18 พฤศจิกายน 2562

ข้อมูลเชิงลึก 9 ประการในชีวิตสมาชิก ที่ศิษยาภิบาลพึงรู้เท่าทัน

ศิษยาภิบาล และ ผู้นำคริสตจักร  มีความสำคัญต่อชีวิตและการทำพันธกิจของคริสตจักร  

สิ่งสำคัญยิ่งประการหนึ่งคือ ศิษยาภิบาล และ ผู้นำคริสตจักร รู้เท่าทันเกี่ยวกับความเป็นจริงในชีวิตและความเชื่อของสมาชิกฆราวาสในคริสตจักรของตนลุ่มลึกมากน้อยเพียงไรย่อมมีผลต่อการบริหารจัดการความสัมพันธ์ การอภิบาล และการทำพันธกิจในชีวิตคริสตจักรมากเท่านั้น

จากประสบการณ์และข้อมูลที่ได้จากการพูดคุย/สัมภาษณ์ ช่วยให้ผมได้รับข้อสรุป-บทเรียนรู้ความจริงที่สำคัญเชิงลึกเกี่ยวกับสมาชิกฆราวาสในคริสตจักร ถ้าศิษยาภิบาลและผู้นำคริสตจักรมองข้าม หรือ มองไม่เห็นความจริงเหล่านี้ของสมาชิกฆราวาสในคริสตจักร จะมีผลต่อการอภิบาลชีวิตและการทำพันธกิจของศิษยาภิบาล และผู้นำคริสตจักรอย่างมีนัยสำคัญ ต่อไปนี้เป็นข้อมูลเชิงลึก 9 ประการ

1. สมาชิกฆราวาสบางคนยังไม่มีความเชื่อศรัทธา การที่ศิษยาภิบาลจะต้องเข้าใจเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก เราคงต้องพูดความจริงตรงไปตรงมาแต่แรกว่า เมื่อพระเยซูคริสต์มีสาวก 12 คน หนึ่งในสาวกเป็น “สาวกเทียม” “สาวกปลอม” เราคงไม่สามารถทำต่อสมาชิกประเภทนี้ในคริสตจักรของเราได้ดีไปกว่าพระเยซูคริสต์ได้กระทำมาแล้ว

2. สมาชิกฆราวาสส่วนใหญ่ในคริสตจักรรักองค์พระผู้เป็นเจ้า ยกเว้นสมาชิกฆราวาสในข้อ ที่ 1   ตลอดเวลาที่ผ่านเราพบว่า สมาชิกฆราวาสส่วนใหญ่(จำนวนมาก)ในคริสตจักรที่รักองค์พระผู้เป็นเจ้า   พวกเขาบางคนอาจจะต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบากในการติดตามพระคริสต์ แต่นั่นมิใช่เพราะว่าพวกเขาไม่รักพระองค์ (โปรดดูในประเด็นต่อไป)

3. สมาชิกฆราวาสส่วนมากมิได้เป็น “สาวกพระคริสต์” ที่ดีมีคุณภาพ หลายคนเป็นสมาชิกในคริสตจักรโดยไม่เคยผ่านการสอน และ เสริมสร้างให้มีชีวิตประจำวันที่เป็นสาวกของพระคริสต์ ผลที่เกิดขึ้นคือ ชีวิตประจำวันต้องประสบกับความล้มเหลว พ่ายแพ้ แล้วคนกลุ่มนี้บางคนก็มีตำแหน่งผู้นำในคริสตจักรทั้ง ๆ ที่มิได้รับการเตรียมความพร้อมทางจิตวิญญาณ เราท่านคงต้องยอมรับว่า ตัวเราเองอาจจะเคยมีประสบการณ์เช่นนี้ในอดีตมาแล้ว

4. สมาชิกฆราวาสจำนวนมากยังมีความเชื่อศรัทธาที่อ่อนหัด ถ้าผู้เชื่อไม่มีความตั้งใจที่จะมีชีวิตการเป็นสาวกของพระคริสต์ การเติบโตในชีวิตจิตวิญญาณของเขาจะหยุดชะงัก และแคระแกร็น และนี่เป็นความผิดพลาดของชุมชนคริสตจักรที่ไม่ใส่ใจ/สอนและเสริมสร้างให้สมาชิกฆราวาสทุกคนเป็นสาวกพระคริสต์ ปัญหาที่ตามมาก็คือ ผู้นำคริสตจักรจะเกิดความผิดหวัง คับข้องใจกับสมาชิกกลุ่มนี้ เพราะศิษยาภิบาลและผู้นำคริสตจักรคาดหวังว่า ผู้เชื่อเหล่านี้ควรจะมีชีวิตประจำวันที่แสดงออกถึงผู้เชื่อที่มีวุฒิภาวะ ที่เติบโตในความเชื่อของเขา

