20 มกราคม 2564

ก้าวแรกของการเข้าสู่การเยียวยารักษา...

เราต้องถ่อมจิตใจลง...สารภาพความบาปผิดของเรา

จากข้อเขียนครั้งก่อน ได้กล่าวถึงกระบวนการของพระเจ้าที่ทรงรักษาและเยียวยาชีวิตและสังคมที่ประสบกับความแตกแยก ฉีกขาด และล่มสลาย และเราพบจาก 2พงศาวดาร 7:14 ที่ได้กล่าวถึง กระบวนการที่นำไปสู่การเยียวยารักษาชีวิตและสังคมดังกล่าวว่า

“หากประชากรของเราซึ่งเรียกชื่อตามนามของเราจะ “ถ่อมใจลง” และ “อธิษฐาน”   “แสวงหาหน้าของเรา” และ “หันกลับจากวิถีอันชั่วร้ายของเขา” เมื่อนั้นเราจะรับฟังเขาจากฟ้าสวรรค์ จะอภัยบาปของเขา และจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย”  (อมธ.)

ซึ่งได้กล่าวถึง 4 ขั้นตอนของการเข้าสู่การเยียวยารักษาจากพระเจ้า และ 3 พระสัญญาที่พระเจ้าจะทรงกระทำแก่เรา คือ...

กระบวนการที่นำไปสู่รับการเยียวยาจากพระเจ้า  

(1) เราต้องถ่อมใจลงสารภาพความบาปผิดของเรา
(2) เราต้องอธิษฐานด้วยความจริงใจ
(3) เราต้องแสวงหาพระเจ้า
(4) เราต้องหันกลับจากวิถีชีวิตอันชั่วร้ายของเรา

พระสัญญาจากพระองค์ที่นำการเยียวยามาสู่ชีวิตและแผ่นดินของเรา

(1) พระเจ้าจะสดับฟังเรา
(2) พระเจ้าจะอภัยบาปของเรา
(3) พระเจ้าจะรักษาแผ่นดินของเราให้หาย

ในข้อเขียนตอนนี้เป็นก้าวแรกของการเข้าสู่การเยียวยารักษาชีวิต และ สังคมประเทศชาติของเรา  “เราต้องถ่อมจิตใจของเราลง สารภาพความบาปผิดของตนเอง” 

1. เราต้อง ถ่อมใจลง สารภาพความบาปผิดของเรา

“หากประชากรของเราซึ่งเรียกชื่อตามนามของเราจะ “ถ่อมใจลง...” (2พงศาวดาร 7:14 อมธ.)

ขอย้ำที่นี่อีกครั้งหนึ่งว่า นี่ไม่ใช่ขั้นตอนและพระสัญญาสำหรับคนทั่วไป แต่เป็นพระสัญญาสำหรับประชากรที่ยำเกรงพระเจ้าคือ คริสตชน เรียกชื่อตามนามของพระคริสต์  “ถ้าคริสตชนจะถ่อมใจลงสารภาพความบาปผิดของตนเอง”

ปัญหาของคริสตชนประการแรกคือ การที่เราเป็นคนหยิ่งผยอง จองหอง อวดตน ยกตนข่มท่าน  คิดว่าตนพึ่งตนเองได้ไม่จำเป็นต้องพึ่งใครอื่นใด เราไม่ต้องพึ่งพระเจ้า เราไม่คิดว่าในชีวิตประจำวันเราจะต้องปรึกษาพระเจ้า ใน ยากอบ 4:6 กล่าวไว้ว่า...

“พระเจ้าทรงต่อสู้ผู้ที่หยิ่งจองหอง แต่ประทานพระคุณแก่คนที่ถ่อมใจ” ( อมธ.)

ดังนั้น ให้เรามีจิตใจที่ถ่อมลงสารภาพความบาปผิดที่เรามีอยู่ แต่ในความเป็นจริงคนเรามักหลอกตนเองว่าเราไม่ได้ทำความบาปผิด และเรากลับไปใส่ใจความบาปผิดของศัตรูของเรา คนที่เราไม่ชอบ ไม่เห็นด้วย แต่ไม่คิดถึงความบาปผิดของตนเอง เรามักได้รับคำสอนว่า จงเกลียดชังความบาป และให้รักคนบาป แต่วันนี้ใคร่บอกว่า จงรักคนบาป แต่เกลียดชังความบาป “ในตัวเราเอง” ให้เราเกลียดชังความบาปของเราเอง ไม่จำเป็นที่เราจะไปเกลียดความบาปผิดของคนอื่น   แต่ให้เราใส่ใจความบาปผิดในชีวิตของตนเอง

ปัญหาของเราคือ เราใช้เวลามากมายในการกล่าวโทษความบาปผิดของคนอื่นมากกว่าความบาปผิดในตัวของเราเอง ดังนั้น เราต้องถ่อมจิตใจของเราลง เพื่อจะใส่ใจความบาปผิดที่เกิดขึ้นในตัวของเราเอง และระลึกเสมอว่า...

“ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่มีบาป เราก็หลอกตัวเอง และสัจจะไม่ได้อยู่ในตัวเราเลย” (1ยอห์น 1:8 มตฐ.)

ปัญหาคือ: เรากล่าวโทษความบาปผิดของคนอื่นมากกว่าความบาปผิดของตนเอง

ในยากอบ 4:12 กล่าวว่า...

