04 พฤษภาคม 2561

ผู้นำคริสตจักรที่เป็นพิษ...ไม่นำแต่ผลักดันคนอื่นให้ทำ


ผู้นำที่ไม่นำ   แต่ผลักดันให้สมาชิกทำ!

โค้ชคนหนึ่งได้บอกกับศิษยาภิบาลหนุ่มว่า  สมาชิกในคริสตจักรไม่อยากจะไปที่ไหนทั้งนั้น   นอกจากศิษยาภิบาลเต็มใจไปและตัวศิษยาภิบาลเองต้องไปที่นั่นก่อน   กล่าวอีกนัยหนึ่ง  สมาชิกจะไปในที่ที่ศิษยาภิบาลไป   ศิษยาภิบาลเป็นคนที่นำพวกเขาไปที่นั่น (หมายความว่า  แม้ศิษยาภิบาลบอกให้สมาชิกไป   แต่ตัวศิษยาภิบาลไม่ไป   สมาชิกก็ไม่เต็มใจที่จะไป)

ศิษยาภิบาลส่วนมากมีประสบการณ์ในการผลักดันให้สมาชิกทำพันธกิจด้านต่าง ๆ  ศิษยาภิบาลท่านหนึ่งแบ่งปันในกลุ่มจากประสบการณ์ว่า... 

“ครั้งแรกเมื่อผมพยายามผลักดันให้สมาชิกกลุ่มหนึ่งเข้าไปมีส่วนทำพันธกิจคนที่อยู่ในความทุกข์ยากในชุมชน (และในที่นี้รวมถึง พันธกิจในเรือนจำ  พันธกิจนักเรียนในโรงเรียน  พันธกิจในบ้านพักคนชรา  พันธกิจในการประกาศพระกิตติคุณ  และ พันธกิจเด็กและเยาวชนในคริสตจักร   พันธกิจด้านคริสเตียนศึกษา)   ผมรู้สึกท้อแท้ใจ   เพราะเมื่อผมผลักดันให้ทำพันธกิจใด ๆ   มันจะเคลื่อนไปเพียงนิดเดียวชั่วครั้งชั่วคราวแล้วก็เลิกทำ”  

“ผมมาเรียนรู้ความจริงจากโค้ชศิษยาภิบาลว่า  ถ้าจะให้พันธกิจใดขับเคลื่อนไปอย่างมีพลังและยืนยาวต่อเนื่อง   สิ่งแรก ตัวผมเองในฐานะศิษยาภิบาลจะต้องนำและทำให้พวกเขาเห็น  พวกเขาถึงจะลงไปทำพันธกิจนั้น ๆ   ไม่อย่างนั้น เขาก็ไม่ลงไปทำแน่นอน...”

การที่ศิษยาภิบาล/ผู้นำคริสตจักร (ในที่นี้มิได้หมายถึงศิษยาภิบาลเท่านั้น แต่รวมถึงผู้ปกครอง มัคนายก และ ผู้นำคริสตจักรต่าง ๆ ด้วย) พยายามผลักดันให้สมาชิกทำพันธกิจ แต่ตนเองมิได้นำลงไปทำ และ ทำให้สมาชิกได้เห็นและเรียนรู้   นั่นเป็นศิษยาภิบาลที่เป็นพิษต่อชีวิตคริสตจักร   เราควรเลิกในการผลักดันสมาชิกคริสตจักรในการทำพันธกิจ   แต่ให้ทำหน้าที่นำและทำพันธกิจนั้นๆด้วยตนเองก่อน  เพื่อนำคนอื่น และ ช่วยให้คนอื่นรู้ว่าจะทำอะไร และทำอย่างไร แล้วค่อยหนุนเสริมจนมีสมาชิกเข้ามารับผิดชอบพันธกิจนั้นอย่างเต็มกำลังและต่อเนื่อง

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น