เรื่องชีวิตจริง
ที่พระเจ้าตอบคำอธิษฐานอย่างเหลือเชื่อ บทเรียนสำคัญสำหรับชีวิตของเราครับ!
คำอธิษฐานของหญิงสามัญชน
ที่พระเจ้าตอบคำอธิษฐานเรื่องลูก ด้วยการทรงเรียกและทำพระราชกิจเปลี่ยนชีวิตของหมอที่เรืองนาม
กระผมขอขอบคุณ คุณอนุสรณ์ สมสิริ ที่ได้กรุณาส่งเรื่องราวนี้มาให้ผมได้อ่าน ผมเข้าใจเอาเองว่า ท่านส่งมาเพื่อตอบสนองข้อเขียนก่อนหน้านี้ของผม
เรื่อง “ทำอย่างไรดี...เมื่อต้องรอคอยคำตอบจากพระเจ้า?”
ผมเลยถือวิสาสะที่จะส่งต่อมายังท่านที่เคารพได้อ่านด้วย ผมถอดความเรียบเรียงใหม่เป็นภาษาไทย มิได้แปลจากต้นฉบับโดยตรงครับ
ดร.อับราฮาม นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางโรคมะเร็ง ที่คนทั่วไปที่รู้จักดี เขาต้องเดินทางไปร่วมสัมมนาและรับรางวัลจากงานวิจัยทางการแพทย์ของท่านยังต่างเมือง
เขาได้เดินทางไปในงานนั้นด้วยเครื่องบิน
ภายหลังการเหินสู่ฟ้าบินไปได้ประมาณ 2 ชั่วโมง เครื่องบินลำดังกล่าวต้องลงจอดฉุกเฉิน ณ
สนามบินที่ใกล้ที่สุด อันเนื่องจากความขัดข้องทางเทคนิค
แต่เนื่องจากท่านกลัวว่าจะไปไม่ทันเวลาของการประชุมดังกล่าว
ท่านจึงได้ไปสอบถามข้อมูลรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทเครื่องบิน ท่านได้ข้อมูลว่าเขาจะต้องรอไปอีก
10
ชั่วโมงสำหรับเครื่องบินเที่ยวต่อไป
เขาตัดสินใจเช่ารถขับเองไปยังที่ประชุมซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
พอเขาขับรถเช่าออกไปได้ไม่เท่าไหร่
อากาศเกิดแปรปรวน พายุเริ่มโหมแรง ฝนที่ตกลงอย่างหนักทำให้ท่านไม่สามารถเห็นถนนได้ชัดเจน
ท่านขับเลยแยกที่ควรจะเลี้ยว... คุณหมอหลงทาง
การขับรถหลงทางบนถนนเปลี่ยว
รู้สึกอารมณ์เสียและเหน็ดเหนื่อย ท่านพยายามมองหาเครื่องหมายที่จะบอกทางไปในเมือง ท่านได้เจอบ้านที่ซอมซ่อข้างทางหลังหนึ่ง ท่านจอดและเคาะที่ประตู หญิงสาวสวยคนหนึ่งเปิดประตู
ท่านพยายามอธิบายให้หญิงคนนั้นทราบถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายของตน เพื่อจะเป็นเหตุผลขอยืมโทรศัพท์ของเธอ
แต่เธอบอกว่าเธอไม่มีโทรศัพท์ แต่หญิงคนนั้นได้เชิญให้ ดร.อับราฮาม
ให้เข้ามาในบ้านก่อน
ให้รอจนกว่าฟ้าฝนจะดีขึ้นกว่านี้ค่อยเดินทางต่อ คุณหมอที่กำลังหิวและอ่อนแรงรับคำเชิญ
หญิงคนนั้นได้ทำอาหารและเครื่องดื่มให้คุณหมอ
หญิงสาวได้เชิญชวนคุณหมอให้ร่วมอธิษฐานกับเธอ
แต่คุณหมอปฏิเสธ สำหรับคุณหมอแล้ว ท่านเชื่อในการทำงานหนัก ไม่ใช่มัวแต่นั่งอธิษฐาน!
