จากการต่อสู้ของดาวิดเด็กเลี้ยงแกะกับโกลิอัท
ทหารยักษ์ผู้ชำนาญศึก
น่าพิจารณาว่าอะไรที่ทำให้ดาวิดกล้ายืนหยัดด้วยความมั่นใจว่าตนจะสู้กับกับทหารร่างยักษ์ชาวฟิลิสเตียคนนี้ได้ ในขณะที่คนอื่น ๆ ในกองทัพอิสราเอลต่างถอยกรูดจนหัวหดด้วยความกล้ว? ต่อไปนี้คือสิ่งที่ดาวิดมีแตกต่างจากคนอื่น ๆ ในกองทัพ
1) มุมมองของเดวิดแตกต่างจากคนอื่น ๆ ในกองทัพอิสราเอล คนอื่นมองเห็นแต่ความพ่ายแพ้และการสูญเสีย แต่ดาวิดกลับมองเห็นโอกกาส
2) วิธีการทำศึกษาต่อสู้ที่แตกต่างกัน
เขาใช้เครื่องมือในการต่อสู้ที่ตนเองมีทักษะ ชำนาญ
ที่ตนเคยมีประสบการณ์ในการใช้อย่างคล่องแคล่ว และ เกิดผลมาแล้ว ดังนั้น เขาจึงใช้เครื่องมือดังกล่าวด้วยความมั่นใจว่าตนจะได้ชัยชนะในการต่อสู้
3) ดาวิดมีความเชื่อและความมั่นใจที่แตกต่างจากคนอื่น เขาได้ยินเสียงโกลิอัทที่ขู่คำรามว่าเป็นการหมิ่นประมาทพระเจ้าของอิสราเอล
และเขามั่นใจว่าพระเจ้าจะทรงเอาชนะและคว่ำเจ้ายักษ์ใหญ่ลงได้
(ดาวิดเห็นว่าชัยชนะนี้เป็นการต่อสู้ของพระเจ้า ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับความสามารถของตน)
4) นิมิต หรือ วิสัยทัศน์ของดาวิดแตกต่างจากคนอื่น
ดาวิดต้องการให้คนทั้งโลกได้รู้ว่า
พระยาเวห์คือผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ที่สุดในโลกนี้ ในขณะที่คนอื่นมองเห็นว่า พวกตนมีแต่ความพ่ายแพ้
5) ดาวิดมีประสบการณ์แตกต่างจากคนอื่น
ดาวิดมีประสบการณ์ที่พระเจ้าทรงช่วยเขาเอาชนะสิงโต และ หมีที่มากัดกินแกะของเขา
ดังนั้น ดาวิดจึงมิได้กลัวจนหัวหดอย่างคนอื่นเมื่อได้ยินเสียงขู่คำรามของโกลิอัท
6) ดาวิดมีเจตคติ มุมมอง ท่าทีที่แตกต่างจากคนอื่น เมื่อดาวิดมองโกลิอัทเขามิได้มองที่รูปร่างสูงใหญ่
บึกบึน อาวุธครบครัน แต่ดาวิดรู้ว่าท่ามกลางความสูงใหญ่ของโกลิอัทมีช่องโหว่ที่เป็นจุดอ่อนที่เขาจะล้มเจ้ายักษ์จอมอหังการตนนี้ได้
7) ดาวิดมองเหตุการณ์วิกฤติครั้งนี้ว่าเป็นพระราชกิจแห่งการทรงช่วยกู้อิสราเอลจากพระเจ้า ในขณะที่คนอื่น ๆ พยายามหาทางที่จะเอาชนะเจ้ายักษ์อย่างสิ้นหวัง
... “พระยาห์เวห์ผู้ทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากอุ้งเท้าของสิงโต
และจากอุ้งเท้าของหมี
จะทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากมือของคนฟีลิสเตียนี้” (1ซามูเอล 17:37 มตฐ.)
ในเหตุการณ์เดียวกัน เมื่อผู้นำมีมุมมอง กรอบคิด
ที่แตกต่างกัน
ย่อมก่อเกิดผลที่ตามมาที่แตกต่างกัน
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
Prasit.emmaus@gmail.com; 081 289 4499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น