เมื่อมีโอกาสไปในงานคริสตจักรท้องถิ่น ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับทั้งผู้นำคริสตจักร และสมาชิกคริสตจักรบางท่าน เมื่อพูดคุยถึงชีวิตในปัจจุบัน
มักหนีไม่พ้นที่จะต้องแวะเข้าเรื่องของลูกของแต่ละคนในยุคการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วรุนแรง ประเด็นหนึ่งที่ได้ยินได้ฟังหนาหูขึ้นคือ ความรู้สึกท้อแท้ ผิดหวัง ขมขื่น
บางคนเจ็บปวดหัวใจ
อันเนื่องจากการที่ลูกของตนเมื่อเติบโตขึ้นกลับ “ทิ้งเรื่องความเชื่อ”
“ไม่เอาเรื่องพระเจ้า”
ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ไปร่วมในคริสตจักรเท่านั้น แต่เขา “ทิ้งและไม่เอาพระเจ้า”
การดำเนินชีวิตของเขาสวนทางกับสิ่งที่เรียนรู้จากชั้นเรียนรวีฯ
ในคริสตจักร พฤติกรรมในชีวิตประจำวันสวนทางกับคำสอนในพระคัมภีร์ หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ลูกของเขาในยุคนี้ดูเหมือนเขาตัดสินใจเลือกที่จะมีชีวิตที่พ่อแม่เห็นว่า
ท้าทายและเสี่ยงอันตราย
ดูเหมือนพวกเขาเมินเฉยต่อสิ่งที่พ่อแม่เคยสั่งเคยสอน เป็นคนที่หุนหันพลันแล่นเอาแต่ใจตนเอง ไม่แยแสสนใจว่าคนอื่นจะมองตัวเขาอย่างไร
ลึก ๆ พ่อแม่คริสตชนเหล่านี้ท้อแท้และช้ำใจครับ
ผมมักถูกถามแบบตรง
ๆ และจริงจังว่า “เอ๊ะ...เราเลี้ยงลูกผิดอย่างไรหรือ
ลูกถึงกลายเป็นคนแบบนี้?”
แล้วจะให้ผมตอบอย่างไรดีครับ??? จริง ๆ แล้วผมไม่รู้จะตอบคำถามเหล่านี้อย่างไรดีครับ!
เหตุการณ์ทำนองนี้มิใช่เป็นปรากฎการณ์ใหม่
แต่เราเคยอ่านพบเหตุการณ์ในยุคในสมัยต่าง ๆ ที่ปรากฏในพระคัมภีร์แล้ว ไม่ว่าเรื่องที่พ่อแม่ของแซมสันประสบ
จนมาถึงความรู้สึกของพ่อแม่ที่มีต่อพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ไม่ได้เป็นอย่างที่ตนคาดคิด จนในบางช่วงแม่และน้อง ๆ คิดว่าพระเยซูบ้าหรือเปล่า?
ในข้อเขียนนี้
ขอศึกษาจากเรื่องของแซมสัน (ผู้วินิจฉัย บทที่ 13-16)
ทูตของพระเจ้าปรากฏและแจ้งแก่แม่ของแซมสันซึ่งเป็นหมันว่า นางจะตั้งครรภ์และมีบุตรชาย และบุตรชายคนนี้จะเป็น “นาศีร์”
สำหรับพระเจ้าตั้งแต่เกิด
และพระเจ้าจะทรงใช้เขาให้ช่วยกู้คนอิสราเอลให้พ้นจากการข่มเหงของพวกฟีลิสเตีย
(13:15)
ทั้งพ่อและแม่ของแซมสันดีใจและต้องการทุ่มเททั้งชีวิตในการเลี้ยงดูแซมสัน
เพราะเขาจะเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ให้กอบกู้อิสรภาพแก่อิสราเอลจากการถูกข่มเหงทำร้ายของพวกฟีลิสเตีย
ทั้งสองขอให้ทูตของพระเจ้าช่วยสอนเขาว่า เขาจะเลี้ยงดูลูกชายคนนี้อย่างไรที่พระเจ้าจะทรงใช้เขาได้
(13:8) และพ่อแม่หลายต่อหลายคนก็เคยอธิษฐานเช่นนี้ตั้งแต่ลูกอยู่ครรภ์มิใช่หรือ?
พ่อแม่ของแซมสันต้องการรู้ว่าเขาทั้งสองควรจะเลี้ยงดูลูกคนนี้อย่างไร?
