11 พฤษภาคม 2561

ทำอย่างไรดี...เมื่อต้องรอคอยคำตอบจากพระเจ้า?

เราท่านต่างมีประสบการณ์ว่า   เมื่อเราทูลขอหรือปรึกษาพระเจ้า   เราต้องรอคอยคำตอบจากพระองค์   แน่นอนว่าเราต้องการคำตอบทันที ทันเวลา ไม่เนิ่นนาน (เพราะการรอคอยก็เหนื่อยนะ!)  แต่หลายครั้งนักที่เราจะต้องร้องเพลงรอหลาย ๆ รอบเลยทีเดียว   จนเกิดคำถามในใจว่า ทำไมพระเจ้าไม่ตอบเราสักที?

ในสถานการณ์เช่นนี้   บางคนต้องการให้พระเจ้าทำอะไรบางอย่างที่ตนคาดว่า  นั่นน่าจะเป็นคำตอบจากพระเจ้า   แต่บางคนก็ต้องการแน่ใจจากพระเจ้าว่า  พระองค์จะให้ตนทำอย่างนั้นอย่างนี้ดีไหม?   แต่ทั้งสองทางเลือกนี้หลายคนบอกว่าไม่น่าจะใช่เช่นนั้น?   แล้วทางที่ใช่คืออะไรกันแน่ล่ะ?

เมื่อเรากำลังรอคอยคำตอบจากพระเจ้า  พระองค์ประสงค์ให้เราทำอะไรในเวลานั้น?

พระธรรมสดุดี 37:7 กล่าวไว้ว่า 
“จงสงบนิ่งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและเพียรรอคอยพระองค์
อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะเหตุที่พวกเขาประสบความสำเร็จในทางของเขา
เมื่อแผนชั่วของเขาลุล่วงไปด้วยดี” (อมธ.)

จากประสบการณ์พบว่า  เมื่อเราต้องรอคอยในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ตาม   ถ้าเราได้บ่นได้พูด ได้ปรึกษาเรื่องนั้นกับใครบางคน  และคนเหล่านั้นฟังเรา เราก็จะยังอดทนไปได้ในช่วงเวลานั้น   ท่านเคยมีประสบการณ์ในทำนองนี้ไหมครับ?

แต่พระเจ้าบอกแก่เราว่า “จงสงบนิ่ง”  เมื่อเราต้องรอคอยคำตอบจากพระองค์

ท่านเคยสังเกตเด็กอายุสักสองขวบไหมครับ   ถ้าเขาต้องรอคอยอะไรบางอย่าง   เด็กคนนั้นดูจะอยู่ไม่สุข  ขยุกขยิกอยู่ไม่นิ่ง  บ่อยครั้งที่เราผู้ใหญ่ที่ต้องรอคอย เรามักกระวนกระวายใจ  ว้าวุ่นใจ   จิตวิญญาณของเราอยู่ไม่สุข  บ้างถึงขั้น “เกิดอาการมึนทางจิตวิญญาณ”

เราเคยรอคอยสักพักหนึ่งแล้วยังไม่ได้มีคำตอบ   เรารู้สึกว่าเราจำเป็นลุกขึ้นทำอะไรบางอย่าง   แต่พระเจ้าบอกกับเราว่า  “รอคอยด้วยความอดทน  จงสงบนิ่ง  แล้วดูสิ่งที่เราจะกระทำ  อย่าเดือดเนื้อร้อนใจ   อย่าประสาทเสีย   แล้วก็อย่าคิดที่จะจัดการเรื่องนั้นด้วยตัวของเจ้าเอง”

ระวังครับ   อย่าทำความผิดพลาดอย่างที่อับราฮามเคยกระทำมาแล้ว!   ที่เขาพยายามที่จะตอบเรื่องที่เขารอคอยจากพระเจ้าเป็นเวลายาวนานด้วยการลงมือจัดการเอง

