เมื่อเหตุร้าย หรือ
สถานการณ์ที่เราไม่พึงประสงค์ เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา ทันทีคำถามผุดขึ้นในห้วงความคิดและความรู้สึกของเรา มักเริ่มต้นคำถามว่า “ทำไม?”
ทำไมเขาถึงเดินออกไปจากชีวิตของฉัน?
ทำไมเพื่อนคนนี้ถึงไม่รักษาคำมั่นสัญญา?
ทำไมฉันจึงต้องเจ็บปวดซ้ำซาก?
ทำไมคนที่ฉันรักถึงต้องมาตายจากไปในเวลาที่ไม่สมควร?
ทำไมฉันต้องตกงาน?
ทำไมฉันต้องเป็นมะเร็ง? ทำไมต้องเป็นฉัน? ทำไมไม่เป็นคนอื่น?
ทำไม? ทำไม?
ทำไม?
แล้วคำตอบที่เรามักจะได้รับคือ “ไม่มีคำตอบ”
“ไม่รู้สิ”
โยบ...ถามพระเจ้าแรงกว่าเราครับ ทำไมพระเจ้าให้เขามีชีวิตแต่ชีวิตนี้ต้องทนกับความระทมทุกข์
(โยบ 3:20)
ดูจะเป็นธรรมชาติในความเป็นมนุษย์ที่ตั้งคำถามว่า “ทำไม” และเราท่านต่างถามคำถามนี้บ่อย ๆ ทั้งที่รู้ตัวและที่ไม่รู้ตัว ด้วยความเป็นมนุษย์ผมขอถามคำถามต่อไปว่า
“ทำไมมนุษย์ถึงมักถามคำถามว่าทำไม?”
เป็นไปได้ไหมว่า เพราะเรามีความคิดและเข้าใจที่ผิดพลาดว่า
“ความรู้จะแก้ปัญหาทุกอย่างได้”
เราถามว่า “ทำไม” เหมือนกับว่า
ถ้าเราได้คำตอบว่าทำไมเราถึงเป็นเช่นนี้ เราจะแก้ปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ได้
เราเข้าใจผิดว่าถ้าเรามีคำตอบในเรื่องนั้น
ๆ เราจะแก้สภาวะที่เราไม่พึงประสงค์นั้นได้
เราคิดผิดไปว่าเราสามารถแก้ปัญหาทุกปัญหาได้ เพียงถ้าเรามีคำตอบว่าทำไม
แต่ในความเป็นจริง เราไม่สามารถแก้ไขทุกสิ่งได้ แม้แต่นิสัยของเราเองบางอย่างเรายังไม่สามารถจัดการแก้ไขได้เลย แล้วเราจะไปเปลี่ยน ความคิด
จิตใจ และชีวิตที่เกี่ยวข้องกับคนอื่น
ๆ ได้อย่างไร
แล้วเราจะไปควบคุมกำกับกระแสต่าง ๆ ในสังคมได้อย่างไร? ตกลงเป็นอันว่า ถึงเราจะได้คำตอบแต่ในหลาย ๆ ครั้งเราก็ยังไม่สามารถที่จะจัดการแก้ปัญหาเหล่านั้นที่เราประสบได้เลย
ในฐานะที่เราเป็นคริสตชน
เรารู้ว่าการเรียนรู้ของมนุษย์เกิดขึ้นได้สองแนวทางใหญ่ ๆ คือ
แนวทางแรกเกิดจากการค้นหา ทดลอง
และการแสวงหาคำตอบของเรา
เราใช้สติปัญญา
เราใช้ความคิดตรรกะเหตุผลในการค้นหาเพื่อที่จะเรียนรู้
ในอีกด้านหนึ่ง
มีหลายเรื่องในชีวิตที่เราไม่สามารถค้นหาเรียนรู้จากวิธีการที่กล่าวข้างต้น แต่ต้องอาศัยการทรงเปิดเผยจากพระเจ้า ถึงพระราชกิจที่ทรงกระทำในชีวิตมนุษย์และในสังคมโลก พระราชกิจเหล่านี้พระองค์ทรงกระทำตามพระประสงค์ของพระองค์ มิใช่เพื่อตอบสนองความอยากรู้อยากเห็น หรือ ตามความต้องการรู้ของมนุษย์ ดังนั้น
การเรียนรู้จากการทรงเปิดเผยถึงพระประสงค์ของพระเจ้าจะค่อย ๆ ช่วยเราให้เข้าใจสถานการณ์ชีวิตแต่ละครั้งที่เกิดขึ้นกับเรา