และชีวิตของแซมสันจะเป็นอย่างไร? (13:12) ด้วยการทรงเรียกครั้งยิ่งใหญ่และสำคัญของพระเจ้า
พ่อแม่ของแซมสันคาดหวังอย่างแรงกล้าว่า
ลูกชายของเขาจะต้องเป็นคนที่กล้าหาญ เชื่อฟัง และทำให้คนอิสราเอลชื่นชมยินดีแน่
แซมสันเติบโตขึ้นและพระเจ้าทรงอวยพระพรเขา
(13:24) และพระเจ้าทรงใช้เขาที่จะช่วยกอบกู้อิสราเอล แต่แซมสันไม่ได้เป็นลูกที่เชื่อฟังและน่าชื่นชมยินดี แต่เขากลับกลายเป็นคนที่หุนหันพลันแล่น บ้าบิ่น
ไม่ยั้งคิด เอาแต่ใจตนเอง เขากลายเป็นคนตรงกันข้ามกับลักษณะคนดีในพระคัมภีร์ เขาทำตัวไม่สนใจใยดีใครและเห็นแก่ตัว
เมื่อถึงวัยที่จะแต่งงาน
พ่อแม่ต้องการให้เขาแต่งงานกับหญิงสาวยิวที่ดี แต่แซมสันดื้อด้านไปแต่งงานกับหญิงฟีลิสเตีย
แซมสันพูดกับพ่อแม่ว่า ให้พ่อแม่ไปขอสาวชาวฟีลิสเตียมาให้เขาเป็นเมีย “...เพราะนางต้องตาต้องใจลูกมาก” (14:3) พ่อแม่คงหนักใจอย่างมากที่ลูกจะแต่งงานกับ
“หญิงที่ไม่ได้เข้าสุหนัต” และคงหนักใจมิใช่น้อยว่า แล้วคนอิสราเอลจะมองอย่างไร จะว่าอย่างไร? พ่อแม่ของแซมสันคงถามตนเองว่า ที่ผ่านมาเขาเลี้ยงแซมสันผิดพลาดอย่างไรแซมสันถึงเป็นคนเช่นนี้?
แต่พระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า “บิดามารดาไม่ทราบว่า
เรื่องนี้เป็นมาจากพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ทรงหาช่องทางที่จะต่อสู้พวกฟีลิสเตีย
ในเวลานั้นพวกฟีลิสเตียมีอำนาจเหนืออิสราเอล” (14:4 มตฐ.)
แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่า
ส่วนตัวแซมสันเองไม่ได้มองว่าที่ตนต้องการหญิงฟีลิสเตียมาเป็นเมีย มิใช่เพราะเขาเห็นว่านั่นเป็นการทำตามแผนการของพระเจ้า
แต่พระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า แซมสันบอกให้พ่อไปขอนางมา “... เพราะนางต้องตาต้องใจลูกมาก” (14:3) และเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในความคาดคิดของพ่อแม่แซมสันแน่
ขอย้ำว่า...ที่แซมสันต้องการแต่งหญิงฟีลิสเตีย
เพราะนางเป็นที่ต้องตาต้องใจแซมสัน ที่เขาต้องการแต่งงานกับสาวฟีลิสเตีย เพราะเขาชอบเขาต้องการเช่นนั้น
เขาไม่ได้ตัดสินใจเพราะต้องการทำตามแผนการของพระเจ้า
เมื่อเราตัดสินใจทำสิ่งที่
“ต้องตาต้องใจของเรา” โดยปราศจากการใคร่ครวญ คิด พิจารณาว่า ถ้าตัดสินใจทำเช่นนั้นแล้วจะเกิดผลอะไร ส่วนมากแล้วเราก็ตรงรี่เข้าหาความหายนะแห่งชีวิต
ทุกวันนี้คนยุคใหม่
คนทันสมัย เลือกทำสิ่งต่าง ๆ ตามที่
“ต้องตาต้องใจ” ของตนเองมิใช่หรือ
ที่มักนำสู่จุดสุดท้ายคือความหายนะแห่งชีวิต
เมื่อลูกของเราใช้ค่านิยมตามกระแสสังคมเช่นนี้ แล้วเราจะเชื่อวางใจในพระองค์อย่างไรดี?
และถ้าเกิดขึ้นกับท่านเอง ท่านจะรับมืออย่างไร? แล้วจะเชื่อวางใจพระเจ้าอย่างไรดี?
ท่านจะมีคำตอบสำหรับการแบ่งปันครั้งต่อไปอะไรบ้างครับ?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น