25 เมษายน 2561

ทำไมผู้นำถึง “หยุดนำ”?


ในตอนก่อนเราได้แบ่งปันกันถึงความจริงว่า  แม้ว่าใครที่มีตำแหน่งผู้นำทั้งในคริสตจักร หรือ ในองค์กร  มิใช่ทุกคนที่จะทำหน้าที่ “นำ” องค์กรของตนเสมอไป   และพบว่า มีผู้นำในตำแหน่งบางคนที่ “ไม่ได้นำ” หรือ “หยุดนำ”  ทั้ง ๆ ที่เราพบว่า เขาทำงานหนัก หรือ วุ่นกับงานในองค์กรของเขา

จากนั้น   เราได้ให้ประเด็นที่ใช้ในการบ่งชี้ว่า  ถ้าผู้นำที่ “นำ” ในองค์กรของตนเอง   จะมี 12 ประเด็นบ่งชี้ที่ชัดเจน  ถึงแม้จะไม่เกิดครบพร้อมทั้ง 12 ประการในครั้งเดียวกันก็ตาม   แต่สามารถประเมินว่า  ผู้นำคนนั้นของเรากำลัง “นำ” หรือ “หยุดนำ” ในฐานะและตำแหน่งผู้นำที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

หลายท่านคงถามต่อในใจว่า  แล้วทำไมจึงมีผู้นำที่ “ไม่นำ” หรือ “หยุดนำ” ล่ะ?

เหตุผล 10 ประการที่ผู้นำ “หยุดนำ”

1.   ผลกระทบสะสมจากการร้องเรียนและวิพากษ์วิจารณ์
การวิพากษ์วิจารณ์ หรือ การร้องเรียน  ทำให้เกิดความท้อแท้ง่ายกว่าการชื่นชม/ชมชื่น

2.  ยิ่งทำงานนานเท่าใด   ยิ่งทำให้จิตวิญญาณเหนื่อยล้ามากเท่านั้น
เราทุกคนต่างได้รับความเหนื่อยอ่อนในชีวิต   แต่ถ้าเมื่อใดที่ฤทธิ์ความเหนื่อยอ่อนแทรกตัวเข้าในไขกระดูกหรือจิตวิญญาณ   ย่อมทำให้คนนั้นยากที่จะก้าวต่อไปในชีวิตของเขา

3.  พยายามทำมากเกินไป  และมักทำงานคนเดียว
แทนที่จะนำ  ผู้นำกลับลงไปทำเอง  บ้างอาจจะเพราะไม่เชื่อ/มั่นใจว่าคนที่เรามอบหมายจะทำอย่างใจได้เลยรีบทำแทนหรือให้ทำตามที่ตนต้องการ  หรือไม่ก็นำแบบตัวคนเดียว ย่อมทำให้งานที่นำนั้นไม่ยั่งยืน

4.  กลัวที่จะประสบความล้มเหลว
ถ้าผู้นำมุ่งที่จะเลือกทำงานที่มีแต่ความปลอดภัย  ยอมเลี่ยงไม่ได้   เพราะตนกลัวว่าจะพบกับความล้มเหลว 

5.  สูญเสียความเชื่อแห่งการทรงเรียก และ แผนการของพระเจ้า
เมื่อผู้นำมืดมัว หรือ คลุมเครือ ไม่มีความชัดเจนในการทรงเรียกของพระเจ้า การอยู่ด้วยของพระองค์ และแผนงานของพระองค์   ผู้นำคนนั้นก็เกือบหมดสภาพในการนำของเขา

6.  ชีวิตส่วนตัวไม่มีการเจริญเติบโต
ไม่มีใครที่จะสามารถนำเกินกว่าประสบการณ์ชีวิตที่ตนผ่านพบและเรียนรู้มา ดังนั้น ถ้าผู้นำหยุดการมีประสบการณ์ใหม่ และ เรียนรู้สิ่งใหม่ชีวิตส่วนตัวไม่เติบโตก้าวหน้า  และก็จะทำให้การนำจมปลักอยู่กับที่

7.  การปล้ำสู้ในชีวิตส่วนตัว
เราต่างต้องเผชิญหน้าสถานการณ์ชีวิตกับการปล้ำสู้ในลักษณะต่าง ๆ เป็นครั้งคราว   แต่การที่จะต้องเผชิญหน้า ปล้ำสู้ ต่อสู้เรื่องนั้น ๆ เป็นเวลาต่อเนื่องยาวนาน เช่น ปัญหาชีวิตสมรส  ชีวิตครอบครัว  ปัญหาเรื่องสุขภาพ  สิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้ผู้นำคนนั้นหยุดในการนำของเขาได้

8. ไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลง หรือ ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง
เป็นไปไม่ได้ที่จะนำให้ก้าวหน้าและประสบความสำเร็จ หรือ ไปถึงอนาคตที่พึงประสงค์โดยไม่ได้นำสู่การเปลี่ยนแปลง

9.  ขาดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและน่าสนใจ
จะนำได้อย่างไรในเมื่อผู้นำเองยังไม่รู้ว่าทิศทางที่จะมุ่งหน้าไปอยู่ที่ไหน  

10. ทุ่มเทและพยายามมาเป็นเวลาที่ยาวนาน
ผู้นำก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง   แต่ถ้าผู้นำคนนั้นนำไปยาวนานแล้วยังไม่เกิดผล   เป็นการนำที่พยายามรักษาสภาพเดิมที่คริสตจักร หรือ องค์กรเป็นอยู่   และผลที่ได้รับก็เป็นไปแบบเดิม ๆ  ย่อม “หยุดนำ” ไปโดยปริยาย

เหตุผลประการหลักที่ผู้นำ “หยุดนำ” หรือ “ไม่นำ”  คือ ความท้อแท้หมดกำลังใจ

ความท้อแท้หมดกำลังใจเป็นผลที่สั่งสมรวมตัวเข้ากันของหลายสาเหตุ   แน่นอนว่าเราคงไม่เคยพบว่ามีผู้นำคนไหนที่ต้องพบกับสาเหตุข้างต้นทุกประการในการเป็นผู้นำของตน   แท้จริงแล้วแค่ สอง-สาม-สี่ ประการก็มากเกินพอแล้วที่จะเป็นสาเหตุร่วมที่ทำให้ผู้นำคนนั้น “หยุดนำ” หรือ “ไม่นำ”

การเริ่มตระหนักรู้ถึงสาเหตุต่าง ๆ ที่กล่าวข้างต้น  เป็นเพียงก้าวแรกที่ผู้นำจะไม่ตกเป็นเหยื่อ หรือ เบี้ยล่างของสาเหตุเหล่านั้น   แต่ทำให้เกิดการใคร่ครวญพิจารณาเพื่อแสวงหาแนวทางที่จะ “สยบ” สาเหตุเหล่านั้นก่อนที่จะตกให้เป็นเหยื่อให้มันจะบดขยี้เอา

เมื่อเราพบสาเหตุที่ทำให้ “หยุดนำ” หรือ “ไม่นำ”  แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปครับ?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
Prasit.emmaus@gmail.com;  081 289 4499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น