวิ่งบนเส้นทางคนละเส้นกับพระคริสต์   นอกจากไม่ทำแบบพระคริสต์แล้ว   ยังวิ่งสวนทางกับพระองค์ไขว่คว้าหาตำแหน่ง  ชื่อเสียง  และศักดิ์ศรีแห่งตนไม่รู้จักพอ?   ทั้งๆ ที่ปากบอกว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญจีรังยั่งยืนก็ตาม

วันนี้ให้เรามีชีวิตตามพระบัญชา  ที่รับใช้คนรอบข้างอย่างพระคริสต์  ในพระนามของพระองค์!

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น