30 เมษายน 2557

วาทะจากกางเขน... ขอมอบจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์

เจ็ดปัจฉิมวาทะของพระคริสต์บนกางเขน

พระ​เยซู​ทรง​ร้อง​เสียง​ดัง​ตรัส​ว่า
พระ​บิดา ข้า​พระ​องค์​ขอ​มอบ​จิตวิญญาณ​ของ​ข้า​พระ​องค์​ไว้​ใน​พระ​หัตถ์​ของ​พระ​องค์
(ลูกา 23:46 อมต.)

ปัจฉิมวาทะที่เจ็ด คือ  “ขอฝากจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์”

เมื่อพระเยซูประกาศว่า “สำเร็จแล้ว”   พระองค์ประกาศว่า พระประสงค์ของพระบิดาสำเร็จในชีวิตของพระองค์แล้ว   อะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตของพระองค์ พระองค์ทรงวางใจในพระบิดา   พระองค์ทรงร้องเสียงดังว่า  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  ข้าพระองค์ “ขอมอบจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์”

พระเยซูทรงร้องเสียงดังคำกล่าวนี้ จากพระธรรมสดุดีบทที่ 31 (อมต.) โดยเฉพาะในข้อที่ 5

ในการที่เรามอบกายถวายชีวิตให้ชีวิตดำเนินไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้านั้น   มิได้บอกว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น   ไม่ได้ประกันว่าเราจะไม่พบเจอกับความทุกข์ยากลำบาก   มิได้ตอกย้ำว่าเราจะไม่ถูกข่มเหง และได้รับความอยุติธรรม   แต่จากประสบการณ์ชีวิตของผู้ประพันธ์สดุดี 31 ยืนยันว่า   ไม่ว่าจะมีโพยภัยใดๆ จะเล็กหรือใหญ่หลวง   ความชอบธรรมของพระเจ้าจะทรงช่วยกู้เราจากอำนาจเหล่านั้น (ข้อ 1) ดังนั้น ในการดำเนินชีวิตของตนตามน้ำพระทัยของพระเจ้าจึงจำเป็นที่จะต้องมอบจิตวิญญาณของตนไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ (ข้อ 5)   เพราะเมื่อชีวิตของท่านตกอยู่ในภาวะคับขัน   ท่านจะได้เห็นความรักอันอัศจรรย์ของพระเจ้า (ข้อ 21)

บนกางเขนของพระเยซูคริสต์ได้สำแดงถึงพระราชกิจที่กระทำตามพระประสงค์ของพระบิดา เป็นพระราชกิจแห่งการให้อภัยโทษด้วยความรักเมตตา เสียสละ ที่ไร้เงื่อนไข ที่สำแดงออกชัดเจนออกมาเป็นรูปธรรม แม้ว่าคนๆ นั้นจะเป็นอาชญากรก็มีโอกาสจะรับเอาการอภัยโทษนั้นได้   แต่ยิ่งกว่านั้น พระองค์ยังทรงสัญญากับคนบาปว่า   จะได้อยู่กับพระองค์ในที่ที่พระองค์อยู่    บนกางเขนนั้นเราเห็นถึงการเอื้ออาทรเอาใจใส่ดูแลกันและกันตามพระบัญชาของพระองค์  

แต่การกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าบ่อยครั้งที่กลับถูกตีตราว่ากระทำผิดบาป   ทั้งนี้เพราะการกระทำตามน้ำพระทัยพระเจ้าดังกล่าวเป็นการขัดต่อพระบัญญัติที่คนทั่วไปตีความตามกระแสนิยมและตามระบบคุณค่าของสังคมในสมัยนั้นๆ   แม้จะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า   แต่ก็ถูกกล่าวโทษกล่าวร้ายจากผู้คนในสังคม   ถูกกีดกันทำร้ายเพราะถูกมองว่าเป็นภัยต่อองค์กรพระศาสนา   และบ่อยครั้งถูกเฉดหัวให้ออกไปจากสังคมนั้น

ดังนั้น   การที่จะยืนหยัดการกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าได้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับพระกำลัง  ได้รับความอดทนจากพระเจ้า   ผู้ที่จะกระทำเช่นนั้นได้ต้องเป็นผู้ที่กระหายหาพระกำลังจากเบื้องบน   กระหายหาที่จะเห็น “พระพักตร์พระเจ้า” การชูช่วยจากพระองค์   จนกระทั่งที่จะถึงจุดที่จะร้องเสียงดังว่า “สำเร็จแล้ว”   พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จในชีวิตนี้แล้ว   ต่อไปนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะไม่หวั่นไหว   เพราะพระเยซูคริสต์ได้มอบจิตวิญญาณของพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระบิดาต่อจากนี้ไปคือโอกาสที่จะได้เห็นถึงความรักอันอัศจรรย์ของพระบิดา

พระราชกิจของพระเยซูคริสต์บนกางเขนที่สำแดงเด่นชัดแก่คริสตชนทุกคน   พระองค์ทรงส่งผ่านให้เราคริสตชนดำเนินชีวิตตามแบบอย่างชีวิตจากกางเขนของพระองค์  

เปาโลกล่าวว่า   “...ข้าพเจ้า​ถูก​ตรึง​ร่วม​กับ​พระ​คริสต์​แล้วข้าพเจ้า​เอง​ไม่​มี​ชีวิต​อยู่​ต่อ​ไป แต่​พระ​คริสต์​ต่าง​หาก​ที่​ทรง​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​ข้าพเจ้า ชีวิต​ซึ่ง​ข้าพเจ้าดำ​เนิน​อยู่​ใน​ร่าง​กาย​ขณะ​นี้ ข้าพเจ้าดำ​เนิน​อยู่​โดย​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า​ผู้​ได้​ทรง​รัก​ข้าพเจ้า และ​ได้​ทรง​สละ​พระ​องค์​เอง​เพื่อ​ข้าพเจ้า” (กาลาเทีย 2:19-20 มตฐ.)

ชีวิตของเราท่านถูกตรึงร่วมกับพระคริสต์แล้วหรือยัง?   และเรามั่นใจที่จะวางทั้งชีวิตในพระหัตถ์ของพระเจ้าหรือไม่?   ท่านได้สัมผัสความรักเมตตาที่เสียสละของพระเยซูคริสต์เพื่อท่านแล้วหรือยัง?

ในวันนี้ไม่ว่าชีวิตของเราเผชิญกับสถานการณ์เช่นใด   ให้เราตระหนักรู้ว่า   ถ้าเราต้องการที่จะมีชีวิตที่ดำเนินตามพระประสงค์ของพระเจ้า  เราต้องมอบจิตวิญญาณไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น