22 พฤศจิกายน 2562

ทุกงาน...เป็นพันธกิจจริงหรือ?

พระเจ้าทรงเรียกท่านให้เป็นผู้ทำพันธกิจ

ท่านอาจจะไม่เคยเทศนา ไม่เคยเป็นผู้ประกอบพิธีสมรส หรือ พิธีศพ และท่านอาจจะไม่เคยเป็นผู้นำคริสตจักร นั่นไม่ได้หมายความว่า ท่านไม่ได้ทำพันธกิจ

เพราะเราแต่ละคนต่างเป็น “สาวกพระคริสต์” จึงได้รับการทรงเรียกให้เป็นผู้ทำพันธกิจ

พระเจ้าทรงเรียกเราแต่ละคนให้เป็นผู้ทำ “พันธกิจ” ในความหมายสองระดับ ริก วอร์เรน ได้เปรียบเทียบกับแว่นสายตา ที่เรียกว่า “แว่นสายตาสองชั้น” กล่าวคือในแว่นเดียวกันมีเลนส์ที่ใช้มองสิ่งต่าง ๆ ในระยะใกล้ได้ชัดเจน กับเลนส์ที่ใช้มองสิ่งที่อยู่ห่างออกไปได้ชัดเจน

เมื่อเราเป็นสาวกของพระคริสต์ เรากระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยเหตุผลสองระดับคือ เรากระทำสิ่งนั้น ๆ เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลคนอื่น และ ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า เราจึงเป็นผู้ทำพันธกิจในสองระดับ   ไม่ว่าเราจะเป็นเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน คนทำความสะอาด แม่บ้าน-พ่อบ้าน แพทย์ พยาบาล  ครู-อาจารย์ นักศึกษา นักการเมือง และ ฯลฯ ในทุกสายอาชีพงานที่เราแต่ละคนมี เรามีงานอาชีพนั้น ๆ ที่จะต้องรับผิดชอบ และในงานที่เรารับผิดชอบนั้นเราทำพันธกิจเพื่อจะช่วยคนอื่น  ให้เกิดประโยชน์ผลดีแก่คนอื่น และเพื่อเป็นที่ยกย่องสรรเสริญพระเจ้าด้วย

ในพระธรรมโคโลสี 3:17 กล่าวไว้ว่า “...เมื่อท่านทั้งหลายทำสิ่งใดไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือด้วยการประพฤติ จงทำทุกสิ่งในพระนามของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า และขอบพระคุณพระเจ้าพระบิดา โดยทางพระองค์” (มตฐ.)

พระคัมภีร์ย้ำเตือนว่า ทุกงานที่เราทำในชีวิต เรากระทำด้วยสำนึกชัดว่า นั่นเป็นพันธกิจที่พระเจ้ามอบแก่เราให้กระทำ และ เป็นพระพรสำหรับเราและคนรอบข้าง หากเรากระทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า และ เพื่อหนุนเสริมช่วยเหลือคนรอบข้าง ไม่ว่าเราจะกระทำสิ่งใด ให้เรากระทำในพระนามของพระเยซูคริสต์ การกระทำนั้นเป็นการกระทำพันธกิจด้วย เช่น การนำขยะไปทิ้ง การทำความสะอาดห้องน้ำ การเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ทารก ทั้งสิ้นเป็นทั้งงาน และ เป็นพันธกิจที่เราทำ

ดังนั้น การทำพันธกิจคือ ไม่ว่างานอะไรที่เรากระทำ เรากระทำด้วยพันธะผูกพันที่มีต่อพระเยซูคริสต์ “ทำในพระนามของพระคริสต์” และทำตามพระประสงค์ของพระองค์ มิใช่ทำตามความปรารถนาของเราเอง ทุกงานไม่ว่าจะใหญ่โตแค่ไหน หรือ ต่ำต้อยเพียงใด ทุกงานสามารถเป็นพันธกิจที่เราทำด้วยพันธะผูกพันกับพระคริสต์ เพื่อสานต่อพระราชกิจของพระองค์ที่ได้ทรงเริ่มต้นไว้บนแผ่นดินโลกนี้

การทำพันธกิจของพระเยซูคริสต์มิได้ขึ้นอยู่ที่ประเภทของงาน แต่อยู่ที่แรงจูงใจ หรือ แรงบันดาลใจที่เรามีในงานนั้น ๆ ที่ทำอยู่ กล่าวคือเราทำทุกงานเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า   เราทำทุกงานให้เป็นการสานต่อพระราชกิจที่พระคริสต์ได้เริ่มต้นไว้ และเราทำทุกอย่างด้วยความรักเมตตาที่เสียสละชีวิตแก่เพื่อนมนุษย์ที่จะมีโอกาสใหม่ ชีวิตใหม่ในพระคริสต์

เมื่อเรามองทุกงานด้วยมุมมองดังกล่าว ทุกงานต่างเป็นพันธกิจที่พระเจ้าทรงเรียกและมอบหมายให้เราทำ ทุกงานต่างเป็นที่งานสำคัญยิ่งสำหรับการกระทำของเรา ทุกงานเป็นพันธกิจที่เรากระทำในชีวิตประจำวันที่กระทำด้วยพันธะผูกพันที่ทำตามพระประสงค์ของพระคริสต์

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น