ในภาวะวิกฤติต่าง ๆ ในชีวิตที่เราเผชิญอยู่ เราจะรับมือกับความทุกข์ยากเหล่านั้นได้อย่างไรคงไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่าเราได้คำตอบว่า
“ทำไม” ถึงเกิดขึ้นแก่เรา
แต่สิ่งที่เราต้องการคือ “กำลัง” และ “การหนุนช่วย” สิ่งนี้ต่างหากที่จะช่วยให้เราสามารถรับมือและจัดการกับวิกฤตินั้นด้วยความอดทนและจิตใจที่มั่นคง
พระเจ้าทรงเปิดเผยแผนการและพระราชกิจของพระองค์ผ่านทางธรรมชาติที่พระองค์ทรงสร้าง ผ่านพระวจนะที่บันทึกถึงพระราชกิจ พระประสงค์และน้ำพระทัยของพระองค์
และพระองค์ทรงเปิดเผยและสำแดงพระองค์ผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตของแต่ละคน และสถานการณ์ของสังคมโลกด้วย
การทรงเปิดเผยของพระเจ้าในแต่ละสถานการณ์ชีวิต เราต้องเข้าใจว่า
ประการแรก
การที่เราตกอยู่ในสถานการณ์ชีวิตที่คับขันยากลำบากนั้น
มิใช่เพราะพระเจ้าต้องการให้เราประสบความทุกข์ยากลำบากในชีวิต แต่ในหลาย ๆ สถานการณ์เกิดจากผลการตัดสินใจเลือก
และ การกระทำของมนุษย์คนนั้นเอง
ประการที่สอง สภาวะแวดล้อมที่เป็นต้นเหตุให้ชีวิตของเราต้องตกในสภาพที่ทุกข์ยากหรือเสี่ยงตาย ในภาวะเช่นนี้เราจึงหวังพึ่งในการนำของพระเจ้าให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์สำหรับชีวิตของเรา สิ่งที่เราทูลขอคงมิใช่ขอพระเจ้าช่วยให้เรารู้ว่าจะทรงนำเราไปในทางไหน ถึงแม้ว่าเรารู้แล้วเราก็จัดการตนเองไม่ได้อยู่ดี แต่เราทูลขอให้เรามีกำลังและความอดทนในการรอคอย
และมีจิตใจที่ไว้วางใจในการทรงนำ และยอมทำตาม
ประการที่สาม
ในการทรงนำแต่ละก้าวย่างในวิกฤตินั้นเองที่เป็นการทรงเปิดเผยถึงน้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของเราในเรื่องนั้น
เราได้เรียนรู้พระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตเรา
เราได้รับการทรงสร้างใหม่จากการใช้ชีวิตที่ก้าวย่างออกจากพลังอำนาจชั่วที่ทำให้เราตกอยู่ใต้วิกฤติ
เราได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นในการดำเนินชีวิต
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินชีวิตในวิถีแห่งพระประสงค์ของพระเจ้า
สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้เราเห็นถึงพระประสงค์
และ ชีวิตของเราชัดเจนมากยิ่งขึ้น
และทำให้เข้มแข็งเติบโตขึ้นในชีวิตที่เป็นสาวกของพระคริสต์
เพราะว่าบัดนี้เราเห็นสลัว ๆ เหมือนดูในกระจก
แต่เวลานั้นจะได้เห็นพระพักตร์ชัดเจน
เดี๋ยวนี้ความรู้ของข้าพเจ้าไม่สมบูรณ์
เวลานั้นข้าพเจ้าจะรู้แจ้งเหมือนพระองค์ทรงรู้จักข้าพเจ้า
(1โครินธ์ 13:12 มตฐ.)
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น