15 พฤศจิกายน 2562

ชีวิตที่ทนทุกข์ ด้วยใจที่ชื่นชมยินดี

ในการทนทุกข์ของเปาโล  ท่านทนทุกข์อย่างมีเป้าหมายชัดเจนและด้วยความชื่นชมยินดี   และนี่คือการทำพันธกิจแห่งพระกิตติคุณ  เปาโลได้ส่งต่อพันธกิจนี้มายังทิโมธี และ มายังเราแต่ละคนให้สานต่อพันธกิจแห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ในสังคมโลกนี้

นั่นเป็นเหตุให้ข้าพเจ้าทนทุกข์อย่างที่เป็นอยู่ กระนั้นข้าพเจ้าก็ไม่ละอายเพราะข้าพเจ้ารู้จักพระองค์ที่ข้าพเจ้าเชื่อ และมั่นใจว่าพระองค์ทรงสามารถรักษาสิ่งที่ข้าพเจ้ามอบไว้กับพระองค์จนถึงวันนั้นได้ (ในภาษาต้นฉบับ “สิ่งที่ข้าพเจ้ามอบไว้กับพระองค์” สามารถแปลได้ว่า “สิ่งที่พระองค์ทรงมอบไว้กับข้าพเจ้า” ปรากฏใน มตฐ.) 

เมื่อเปาโลเขียนจดหมายถึงทิโมธีฉบับที่สอง ท่านรู้ว่าชีวิตของท่านกำลังจะถึงจุดจบ ถ้าเราอ่านความหมายระหว่างบรรทัด เราจะสัมผัสได้ชัดเจนว่า เปาโลมีความรู้สึกว่า ความตายกำลังคืบคลานเข้ามาในชีวิตของท่าน

เปาโลไม่ได้ให้กำลังใจแก่ทิโมธีแบบลม ๆ แล้ง ๆ ว่า สถานการณ์หรือวิกฤติกาลสำหรับคริสตชน และ ทิโมธีในเวลานั้นจะดีขึ้น แต่เราพบในคำอธิษฐานของเปาโลว่า ผู้ประกาศพระกิตติคุณจะต้องพบปัญหา พบวิกฤติในชีวิตอย่างแน่นอน  เปาโลบอกความจริงแก่ทิโมธีแทนที่จะปลอบใจว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ยิ่งกว่านั้น เปาโลแนะนำทิโมธีว่า อย่าละอายที่จะเป็นพยานชีวิต เฉกเช่นชีวิตของเปาโลที่ต้องติดคุก(คนขี้คุก กบฏสังคม) และท้าชวนให้ทิโมธีร่วมในการทนทุกข์กับเปาโลเพราะพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า

ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับความเชื่อคำสอนของคริสตชนบางกลุ่ม ที่มุ่งสอนว่าเป้าหมายของพระกิตติคุณคือ เราจะได้ไปอยู่สุขสบายในสวรรค์ ไม่ต้องไปสนใจกับความทุกข์ยากในชีวิตบนโลกนี้ แต่เป้าหมายของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ที่เปาโลประกาศ คือกระบวนการการเปลี่ยนแปลงชีวิตของคน และ สังคมชุมชนในโลกนี้ ให้มีคุณภาพชีวิตเป็นชุมชนแห่งแผ่นดินของพระเจ้า ที่จะก้าวไปสู่การมีชีวิตอยู่ร่วมกับพระคริสต์ตามที่พระองค์ทรงเตรียมไว้

พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์มีเป้าหมายชัดเจนถึง “ชีวิตในปัจจุบันนี้” และเคลื่อนต่อไปสู่ “ชีวิตในอนาคต” ด้วย พระคัมภีร์ได้แสดงให้เราเห็นชัดว่า พระคริสต์ทำงานหนักเยี่ยงสามัญชน  “มือถือค้อน หน้าสู้ไฟ” เหมือนผู้ใช้แรงงานทั้งหลาย มือของพระองค์หยาบกร้านเพราะงานช่างไม้ เมื่อออกทำพันธกิจพระองค์เยียวยารักษาคนเจ็บป่วย ถ้าเปรียบกับชาวนาของเรา “มือถือคันไถ  สองขาย่ำในโคลน” และทั้งสองมือต้องหลั่งเลือดบนกางเขนเพื่อเป็นค่าไถ่สำหรับชีวิตมากมาย

แต่ดวงใจของพระองค์ ละเอียดอ่อนชุ่มชื้นไปด้วยความรักเมตตาที่เสียสละ เพื่อชีวิตทั้งหลายบนโลกนี้ที่หัวใจกำลังแตกและฉีกขาด เพื่อดวงจิตที่ฟกช้ำ  

การติดตามพระเยซูคริสต์ มือของเราจะหยาบกร้านจนชินชา และหัวใจจะอ่อนนิ่มนวลเมื่อจิตใจของเราไวต่อสภาพชีวิตของคนอื่น เราทำในสิ่งที่ตอบสนองต่อความจำเป็นต้องการของชีวิตผู้คน และเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพชีวิตแห่งโลกนี้

พระคริสต์ผู้มีมือที่หยาบกร้าน เต็มด้วยบาดแผล จะเป็นชีวิตที่ยุติความป่วยเจ็บของมนุษยชาติ และ เยียวยาฟื้นฟูโลกที่ทรงสร้างให้เป็นสังคมโลกใหม่ และพระคริสต์ได้เข้ามาในชีวิตส่วนตัวของเราแต่ละคน เพื่อขจัดยุติชีวิตข้างในของเราที่เจ็บป่วยและแตกหัก ฟื้นฟูชีวิตของเรากลับสู่ศักยภาพที่ทรงพลังตามที่พระเจ้าประทานแก่เราแต่ละคน

แน่นอนว่า ในชีวิตของเราจะต้องพบกับความทุกข์ยากลำบาก
ความตายจะเข้ามาในชีวิตของเรา
เราจะต้องเผชิญกับการทำร้ายทำลายกัน

ความจริงก็คือว่า มิใช่ว่าพระคริสต์จะขจัดความทุกข์ยากลำบากออกจากชีวิตของเรา  แต่ที่เป็นกำลังใจของเราคือ พระคริสต์อยู่เคียงข้างร่วมทุกข์ร่วมสุขในทุกสถานการณ์ชีวิตของเรา  เราจะมีชีวิตเหมือนเปาโล และ ทิโมธี  คือเราจะทำงานเคียงข้างไปกับพระเยซูคริสต์

และเราก็เป็นผู้ที่หยั่งรากความเชื่อและไว้วางใจในพระเยซูคริสต์
เมื่อเราเดินไปกับพระคริสต์
เราจะไม่อับอายที่ต้องเป็นคนที่ตกอยู่ในความทุกข์
ที่เรามั่นใจเช่นนี้เพราะเราเชื่อมั่นในพระองค์

เรามั่นใจว่า ด้วยพระกำลังของพระคริสต์ต่างหากที่ทำให้เราเผชิญกับความเลวร้ายในชีวิตได้ ชีวิตในแต่ละวันของเราได้รับการปกป้องคุ้มครองจากพระเยซูคริสต์

“...ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์ที่ข้าพเจ้าเชื่อ และมั่นใจว่าพระองค์ทรงสามารถรักษาสิ่งที่ข้าพเจ้ามอบไว้กับพระองค์จนถึงวันนั้นได้” (2 ทิโมธี 1:12)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น