5. สมาชิกฆราวาสจำนวนมากที่มี “ของประทาน” มากกว่าศิษยาภิบาลในบางด้าน นี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า เราจะเห็นคริสตจักรเป็นพระกายเดียวกันของพระคริสต์อย่างชัดเจนตามที่เขียนใน 1โครินธ์  บทที่ 12  ที่แต่ละคนในคริสตจักรใช้ของประทานที่ตนได้รับในการรับใช้และหนุนเสริมกันและกัน   แต่ถ้าเวลาใดที่ศิษยาภิบาลเลือกที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ในคริสตจักรด้วยตนเอง ศิษยาภิบาลกำลัง “บูชาตนเอง” ตนเองกลายเป็นรูปเคารพที่ตนกำลังกราบไหว้บูชา

6. สมาชิกเกือบทุกคนต้องการรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าในคริสตจักร และ ผ่านคริสตจักร อย่างไรก็ตาม การที่สมาชิกฆราวาสแต่ละคนต้องการที่จะรับใช้แต่กลับไม่ได้รับใช้ ทั้งนี้เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาจะรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไร จะเริ่มต้นที่ไหนดี บางคนเคยได้รับ “ความเจ็บปวดผิดหวัง” จากการรับใช้มาก่อน ดังนั้น จึงกลัวที่จะรับใช้ ถึงแม้จิตใจของเขาต้องการที่จะสัตย์ซื่อในการรับใช้ก็ตาม

7. สมาชิกฆราวาสส่วนใหญ่รักศิษยาภิบาลของเขา จากประสบการณ์การเป็นศิษยาภิบาลของผม ผมไม่เคยพบว่ามีสมาชิกฆราวาสคนไหนที่ไม่รักผม มีบ้างบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับผมในบางเรื่อง และมีบ้างที่โกรธไม่พอใจผมที่ผมลาออกจากคริสตจักร แต่ผมไม่เคยสงสัยเลยว่าเขารักผมหรือไม่

8. สมาชิกฆราวาสหลายคนที่ต้องปล้ำสู้กับความบาปที่ซ่อนเร้น สมาชิกฆราวาสหลายคนที่รู้สึกว่า “ไม่มีใครที่ปลอดภัยพอที่ตนจะบอกหรือปรึกษาเรื่องบาปที่ซ่อนเร้นของตนได้” บางคนไม่มีสัมพันธภาพกับใครในคริสตจักรที่เขาจะปรึกษาเรื่องนี้ วันอาทิตย์แล้วอาทิตย์เล่าเขาต้อง “ปล้ำสู้” กับความผิดบาปในชีวิตจิตวิญญาณของเขา และไม่รู้ไม่เข้าใจเลยว่าจะเอาชนะสงครามจิตวิญญาณภายในชีวิตของเขาดังกล่าวอย่างไรดี

9. สมาชิกฆราวาสที่สร้างความยุ่งเหยิง ลำบากใจแก่/ในคริสตจักร อย่างที่เคยเกิดขึ้นในคริสตจักรสมัยเริ่มแรกที่เราพบในพระธรรมพันธสัญญาใหม่ ถ้าเราอ่านในพระธรรม 1โครินธ์ เราจะพบว่า คริสตจักรในสมัยเริ่มแรกในพันธสัญญาใหม่ก็ต้องพบกับคนที่เป็นตัวปัญหาในคริสตจักร แต่ข่าวดีก็คือว่า ทุกวันนี้เรารับใช้พระเจ้าองค์เดียวกันกับคริสตจักรในพันธสัญญาใหม่ พระเจ้าที่ทรงรักคริสตจักรของพระองค์ถึงแม้จะเป็นคริสตจักรที่มีปัญหายุ่งเหยิงเพียงใดก็ตาม

ข้อมูลเชิงลึกของสมาชิกคริสตจักรทั้ง 9 ประการนี้ ศิษยาภิบาลจะต้องรู้เท่าทันชัดเจน และอธิษฐานขอการทรงนำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะช่วยศิษยาภิบาลในการอภิบาลสมาชิกตามบริบทและสภาพความเป็นจริงในชีวิตของสมาชิกแต่ละคน เพื่อเสริมสร้างสมาชิกแต่ละคนให้มีชีวิตที่เป็นสาวกพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวัน และเราสามารถแบ่งปันประสบการณ์จากการอภิบาลสมาชิกที่มีสภาพชีวิตดังกล่าวข้างต้นแก่กันและกันต่อไป

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น