13 พฤศจิกายน 2562

เราไปทำอะไรกันที่คริสตจักรในวันอาทิตย์?

อ่าน ฟิลิปปี 3:10-14

เราเคยนั่งลงตรึกตรอง ทบทวนตนเองบ้างไหมว่า... เราไปคริสตจักรในวันอาทิตย์ทำไมกัน? แต่ก่อนที่จะถามคำถามข้างต้นนี้ เราน่าจะถามตนเองก่อนว่า เราแต่ละคนมีนิมิต มีวิสัยทัศน์อย่างไรบ้างเกี่ยวกับคริสตจักรที่เราไปร่วมในวันอาทิตย์?

สำหรับผมส่วนตัว ผมไม่มีวิสัยทัศน์แบบต้องการเห็นคริสตจักรมีที่นั่งจำนวนมากสำหรับคนที่มาในวันอาทิตย์ และก็ไม่ใช่อยากจะเห็นคนมาล้นโบสถ์จนที่นั่งไม่พอสำหรับคนที่มา ไม่ใช่คริสตจักรของเรามีเครื่องอำนวยความสะดวกทันสมัย ติดแอร์  มีโปรเจคเตอร์ที่ทันสมัย มีชุดเครื่องดนตรีที่ราคาแพง มีที่จอดรถกว้างขวาง มีสุสานฝังศพของคริสตจักรเอง ฯลฯ

สิ่งข้างต้นเหล่านี้ ไม่ใช่วิสัยทัศน์ หรือ นิมิต คริสตจักรในวันอาทิตย์ของผม!  

แต่...ผมมีนิมิต/วิสัยทัศน์ว่า...

คริสตจักรของเรามีชีวิตอยู่เพื่อช่วยผู้คนให้...
รู้จักพระเจ้า
พบความเป็นไท/เสรีในชีวิต
ค้นพบพระประสงค์ในชีวิตของตน และ
มีชีวิตที่แตกต่างจากเดิมเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า

คริสตจักรของเรามิได้มีชีวิตอยู่เพื่อมีคริสตจักรที่สวยงาม หรือ ใหญ่โตขึ้น แต่เป็นคริสตจักรที่เติบโต แข็งแรงขึ้นด้วยการมุ่งเน้นเสริมสร้างสมาชิกแต่ละคนในคริสตจักรให้เติบโต แข็งแรง และมีสุขภาพทุกมิติที่สมบูรณ์ ด้วยการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตเหล่านี้ให้เกิดขึ้นจริงเป็นรูปธรรมในชีวิตประจำวันของสมาชิกแต่ละคน

เมื่อผู้คนมาร่วมในคริสตจักรในวันอาทิตย์ สิ่งที่เราคาดหวังจากการทำพันธกิจของคริสตจักรคือ
  • รู้จักพระเจ้าเสริมสร้างการนมัสการพระเจ้าที่ทำให้ผู้เข้าร่วมมีประสบการณ์ตรงที่ได้รับการสัมผัสจากพระเจ้า และต้องการเข้ามาร่วมในการนมัสการพระเจ้าอีก อีกทั้งเชิญชวนคนใหม่เข้ามาร่วมเพิ่ม  เพื่อให้คนใหม่มีประสบการณ์ตรงถึงพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ในชีวิตของตน และ ชีวิตที่ร่วมกัน
  • พบกับเสรีในชีวิตประจำวัน: คริสตจักรช่วยให้ทุกคนที่เข้ามาร่วมในคริสตจักรได้มีโอกาสเข้าร่วมในกลุ่มเล็ก  เพื่อเป็นที่ที่จะช่วยแต่ละคนให้มีชีวิตที่เป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้นทุกวัน   เติบโตในชีวิตที่เป็นไทจากอำนาจแห่งความบาปชั่ว และ ความฉีกขาดแตกหักในชีวิตของแต่ละคน ไปสู่ชีวิตใหม่ใต้ร่มพระคุณของพระคริสต์   
  • ค้นพบเป้าหมายในชีวิตของตน: นอกจากการเสริมสร้างให้ผู้คนมีชีวิตที่เป็นสาวกของพระคริสต์แล้ว คริสตจักรยังต้องมีการติดตาม หนุนเสริม ให้การดำเนินชีวิตประจำวันของแต่ละคนได้มุ่งสู่เป้าหมายชีวิตของตนตามพระประสงค์ของพระเจ้า ซึ่งนำไปสู่การเติบโตในชีวิตการเป็นสาวกพระคริสต์ขั้นต่อ ๆ ไป
  • เกิดความแตกต่างในชีวิตจากเดิม: คริสตจักรเสริมสร้างแต่ละคนให้ร่วมรับใช้ในทีมงานต่าง ๆ ของคริสตจักร ตามความสามารถ ของประทานที่มีในชีวิตแต่ละคน และคริสตจักร “ส่ง” ทุกคนออกไปให้ดำเนินชีวิตในชีวิตประจำวัน ด้วยการสานต่อพระราชกิจต่อจากพระคริสต์ในพื้นที่ชีวิตของตน
  • เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า: การดำเนินชีวิตประจำวันของสมาชิกแต่ละคนมุ่งมั่นที่จะถวายพระเกียรติทั้งสิ้นแด่พระเจ้า และในวันอาทิตย์เป็นโอกาสที่แต่ละคนจะเข้ามาในคริสตจักรที่จะขอบพระคุณ และ ถวายพระเกียรติในพระราชกิจที่พระเจ้าได้ทำในชีวิตและผ่านชีวิตของสมาชิกคริสตจักรแต่ละคน


ดังนั้น  บทบาทในฐานะศิษยาภิบาล จึงเป็นทั้ง “ผู้นำและผู้เลี้ยง”  เป็นผู้ดูแล กำกับ จัดการชีวิตคริสตจักรที่พระคริสต์ทรงมอบหมายให้ศิษยาภิบาล เลี้ยงดู และรับผิดชอบ บ่มเพาะและขยายนิมิต/วิสัยทัศน์ และเป็นผู้ริเริ่มหนุนเสริมให้สมาชิกแต่ละคนขับเคลื่อนตามย่างก้าวตามนิมิต/วิสัยทัศน์ที่กำหนดให้บรรลุสำเร็จ ด้วยการเสริมสร้างสมาชิกคริสตจักรแต่ละคนให้มีชีวิตที่เติบโตขึ้นในพระคริสต์ แล้วเสริมสร้างให้เรียนรู้และมีทักษะความสามารถในการสานต่อพระราชกิจของพระคริสต์ในโลกนี้

ทีมงาน  คณะธรรมกิจ ทีมผู้นำผู้รับใช้จะร่วมการบริหารจัดการขั้นตอนก้าวเดินมุ่งสู่ความสำเร็จตามนิมิตหมายตามที่ได้ร่วมกันกำหนด พวกเขามิเพียงทำพันธกิจร่วมกันเท่านั้น แต่ทุกคนในทีมงานร่วมกันเสริมสร้าง และ หนุนเสริมทุกคนในคริสตจักรรักกันและกัน และขับเคลื่อนพระราชกิจของพระคริสต์อย่างรับผิดชอบตามแผนงานพันธกิจที่ได้กำหนดร่วมกัน

คริสตจักรจะเติบโต เข้มแข็ง และ เกิดผลในชีวิต  ก็ต่อเมื่อ...
สมาชิกคริสตจักรแต่ละคนเติบโต เข้มแข็ง และ เกิดผลในชีวิต  และ
สมาชิกเป็นผู้ขับเคลื่อนชีวิตและพันธกิจคริสตจักรไปสู่นิมิตที่ชัดเจนเดียวกัน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น