คุณหมอนั่งอยู่บนโต๊ะและจิบน้ำชาของตน
ท่านสังเกตเห็นหญิงคนนั้นอธิษฐานอย่างมากข้าง ๆ เปลทารกน้อยของเธอ หมอรู้สึกว่าหญิงคนนี้ต้องกำลังเผชิญกับปัญหาหนัก
และ ต้องการความช่วยเหลืออย่างแน่นอน คุณหมอได้ถามหญิงนั้นว่า จริง ๆ แล้ว...เธอต้องการอะไรจากพระเจ้า
และพระเจ้าเคยฟังและตอบคำอธิษฐานของเธอหรือไม่?
เมื่อคุณหมอถามถึงทารกที่อยู่ในเปล
หญิงคนนั้นอธิบายว่า เด็กคนนี้เป็นลูกชายของตน ขณะนี้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และทางโรงพยาบาลได้แนะนำให้เธอพาลูกของเธอไปพบแพทย์ที่ชื่อว่า
อับราฮาม หมอคนนี้จะรักษาให้ลูกขอเธอหายได้ แต่เธอบอกว่าเธอไม่มีเงินพอสำหรับค่ารักษาแน่
เธอบอกหมอต่อไปว่า
ตอนนี้พระเจ้ายังไม่ได้ตอบคำอธิษฐานของเธอ แต่เธอบอกว่าพระเจ้าจะต้องมีทางออกไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในสักวันหนึ่ง
และเธอยังบอกอีกว่า...
เธอจะไม่ยอมให้ความกลัวมีชัยเหนือความเชื่อของเธอ
ดร.อับราฮาม
ถึงกับตะลึงอึ้งไป และไม่รู้จะพูดอย่างไร คุณหมอเริ่มร้องไห้ แล้วท่านพูดออกมาด้วยเสียงดังว่า
“พระเจ้ายิ่งใหญ่จริง ๆ” คุณหมอคิดใคร่ครวญถึงเรื่องของหญิงคนนั้นและสถานการณ์ที่เลวร้ายต่าง
ๆ ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เครื่องบินเกิดการขัดข้องทางเทคนิค พายุและฟ้าฝนที่บ้าคลั่ง และการที่เขาหลงทางในการขับรถ พระเจ้าทรงใช้สถานการณ์เลวร้ายเหล่านี้ที่เกิดขึ้น
ในการตอบคำอธิษฐานหญิงที่สัตย์ซื่อมั่นคงในความเชื่อคนนี้ และพระเจ้าต้องการที่จะให้โอกาสแก่ตนอีกครั้งหนึ่ง
ให้คุณหมอหลุดออกจากเครื่องพันธนาการทางวัตถุนิยม และ อาชีพการงานในชีวิต เพื่อคุณหมอจะมีเวลาที่จะติดตามพระเจ้า
และ มีเวลาที่จะให้แก่คนยากคนจน และพระองค์ตอบคำอธิษฐานแก่หญิงคนนี้ที่ไม่มีความช่วยเหลืออื่นใดนอกจากการอธิษฐานอย่างจริงจังเข้มแข็ง
โอ พระเจ้า
พระองค์เป็นพระเจ้าแบบไหนกันนะ?
พระเจ้าที่อาจจะไม่ได้ตอบคำอธิษฐานตามที่คนอธิษฐานต้องการหรือคาดหวัง
แต่พระองค์ตอบคำอธิษฐานตามวิถีทางของพระองค์เอง
ในเรื่องนี้
เห็นได้ว่าพระเจ้าทรงใช้สถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าฟ้าฝนที่เลวร้าย เครื่องยนต์ที่ขัดข้อง ความผิดพลาดหลงทาง ซึ่งดูแล้วเป็นสถานการณ์ที่ร้าย ๆ ทั้งสิ้น แต่พระเจ้าใช้สถานการณ์เหล่านี้เพื่อให้เกิดผลดีต่อชีวิตของคนที่เกี่ยวข้อง
ทั้งเกิดผลดีแก่หมอที่กลับมาไว้วางใจในพระเจ้า และมอบตัวรับใช้พระองค์ เด็กน้อยได้รับการรักษา คุณแม่เกิดความชื่นชมยินดีในพระเจ้า
อย่าหยุดที่จะไว้วางใจในพระเจ้า
อย่าหยุดที่จะหวังในพระองค์
พระเจ้ากำลังกระทำกิจของพระองค์
เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของท่าน
จงยึดมั่นในพระองค์
จงมั่นคงในพระองค์
มุ่งมองไปยังพระองค์ทุกวัน
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น