“มีผู้ประทานบทบัญญัติและผู้พิพากษาเพียงผู้เดียวคือ พระองค์ผู้ทรงสามารถช่วยให้รอดหรือทำลายก็ได้ แต่ท่านคือใครเล่าที่จะตัดสินเพื่อนบ้านของท่าน?  (อมธ.)

ผมไม่มีสิทธิที่จะพิพากษาตัดสินท่าน และท่านก็ไม่มีสิทธิที่จะตัดสินผม แต่พระคัมภีร์บอกเราว่า  พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงไว้ซึ่งสิทธิในการพิพากษาตัดสิน ในโรม 2:3 บอกเราว่า...

“ดังนั้นเมื่อท่านผู้เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนตัดสินคนอื่น แต่ตัวเองยังทำแบบเดียวกับเขา ท่านคิดหรือว่าจะพ้นจากการพิพากษาลงโทษของพระเจ้าได้? (อมธ.)

เรามักมองข้ามความผิดพลาดบาปผิดที่เรากระทำ แต่มุ่งที่จะขุดคุ้ยบ่งชี้ถึงความบาปผิดของคนอื่น และใน 1เปโตร 4:17 บอกเราชัดเจนว่า การกล่าวโทษตัดสินและการพิพากษานั้น “เริ่มต้นที่ครอบครัวขอพระเจ้าก่อน” ถ้าพระเจ้าจะพิพากษาประเทศใด ๆ พระองค์จะเริ่มต้นพิพากษาจากพวกคริสตชนในประเทศนั้น ๆ ก่อน 1เปโตร เขียนไว้อย่างนี้ว่า...

“เพราะถึงเวลาแล้วที่การพิพากษาจะเริ่มขึ้นที่ครอบครัวของพระเจ้า ...” (อมธ.)

ในพระธรรมสุภาษิต 28:13 กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า...

ผู้ซ่อนการละเมิด ของตนไว้จะไม่เจริญ แต่ผู้สารภาพและทิ้งมัน จะได้ความกรุณา” (สุภาษิต 28:13 มตฐ.)

แต่ถ้าใครที่เปิดใจสารภาพความบาปผิดของตนคนนั้นจะได้รับการยกโทษ และได้รับพระเมตตาจากพระเจ้า และการรักษาให้หาย ยากอบ 5:16 กล่าวไว้ว่า...

วิธีการแรกที่จะนำมาซึ่งการเยียวยารักษาไม่ว่าจะเป็นด้านไหน หรือ มิติใดในชีวิต ไม่ว่าในชีวิตส่วนตัวของท่าน ในครอบครัวของท่าน ชีวิตสมรสของท่าน เราจะต้องสารภาพถึงความบาปผิดในตัวเราด้วยจิตใจที่ถ่อมลง และนี่คือก้าวแรกของการเข้ารับการเยียวยารักษาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

ถามตรง ๆ เถิดว่า ท่านต้องการรับการเยียวยารักษาไหม? ท่านต้องการให้ครอบครัวของท่านได้รับการรักษาไหม? ท่านต้องการให้ชีวิตสมรสของท่านได้รับการรักษาไหม? ท่านต้องการให้สังคมประเทศชาติของท่านได้รับการเยียวยารักษาจากพระเจ้าไหม? ถ้าต้องการ เราจะต้องเป็นคนแรกที่จะก้าวเข้าไปก้าวแรก ด้วยการสารภาพความบาปผิดของเราด้วยการถ่อมจิตใจของตนลง หากประชากรของเราจะถ่อมจิตใจลง สารภาพความบาปผิดของตน ยากอบ 5:16 บอกเราว่า...

“ฉะนั้นจงสารภาพบาปของท่านต่อกันและอธิษฐานเผื่อกันและกัน เพื่อท่านจะได้รับการรักษาให้หาย...” (ยากอบ 5:16 ก. อมธ.)

ให้เราสารภาพบาปของเราต่อกันและกัน และ อธิษฐานเผื่อกันและกัน เพราะเราต้องการให้คนอื่นช่วยให้เราเกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิต ความจริงคือเราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองด้วยตัวเราเอง และด้วยเหตุนี้ที่ในคริสตจักรจึงมีกลุ่มต่าง ๆ มากมายเพื่อจะหนุนเสริมและช่วยกันและกันให้ชีวิตได้รับการเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้น และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเยียวยารักษา

การบ้านสำหรับแต่ละคน ให้เรามีเวลาสงบอยู่ต่อหน้าพระเจ้าของเรา อธิษฐานทูลขอพระองค์โปรดสำแดงชี้ชัดให้เราได้เห็นถึงสิ่งที่เป็นความบาปผิดของเรา อย่าเพียงอธิษฐานพระเจ้าว่า “ขอโปรดยกโทษความบาปผิดของข้าพระองค์ทั้งสิ้น” เท่านั้น แต่ให้เขียนเป็นรายการความบาปผิดของเราเอง จากนั้นให้อธิษฐานสารภาพความบาปผิดในแต่ละรายการต่อพระเจ้า และนี่คือก้าวแรกของการรับการเยียวยาคือ การที่เราจะถ่อมจิตใจลงสารภาพความบาปผิดของตนเอง

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น