แท้จริงแล้ว
ปัญหาไม่ใช่ปัญหา ที่มันเป็นปัญหาเพราะเรามองว่ามันเป็นปัญหา
แท้จริงแล้ว
สิ่งที่เรามองว่าเป็นมันปัญหา
โดยแก่นแท้ของมันกลับตรงกันข้าม
แท้จริงแล้ว
สิ่งนั้นเป็นปัญหาเพราะเราไปติดยึดและมีมุมมองว่าสิ่งนั้นเป็นปัญหาต่างหาก
เรามีมุมมองแบบไหนต่อสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นปัญหา? เราคิดคาดหวังว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ควรจะเกิดขึ้น แต่เมื่อมันไม่เป็นไปตามที่เราคาดคิด ใจของเราจึงรู้สึกว่า “มันต้องมีปัญหา”
แน่ หรือ
เราวางแผนงานในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างดีเราจึงคาดหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี
แต่มันก็ทำให้เราต้องแปลกใจที่ไม่เป็นไปอย่างที่คาดคิดตามที่วางแผน “เพราะมันมีปัญหา” ลึกๆ แล้วปัญหาคือการที่สิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือ
เหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคาดคิดตามที่เราวางแผนอย่างดี เราเรียกอาการเช่นนี้ว่า “ปัญหา”
แนวทางและวิธีการมองและจัดการของเราต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในสิ่ง/เหตุการณ์นั้นทำให้ไม่เกิดผลอย่างที่เราคาดคิดต้องการหรือตามแผนที่เราวางไว้ ธีโอดอร์ รูบิน เคยกล่าวไว้ว่า การที่เราใช้มุมมองและแนวทางที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นของสิ่ง/สถานการณ์นั้นๆ
เป็นตัวที่ก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มเข้ามานอกเหนือจากสิ่งที่เราคาดคิดต้องการ ดังนั้น
รูบิน เสนอแนะว่า
ในแต่ละครั้งของการวางแผนสิ่งหนึ่งสิ่งใดน่าจะมองให้กว้างและคาดหวังว่าอาจจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง
ด้วยการมองเช่นนี้จะช่วยให้เรามีมุมมองที่แตกต่างหรือกว้างกว่ามุมมองที่เราเคยชินติดยึด จึงสามารถมองหาแนวทางใหม่ๆ ที่จะจัดการกับสิ่งที่เราวางแผนนั้น และถ้าเกิดปัญหาขึ้นเราจะมองสิ่งที่เกิดขึ้นมิเป็นสิ่งนอกเหนือความคาดหวังของเรา แต่เป็นสิ่งที่เราเคยคาดคิดมาก่อน และจะได้หาทางแก้ไขและจัดการได้
แล้วเราจะมองสิ่งที่ระบุว่าเป็น “ปัญหา” อย่างไรดี? จอห์น ซี. แม็กซ์แวลล์
ได้ให้ข้อคิดมุมมองที่น่าสนใจต่อการเผชิญหน้ารับมือกับปัญหา ดังนี้
“ปัญหา”
เป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้น:
ประการแรกจากประสบการณ์ในการทำงานและการดำเนินชีวิตของเราปัญหามักเกิดขึ้นได้แม้ไม่คาดคิด แต่ถ้าเราทบทวนประสบการณ์เราจะพบว่า เมื่อเกิดปัญหาขึ้นทำให้เราแสวงหามุมมองอื่นๆ ในการมองประเด็นนั้นๆ
ที่เป็นปัญหา
และปัญหาดังกล่าวจะช่วยบอกเราว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นข้างหน้าบนเส้นทางนี้
“ปัญหา” ช่วยกระตุ้นเตือน:
เมื่อเกิดปัญหาขึ้นปัญหานั้นเป็นตัวกระตุ้นเตือนให้เราต้องคิดทบทวนถึงคุณค่า
เป้าหมาย และลำดับความสำคัญในงานที่เรากำลังดำเนินการ
ปัญหาเป็นตัวที่กระตุ้นให้เราต้องชัดเจนในงานที่เราปฏิบัติ และเมื่อเรายอมรับเอาคุณค่า เป้าหมาย
และลำดับสำคัญก่อนหลังของงานที่เราดำเนินการ
ทำให้เรามีการตัดสินใจที่ชัดเจนและมีกระบวนการดำเนินการอย่างมีเอกภาพและเป็นระบบ
“ปัญหา” ตัวเสริมสร้างความมั่นใจและมีมุมมองในเชิงบวก:
เมื่อปัญหาช่วยกระตุ้นให้เราเห็นชัดเจนถึงแนวทางที่เรามุ่งไป ก็จะเสริมให้เราเกิดความมั่นใจ และ