พระเจ้าให้คำมั่นสัญญากับอับราฮามว่า  พระองค์จะทรงอวยพระพรแก่เขา  และเขาจะเป็นบิดาของชนชาติใหญ่   แต่เขาพบกับปัญหาใหญ่สองปัญหา  ที่เขาคิดว่า การอวยพระพรครั้งนี้เป็นไม่ได้  ถ้าเป็นไปได้ก็ยากอย่างยิ่ง  คือ  ตัวของอับราฮามเองมีอายุปาเข้าไป 99 ปีแล้ว   นั่นยังไม่เท่าไหร่   แต่ที่แย่กว่านั้นคือ ซาราห์ ภรรยาของเขาเป็นหมัน   เมื่อดูสภาพการณ์แล้ว   อับราฮามถึงกับสั่นหัวว่า “ไม่มีทางเป็นไปได้?”   และยิ่งเมื่อต้องรอแล้วรออีก  ไม่ได้คำตอบสักที  ไม่เกิดเป็นจริงตามที่พระเจ้าพระสัญญา   อับราฮามก็ตัดสินใจว่า   ตนต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อจะช่วยให้พระสัญญาของพระเจ้าเป็นจริง

อับราฮามเข้าไปหลับนอนกับสาวใช้ของซาราห์ คือนางฮาการ์  เกิดบุตรชายชื่ออิชมาเอล   อับราฮามบอกพระเจ้าว่าพระสัญญาของพระองค์เป็นจริงแล้ว   แต่พระเจ้าบอกเขาว่า “ไม่ใช่แน่  เจ้าเข้าใจผิด  นั่นไม่ใช่คำตอบสำหรับพระสัญญาของเรา   แต่นั้นเป็นคำตอบของเจ้าที่มีต่อพระสัญญาของเรา   แต่คำตอบของเราตามพระสัญญาคือ   เจ้าจะมีบุตรชายที่เกิดจากนางซาราห์ภรรยาของเจ้า   และให้ตั้งชื่อว่าอิสอัค”  ซึ่งชื่อนี้แปลว่า “หัวเราะ”   เพราะเมื่อพระเจ้าบอกว่านางซาราห์จะตั้งครรภ์และกำเนิดบุตรชาย   เมื่อนางได้ยิน นางถึงกับหัวเราะ   เพราะนางไม่เชื่อว่านั่นมันจะเกิดเป็นจริงได้

ผลที่เราพยายามจะหาคำตอบของพระเจ้า  ด้วยการพยายามทำอะไรบางอย่างเพื่อเป็นคำตอบจากพระเจ้า  แทนที่จะ “นิ่งสงบ...และรอยพระองค์ด้วยความอดทน”   ผลที่เกิดขึ้นคือ  อิชมาเอล และ อิสอัค กลายเป็นสองชาติพันธุ๋ที่แข่งขัน ขัดแย้ง  และต่อสู้กันอย่างไม่รู้จักสิ้นสุดสักทีในประวัติศาสตร์โลก

จากเหตุการณ์ครั้งนั้น   คำตอบสุดท้าย คำตอบที่แท้จริง  เป็นคำตอบจากพระราชกิจที่พระเจ้าเป็นผู้ทรงกระทำ  มิใช่ความพยายามของเราเองที่จะช่วยพระองค์ตอบเรา ในสิ่งที่เรารอคอย   เพราะนั่นไม่ใช่คำตอบจากพระเจ้า   นั่นจะกลายเป็นปัญหาซ้อนปัญหาที่เราทำขึ้นเอง

จงนิ่งสงบ  รอคอยพระเจ้าด้วยความอดทน  เพราะพระองค์กำลังกระทำพระราชกิจของพระองค์ในชีวิตท่านและเหตุการณ์นั้น ๆ   และเมื่อถึงที่สุด  นั่นคือคำตอบจากพระองค์ที่ท่านรอคอย

วันนี้   ท่านอย่าพยายามทำบางสิ่งที่จะช่วยพระเจ้าตอบสิ่งที่ท่านรอคอยจากพระองค์   แต่...

วันนี้   ท่านจงนิ่งสงบ  อยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้า  รอคอยพระองค์ด้วยความอดทน   เพราะพระองค์กำลังกระทำพระราชกิจเพื่อให้คำตอบในสิ่งที่เรารอคอย

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น