คริสตจักรเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมืองในสองลักษณะใหญ่
ๆ คือ
การที่คริสตจักรท้องถิ่นเข้าไปข้องเกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่น หรือ
การเมืองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเลือกข้างกับการเมืองขั้วใดขั้วหนึ่ง
พรรคใดพรรคหนึ่ง
อาการเช่นนี้มักเกิดขึ้นในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้งในชุมชน/ประเทศ ในปีนี้จะมีการเลือกตั้งในไทย(???)
คริสตจักรควรมีจุดยืนทางความเชื่อและการปฏิบัติในเรื่องนี้ที่ชัดเจนบนรากฐานพระวจนะของพระเจ้า
ลักษณะที่สองของการที่คริสตจักรไทยนำเอาระบบและกระบวนการการเมืองมาใช้ในการ
“เลือกตั้ง” ผู้บริหารคริสตจักรระดับคริสตจักรภาค และ ระดับชาติ ซึ่งเป็นการใช้ระบบการแข่งขัน
เน้นเรื่องการเลือกตั้งเอาแพ้เอาชนะกันด้วยคะแนนเสียงข้างมาก จึงมีการหาเสียงกันในลักษณะต่าง ๆ เป้าหมายเพื่อให้ได้เสียงมากที่สุดเพื่อเอาชนะการเลือกตั้ง กระบวนการทั้งสิ้นนี้ สร้างผลกระทบต่อชีวิตของคริสตจักร และใช้กระบวนการ “ใฝ่ต่ำ”
ที่ตกลงในหลุมพรางแห่งอำนาจชั่ว
ที่ว่า “ใฝ่ต่ำ” เพราะ คริสตจักรแบ่งเป็นพรรคเป็นพวก แล้วมาต่อสู้เอาแพ้เอาชนะกัน เบื้องหลังเบี้องลึกคือการช่วงชิงอำนาจเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ตน
และพวกตนที่เอื้อผลประโยชน์ต่อกัน การเอาแพ้เอาชนะเช่นนี้
“เป็นการต่อสู้ด้วยเนื้อหนังและเลือด”
แล้วผู้นำคริสตจักรก็ตกลงไปในหลุมพรางของอำนาจชั่ว ผู้นำคริสตชนหันไปเลือกใช้อำนาจของ
“เทพผู้ครอง” “เทพผู้ทรงอำนาจ” “เทพผู้ทรงเดชานุภาพของโลก” “เหล่าวิญญาณชั่วในสถานฟ้าอากาศ” (ดู เอเฟซัส 6:12 อมธ.)
และผลที่ตามมาคือ อำนาจชั่วเหล่านั้นได้ทำให้ชุมชนคริสตจักรเกิดการทำร้ายทำลายกันเอง
จนเกิดความเสียหายและเป็นที่หัวเราะเยาะของสังคมโดยรอบ ถ้าเปาโลมาในยุคของเราก็คงจะเตือนสติเราแรง ๆ อย่างที่เตือนสติคริสตจักรกาลาเทียว่า
“แต่ถ้าท่านกัดและกินเนื้อกันและกัน
จงระวังให้ดี ท่านจะย่อยยับไปด้วยกัน” (5:15 มตฐ.)
ผู้นำคริสตจักร และ สมาชิกคริสตจักร
ต้องตัดสินใจว่า ตนจะเลือกมีชีวิตด้วยระบบคุณค่าใด
กล่าวคือจะเลือกที่จะดำเนินชีวิตด้วยระบบคุณค่าแห่งกระแสสังคมโลกปัจจุบันนี้ หรือ
เลือกที่จะดำเนินชีวิตตามระบบคุณค่าของพระกิตติคุณพระคริสต์ และ
แผ่นดินของพระเจ้า
การเลือกผู้นำ ผู้บริหารของคริสตจักร
วิธีการที่ดีกว่าที่ใช้ในปัจจุบันไม่มีแล้วหรือ?
เราต่างรู้อยู่กับใจว่า
การเลือกตั้งผู้บริหาร และ กรรมการระดับคริสตจักรชาติ เป็นการทรงเรียกของพระเจ้า วิธีการบนรากฐานพระคัมภีร์
จะมีวิธีการที่ดีกว่าที่เราไปลอกเลียนแบบจากการเมืองตามกระแสสังคมและประเทศไหม?
“การเมือง” เป็นเรื่องของการได้มาซึ่งอำนาจ และ
การใช้อำนาจ แต่สำหรับคริสตจักรแล้ว
สิทธิอำนาจสูงสุดพระเจ้าทรงมอบไว้ในพระคริสต์แล้ว
และสิทธิอำนาจที่เรารับจากพระคริสต์เป็นสิทธิอำนาจแห่งการ “รับใช้”
“สิทธิอำนาจแห่งการให้ชีวิต”
แก่ผู้คนในสังคมโลกนี้
เพื่อคนและสังคมโลกจะได้รับชีวิตใหม่
ดังนั้น อำนาจของผู้นำและผู้บริหารคริสตจักรต้องเป็นสิทธิอำนาจที่
“ได้จากพระคริสต์” และ
ใช้สิทธิอำนาจนั้นตามแบบอย่างและพระประสงค์ของพระคริสต์ เป็นการใช้สิทธิอำนาจในการ “รับใช้” และ “ให้ชีวิต”
แก่คนทั้งหลายด้วยความรักเมตตาอย่างไร้เงื่อนไขแบบพระคริสต์ เพื่อทุกคนจะได้เข้าถึงชีวิตใหม่ในพระองค์ เป็นประชากรที่อยู่ในแผ่นดินของพระเจ้า
แล้วการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ หรือ
ผู้บริหารคริสตจักรชาติ และ กรรมการระดับสูงของคริสตจักร ตลอดจนถึงกรรมการระดับอำนวยการของหน่วยงาน กรม
กอง ต่าง ๆ
ที่มีการดันเอาคนที่เป็นพวกของตนเข้าไป
มีพรรคมีพวก “หาเสียง” ในรูปแบบต่าง ๆ
วิธีการเหล่านี้ เป็นการได้มาซึ่งสิทธิอำนาจจากพระคริสต์ และ
ใช้สิทธิอำนาจเยี่ยงพระคริสต์แล้วหรือ?
รวมถึงกระบวนการใช้สื่อสาธารณะที่ทันสมัยของปัจจุบันทำร้ายทำลายคนอื่น
และบางคนก็รับเป็นมือโปรให้บางฝ่ายที่จะเอาชนะการเลือกตั้งในคริสตจักรชาติให้ได้ การกระทำเช่นนี้ส่อแสดงว่ามีจุดยืนทางความเชื่อศรัทธาของคริสตชนแล้วหรือ?
เราไม่คิดที่จะทุ่มเทในการอธิษฐานทูลขอพระเจ้าทรงประทานสติปัญญา
และ เปิดเผยวิธีการจากพระองค์บ้างเลยหรือ?
ให้เรากลับมาหาพระเจ้า
และขอการทรงนำ ทรงช่วย ในเรื่องนี้ได้ไหม?
ท่านคิดเห็นอย่างไร? ท่านมีข้อแนะนำบนรากฐานพระคัมภีร์อย่างไรบ้างครับ?
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
Prasit.emmaus@gmail.com; 081 289 4499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น