มีมุมมองในเชิงบวกต่อสิ่งที่เรากำลังทำและ “ปัญหา” ที่เกิดขึ้น เพราะ “ปัญหา”
ดังกล่าวไม่ทำให้เราต้องหลบลี้หนีมัน
แต่กลับเป็นสิ่งที่ยอมรับและช่วยให้เราดำเนินการด้วยความมั่นใจ และ
ด้วยจิตใจที่สงบมั่นคงมีสมาธิดีขึ้น
“ปัญหา” ตัวชี้นำถึง “พร” หรือผลอันดีที่จะเกิดแก่เรา:
“ปัญหา”
มิใช่เรื่องร้ายเรื่องไม่ดีเสมอไป
บ่อยครั้งปัญหาช่วยชี้นำให้เราเห็นถึงหนทางที่เราได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการดำเนินการตามแผนที่เรากำหนด คงไม่เป็นการพูดเกินความจริงว่า “ปัญหา”
คือตัวชี้ตัวนำสิ่งดีๆ มาสู่ชีวิตการงานของเรา
“ปัญหา” ให้บทเรียน:
เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหา ให้เราถามตนเองว่า
ฉันจะเรียนรู้อะไรได้บ้างจากปัญหานี้
ให้เรามองปัญหาเป็นตัวที่ให้บทเรียนสำคัญๆ แก่เรา
ปัญหาเป็นย่างก้าวที่เปิดให้เราเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สำหรับเราและทีมงาน
“ปัญหา” มีอยู่ทุกที่:
ให้เราคาดหวังได้เลยว่า
ไม่ว่าที่ใดก็ตามเราอาจจะต้องประสบพบกับปัญหา
ก้าวแรกของการเผชิญรับมือกับปัญหาอย่างสร้างสรรค์คือ การที่เรายอมรับว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นจริง
“ปัญหา” ให้สาระสัจจะแก่เรา:
เมื่อเราต้องเผชิญหน้ากับปัญหาแต่ละเรื่อง แต่ละปัญหาได้บอกถึงความจริง สาระสัจจะอะไรบ้างเกี่ยวกับตัวของเราเอง
เกี่ยวกับเพื่อนร่วมทีมงานของเรา
หรือบอกเราถึงสาระสัจจะอะไรบ้างเกี่ยวกับสถานการณ์นั้นๆ? ทุกครั้งที่เราประสบพบเจอกับปัญหาให้เราถามเสมอว่า อะไรคือสาระความจริงที่ปัญหาให้แก่เราในครั้งนี้ เพื่อเราจะไม่มองปัญหาอย่างลบๆ ร้ายๆ และช่วยให้เราเปิดใจเรียนรู้จากสถานการณ์นั้น
“ปัญหา”
เป็นสิ่งที่เรารับมือและจัดการได้:
มุมมองต่อปัญหานี้สร้างความแตกต่างแก่เราระหว่าง ปัญหาทำให้เรา “ก้าวหน้า” หรือ
ปัญหาที่ทำให้เรา “ติดแหงก”
การที่เรามีมุมมองว่าปัญหาเป็นสิ่งที่เราสามารถรับมือและจัดการแก้ไขได้ปลดปล่อยให้เรามุ่งใช้ความสามารถสร้างสรรค์ของเราในการรับมือกับปัญหา มากกว่าการหลบลี้หลีกเลี่ยงปัญหา หรือ หนีปัญหา
“ความคิดที่สร้างสรรค์ คือการที่คนๆ หนึ่งมองเห็นสิ่งนั้นๆ
อย่างที่คนอื่นเห็น
แต่เขาคิดต่อสิ่งที่เขาเห็นที่แปลกแตกต่างจากคนอื่น” Albert Szent-Gyorgyi
กล่าวไว้เช่นนั้น
เราคงต้องเปลี่ยนมุมมองและความเข้าใจต่อปัญหา
เพื่อที่เราจะสามารถมองสถานการณ์ที่เป็นปัญหา ที่คนอื่นเห็นว่าตีบตันไม่มีทางออกไม่มีคำตอบ เพื่อเราจะสามารถมองเห็นอีกโอกาสหนึ่งที่เปิดออกให้เราสามารถเติบโตขึ้นในชีวิตและสามารถก้าวข้ามความทุกข์ยากลำบาก ด้วยการที่เรามีมุมมองใหม่ต่อปัญหาที่จะเกิดขึ้นว่า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแน่ ยอมรับปัญหาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน และเผชิญ รับมือ และจัดการกับปัญหาต่างๆ ด้วยมุมองความคิดที่สร้างสรรค์ และการเผชิญหน้า รับมือ การจัดการเช่นนี้ปัญหาแทนที่จะเป็นอุปสรรคขวางกั้น แต่จะกลับกลายเป็นตัวนำความก้าวหน้ามาสู่ชีวิตของเรา
วันนี้ท่านทำตัวเป็นเหยื่อของปัญหา
หรือใช้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และเป็นพระพร!
ท่านเคยรับพระพรที่มาถึงเราผ่านทางปัญหาบ้างไหม?
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น