28 พฤศจิกายน 2561

เทศกาลรอคอยการมาบังเกิดของพระคริสต์ (2018)

การรอคอย  เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตของคนเรา   น่าสังเกตว่า  ปฏิทินชีวิตคริสตชนและชีวิตคริสตจักรเริ่มต้นปีใหม่ด้วยเทศกาลรอคอยการมาบังเกิดของพระคริสต์  

ทำไมต้องรอคอย?   เรื่องราวการมาบังเกิดของพระคริสต์เริ่มต้นจากการตั้งครรภ์ของนางมารีย์   การตั้งครรภ์เป็นเวลา “จุติ” เวลาเริ่มต้นของชีวิตใหม่  ชีวิตที่เริ่มต้นจากตัวอ่อนต้องใช้เวลา 9 เดือนโดยประมาณในการก่อร่างสร้างตัวการเติบโตของชีวิตใหม่ในครรภ์มารดา  นี่คือกระบวนการของชีวิตที่พระเจ้าทรงสร้างให้มีและดำเนินไปในมนุษย์ และ นี่คือเหตุผลที่เราต้องรอคอย

เรารอคอยเวลาตามกระบวนการ ตามกำหนดของการทรงสร้าง!

เรารอคอย หรือ ให้เวลากับชีวิตที่เกิดและเติบโตตามกระบวนการแห่งการทรงสร้าง

เรารอคอยด้วยความหวังที่จะได้พบกับ “ชีวิตใหม่” ที่จะคลอดออกมาเป็นทารก เป็นตัวเป็นตนที่เราจะจับต้องได้  อุ้ม โอบกอด ชื่นชม  ทะนุถนอม ฟูมฟัก เลี้ยงดู บ่มเพาะ เสริมสร้าง ให้เป็นชีวิตที่มีคุณค่าและความหมาย และในขั้นตอนนี้ของกระบวนการชีวิตเราก็ยังต้อง “รอคอย” หรือ “ให้เวลา” เช่นกัน และมิเพียงแต่การให้เวลาเท่านั้น ในช่วงเวลาของการ “รอคอย” เราต้องเสริมหนุนให้ชีวิตดังกล่าวเจริญเติบโตและแข็งแรงด้วย

สามขั้นตอน สามลักษณะการรอคอยพระคริสต์

เทศกาลรอคอยการมาบังเกิดของพระคริสต์  มี 3 ขั้นตอน 3 ลักษณะการรอคอยด้วยกันคือ

ž  รอคอยการมาบังเกิดเป็นทารกน้อย ในรางหญ้าที่คอกสัตว์บ้านเบธเลเฮ็ม   พระเจ้ามาบังเกิดรับสภาพชีวิตแบบมนุษย์   มาอยู่เคียงข้างชีวิตของเรา   มาปักหลักตั้งฐานชีวิตร่วมชีวิตกับเรา   เพื่อนำเอาพระคุณ ความรักเมตตา และให้ชีวิตของพระองค์แก่มนุษยชาติ  เพื่อมนุษยชาติจะได้ชีวิตใหม่

ž  รอคอยการมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์ ในอนาคต เมื่อถึงเวลากำหนดของพระเจ้า พระคริสต์จะมาหาเราอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงเวลานี้...พระองค์ทรงจัดเตรียมสิ่งต่าง ๆ เพื่อมนุษยชาติ และประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพลังชีวิตพร้อมกับเสริมสร้างชีวิตใหม่ในผู้ที่ยอมตนเป็นสาวกของพระคริสต์ และทรงเรียกให้สาวกทุกคนสานต่อพระราชกิจที่พระองค์ได้เริ่มต้นไว้แล้ว จนกว่าจะไปถึงเป้าหมายพระราชกิจของพระคริสต์ และจนกว่าการมาอีกครั้งหนึ่งของพระองค์

ž  รอคอยการมาบังเกิดของพระคริสต์ในกระบวนเหตุการณ์ชีวิตประจำวันของเรา   เป็นการที่เราแต่ละคนรอคอยให้ชีวิตแบบพระคริสต์เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมในชีวิตประจำวันของเราแต่ละคน เพื่อชีวิตประจำวันของเราจะสามารถสำแดงพระคริสต์แก่ผู้คนที่เราพบปะสัมผัสและสัมพันธ์ และเป็นไปตามพระสัญญาของพระคริสต์ที่ว่า  พระองค์จะอยู่กับเราด้วยฤทธานุภาพทั้งสิ้น ในสวรรค์ บนแผ่นดินโลกที่พระเจ้ามอบให้แก่พระคริสต์   พระองค์สัญญาว่าจะอยู่กับเรา  เปลี่ยนแปลงหนุนเสริมเรา  เพื่อเราจะสามารถสานต่อพระราชกิจของพระคริสต์เสมอไปเป็นนิจจนกว่าจะสิ้นยุค

คริสตชน และ คริสตจักรไทยรอคอยอะไรในทุกวันนี้?

