06 มกราคม 2563

ลักษณะคริสตจักรที่เข้มแข็งในการทำพันธกิจชุมชนบนรากฐานพระกิตติคุณ

ไม่ใช่ทุกคริสตจักรที่จะมีบทบาทในชุมชน จากการลงพื้นที่ผมได้เรียนรู้จากคริสตจักรต่าง ๆ พอประมวลได้ว่า คริสตจักรที่จะมีบทบาทต่อชีวิตในชุมชนจะมีลักษณะดังนี้

1. เป็นคริสตจักรที่มีการสอน และ เชื่อบนรากฐานพระกิตติคุณ และสิ่งที่กระตุ้นหนุนเสริมให้คริสตจักรมีบทบาทรับใช้ชุมชนในลักษณะต่าง ๆ ก็เพราะคริสตจักรนี้ต้องการให้คนในชุมชนรู้จักพระเยซูคริสต์

2. ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคริสตจักรที่ใหญ่เสมอไป ส่วนมากแล้วเป็นคริสตจักรขนาดย่อมถึงขนาดกลาง ถึงจะเป็นคริสตจักรขนาดเล็กแต่ก็มีนิมิตที่ยิ่งใหญ่ได้

3. เขาจะถามชุมชนเสมอว่า “ถ้าคริสตจักรนี้ย้ายออกไปจากชุมชน ชุมชนจะรู้สึกสูญเสียเพื่อนบ้านที่ดีหรือไม่? ถ้าคำตอบจากชุมชนคือ “ไม่” หรือ “เฉย ๆ” หรือ “ก็ไม่เป็นไร” คริสตจักรจะต้องรีบมาช่วยกันพิจารณาว่า คริสตจักรจะมีบทบาทที่หนุนเสริมรับใช้ชุมชนที่มีคุณค่าความหมายต่อชุมชนมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ได้อย่างไร

4. คริสตจักรจะใส่ใจ และ ค้นหาว่าอะไรคือความจำเป็นต้องการที่แท้จริงของชุมชนโดยถามจากผู้นำและผู้คนในชุมชน คริสตจักรจะไม่คาดเดาเอาเองว่า ชุมชนมีความจำเป็นต้องการอะไร คริสตจักรจะใส่ใจสอบถามจากคนที่รู้ข้อมูลเหล่านี้ การที่คริสตจักรสอบถามจากแกนนำและคนในชุมชนย่อมแสดงออกถึงความใส่ใจต่อชุมชน

5. คริสตจักรนำประเด็นที่ค้นหาได้ไปปรึกษาหาแนวทางในการที่จะตอบสนองต่อความจำเป็นต้องการของชุมชน คริสตจักรจะไม่เป็น “พระเอกขี่ม้าขาว” ลงไปตอบสนองความจำเป็นต้องการดังกล่าวด้วยตนเอง แต่คริสตจักรจะปรึกษากับแกนนำชุมชนที่เกี่ยวข้อง และ คนในชุมชนที่รู้ในเรื่องนั้น แสวงหาความร่วมมือในการตอบสนองความจำเป็นต้องการของชุมชนร่วมกันกับชุมชน

6. คริสตจักรที่อ้าแขนต้อนรับคนทุกเพศวัย ทุกฐานะทางสังคม เศรษฐกิจ และทุกชนชาติ เช่น แรงงานข้ามชาติ พี่น้องชาติพันธุ์ คนที่มีปัญหาในชีวิตทั้งด้านยาเสพติด ติดการพนัน คนไม่มีหัวนอนปลายตีน ขอทาน คนเจ็บป่วยด้วยโรคสังคมรังเกียจ และ ฯลฯ

7. เป็นคริสตจักรที่ตั้งใจลงไปรับใช้คนในชุมชนในลักษณะต่าง ๆ คริสตจักรมิได้ลงไปรับใช้เพราะมีโครงการเท่านั้น แต่เพราะต้องการสำแดงความรักเมตตาของพระคริสต์อย่างเป็นรูปธรรมให้ประจักษ์จริงในชีวิตของชุมชน

8. เป็นคริสตจักรที่ใส่ใจ และ เอาใจใส่ ครอบครัวบ้านใกล้เรือนเคียงล้อมรอบตัวโบสถ์ คริสตจักรสร้างสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้านรอบโบสถ์ คริสตจักรแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้นให้เป็นโอกาสในการรับใช้ เมื่อทำเช่นนี้แล้วจะเป็นการเปิดโอกาสเชิญชวนเพื่อนบ้านรอบโบสถ์เข้ามาร่วมงานต่าง ๆ ของคริสตจักรได้มากขึ้น

9. คริสตจักรมีผู้ที่รับผิดชอบประจำในพันธกิจชุมชน และ การสำแดงข่าวดีของพระเยซูคริสต์ เมื่อมีผู้นำที่รับผิดชอบประจำทำให้แต่ละปีมีแผนงานที่ชัดเจน และมีการบริหารจัดการขับเคลื่อนพันธกิจชุมชนอย่างเป็นระบบ

10. คริสตจักรฝึกหัดเสริมสร้าง กลุ่มสมาชิกคริสตจักรที่อยู่โซนเดียวกัน ในการทำพันธกิจรับใช้ชุมชน เพื่อให้กลุ่มสมาชิกที่อยู่อาศัยในโซนเดียวกันปรึกษา ร่วมมือกันในการทำพันธกิจชุมชน โดยมีแกนนำ หรือ ผู้หนุนเสริมของคริสตจักร ออกไปเยี่ยมและหนุนเสริมในการขับเคลื่อนพันธกิจในชุมชนที่กลุ่มนั้น ๆ อาศัยอยู่

11. มีการรายงานและขอบพระคุณพระเจ้าในการขับเคลื่อนพันธกิจชุมชนของกลุ่มโซนต่าง ๆ ในวันอาทิตย์ในการนมัสการพระเจ้า โดยให้รายงานและขอบพระคุณพระเจ้าเดือนละครั้ง ครั้งละกลุ่ม แล้วให้มีการขอบพระคุณพระเจ้าร่วมกัน

12. ก่อนสิ้นปี จะมีการถอดบทเรียนรู้ในการทำพันธกิจชุมชนจากทุกกลุ่มร่วมกัน ก่อนการวางแผนงานคริสตจักรในปีใหม่ ให้ทุกกลุ่มมาร่วมกัน ทบทวน และถอดบทเรียนรู้ การทำพันธกิจชุมชนใน 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อแสวงหาจุดแข็งและจุดอ่อนของพันธกิจนี้ เพื่อหาทางแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาการทำพันธกิจชุมชนที่มีประสิทธิภาพและเกิดผลดียิ่งขึ้น แล้วนำข้อมูลและบทเรียนรู้ที่ได้ทั้งหมดสำหรับใช้วางแผนงานคริสตจักรในปีใหม่ต่อไป

แล้วคริสตจักรของท่านทำพันธกิจบริการรับใช้ชุมชนอย่างไรบ้างครับ?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น