แล้วคริสตจักรไทย คริสตชนไทยทุกวันนี้ เรากำลังรอคอยอะไร?  

ท่ามกลางสถานการณ์ชีวิตปัจจุบันของเราที่ถูกครอบงำด้วยความมืดมนทั้งในชีวิตส่วนตัว และ สังคมชุมชน   เรารอคอยแสงสว่างที่จะนำวิถีการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา   ให้เห็นเส้นทางชีวิตที่เป็นพระประสงค์ในชีวิตของเรา  

" เพื่อเราจะสามารถลุกขึ้น  แล้วเดินไปบนเส้นทางนั้นด้วยความไว้วางใจในการทรงนำเคียงข้างของพระคริสต์   เพื่อที่จะเรียนรู้จากการก้าวไปตามทางนั้นทีละก้าว ๆ ในแต่ละวัน

" เพื่อเราจะสามารถเลือกและตัดสินใจอย่างถูกต้องตามพระประสงค์ของพระคริสต์ในชีวิตของเรา  ด้วยการดำเนินไปบนเส้นทางชีวิตแห่งพระประสงค์ของพระคริสต์นี้เอง ที่เราจะได้รับการเสริมสร้างใหม่ให้มีชีวิตที่พระคริสต์จะทรงใช้ได้ตามพระประสงค์ของพระองค์

" เพื่อเราจะลุกขึ้นและส่องสว่างแสงแห่งความรักเมตตา และ แสงแห่งชีวิตของพระคริสต์แก่ผู้คนในสังคมโลกปัจจุบันที่เราอยู่ร่วมด้วย ที่ตกอยู่ท่ามกลางความสับสน ว้าวุ่น สิ้นหวัง หมดกำลัง ที่ตกอยู่ในสภาพที่เราไม่สามารถที่จะพึ่งตนเอง  ในสถานการณ์ที่เราไม่สามารถควบคุมได้   เรารอคอยพระคริสต์ที่จะนำเราให้ลุกขึ้นเป็นแสงสว่างของพระองค์   เพื่อทุกคนที่อยู่ร่วมกับเราจะสามารถเห็นและเดินไปตามเส้นทางที่พระองค์ทรงเตรียมไว้   ที่เราจะออกจากสภาวะชีวิตที่สิ้นหวังดังกล่าว

แล้วเราจะรอคอยอย่างไร?

หลายท่านไม่ชอบการรอคอย เพราะมักมีจินตภาพว่า การรอคอยคือการอยู่นิ่ง ๆ เป็นพฤติกรรมเชิงรับ น่าเบื่อ อดรนทนลำบาก เพราะเราอยู่ในสภาพชีวิตจริงที่จะต้องตัดสินใจเลือก ที่จะต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง จะให้อยู่เฉย ๆ ได้อย่างไรกัน?

แต่นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิดพลาด  นั่นเป็นจินตภาพที่คลาดเคลื่อนจากความจริงในพระคริสต์!

การรอคอยของคริสตชนในเทศกาลการรอคอยการบังเกิดชีวิตพระคริสต์ในชีวิตประจำวันของเราเป็นการรอคอยเชิงรุก  การรอคอยที่เป็นการขับเคลื่อนชีวิต   การรอคอยที่ต้องเปิดพื้นที่ชีวิตให้พระคริสต์เสริมสร้างเปลี่ยนแปลงให้เป็นชีวิตใหม่ที่พระองค์จะใช้ตามพระประสงค์ได้ เป็นการรอคอยที่ต้อง “ลงมือทำ” เพื่อเราจะมีประสบการณ์ เพื่อเราจะเกิดการเรียนรู้ และนำสู่การกลับใจและการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่จากพระคริสต์

ดังนั้น การรอคอยในเทศกาลนี้จึงมิใช่การเพิ่มเวลา “นั่งบ่นภาวนาในมุมมืด”  เพื่อมิให้ใครเห็นที่จะมารบกวนเรา แต่การรอคอยในเทศกาลนี้ด้วยการมีชีวิตที่เคลื่อนไปตามเส้นทางชีวิตแบบพระคริสต์   ด้วยการทรงนำของพระองค์ และด้วยพลังชีวิตที่หนุนเสริมจากพระวิญญาณบริสุทธิ์  เพื่อพร้อมรับชีวิตพระคริสต์ที่จะเริ่มเติบโตในชีวิตประจำวันของเรา หรือ เพื่อทารกเยซูจะเติบโตเป็นเด็กน้อย เด็กโต วัยรุ่น ผู้ใหญ่แบบพระคริสต์ในชีวิตประจำวันของเราแต่ละคนต่อไป

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น