เราต้องแสวงหาพระพักตร์ของพระเจ้า
จากข้อเขียนก่อนหน้านี้สองตอน
ที่กล่าวถึงย่างก้าวเข้าสู่การเยียวยารักษา ก้าวแรกเราจะต้อง “ถ่อมจิตใจลงสารภาพความบาปผิดของตน”
ก้าวที่สอง เราจะต้อง “อธิษฐานด้วยชีวิตและจากความจริงใจ” ในข้อเขียนฉบับนี้จะกล่าวถึงย่างก้าวที่สามของการเข้าสู่การเยียวยารักษา
“เราต้องแสวงหาพระพักตร์พระเจ้า”
3. เราต้องแสวงหาพระพักตร์ของพระเจ้า
เราจะต้องแสวงหาพระเจ้าอย่างจริงจังและแรงกล้า
เราถ่อมจิตใจลงสารภาพความบาปผิดของเรา เราอธิษฐานอย่างจริงใจและจริงจัง เราแสวงหาพระเจ้าอย่างจริงจังและทุ่มเทสุดชีวิต
หมายความว่าเราไม่ได้แสวงหาพระเจ้าเมื่อเรามีเวลาว่าง ไม่ใช่ลำดับความสำคัญรอง
ๆ แล้วแต่จะเป็นไปได้ หรือ เมื่อมีเวลาให้ แต่ต้องเป็นการแสวงหาพระเจ้าอย่างจริงจังและอย่างสุดจิตสุดใจในการติดตามพระองค์ในชีวิตประจำวันเป็นความสำคัญลำดับแรก
นั่นหมายความว่าการแสวงหาพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญที่เรามุ่งเน้นเป็นอันดับแรกสุดของชีวิต
เพราะในพระธรรมฮีบรู 11:6 ข. กล่าวว่า พระเจ้าจะประทานบำเหน็จแก่คนที่แสวงหาพระองค์อย่างจริงจัง
“...เพราะ...พระองค์...ประทานบำเหน็จแก่คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระองค์อย่างจริงจัง”
(ฮีบรู 11:6ข. อมธ.)
ปัญหาคือ: เราแสวงหาผลประโยชน์จากพระเจ้ามากกว่าแสวงหาพระเจ้า
ในปีใหม่นี้พระเจ้าประสงค์อะไรจากท่าน?
พระเจ้าประสงค์ให้ท่านแสวงหาพระองค์ด้วยความจริงจัง จริงใจ อย่างทุ่มเทสุดชีวิต ไม่ใช่แสวงหาของประทานจากพระองค์
ไม่ใช่การแสวงหาพระพรจากพระองค์ ไม่ใช่แสวงหาความโปรดปรานของพระเจ้าในชีวิตของท่าน
แต่ให้ท่านแสวงหาพระองค์ ท่านต้องการที่จะรู้จักพระองค์มากยิ่ง ๆ ขึ้น การแสวงหาอย่างที่กล่าวนี้มีน้อยนิดในผู้คนปัจจุบัน
คนส่วนใหญ่แสวงหา “ผลประโยชน์ที่ตนอยากได้จากพระเจ้า” พวกเขาแสวงหาพระพร ของประทาน
ความพอใจของพระเจ้าในชีวิตของตน เขาแสวงหาสิ่งดีดีที่เขาต้องการให้พระเจ้ากระทำแก่ตนในชีวิต
แต่ในปีใหม่นี้พระองค์ประสงค์ให้เราแสวงหาพระเจ้า ให้เราแสวงหาพระองค์ มิใช่แสวงหาผลประโยชน์จากพระองค์
ในสดุดี 14:2 ได้กล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทอดพระเนตรลงมาจากฟ้าสวรรค์ ดูมวลมนุษยชาติ เพื่อดูว่ามีสักคนไหมที่เข้าใจ มีสักคนไหมที่แสวงหาพระเจ้า”
(อมธ.) หาคนเช่นนี้ยากลำบากหนักหนา
พวกเขาต้องการและแสวงหาพระพร น้อยคนเหลือเกินที่แสวงหาพระเจ้า คนน้อยนิดเหลือเกินที่มีเป้าหมายในชีวิตที่จะต้องการรู้จักพระเจ้ามากยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวัน
และนี่คือสาเหตุสำคัญที่เราตกและจมอยู่ในปลักโคลนชีวิตปีแล้วปีเล่าขึ้นมาจากปลักโคลนชีวิตนั้นไม่ได้
อย่างที่ได้กล่าวแล้วว่า
ในชีวิตของเรามักบ่นว่า มากกว่าการอธิษฐานต่อพระเจ้า ปัญหาของเราคือเราใช้เวลามากมายในการแสวงหาสิ่งต่าง
ๆ ที่เราต้องการในชีวิตแต่ไม่มีเวลาที่จะแสวงหาพระเจ้า
พระเจ้าได้ให้พระสัญญาที่สำคัญยิ่ง
ในเฉลยธรรมบัญญัติ 4:29-31ก.
“แต่ ณ
ที่นั่นแหละท่านทั้งหลายจะแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ถ้าท่านค้นหาพระองค์ “ด้วยสุดจิต และ สุดใจ”
ท่านจะพบพระองค์... เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระกรุณา
พระองค์จะไม่ทรงละทิ้งท่านหรือทำลายท่านหรือลืมพันธสัญญา...” (มตฐ.)
เราจะแสวงหาพระเจ้าอย่างจริงใจและจริงจังได้อย่างไร?
ก็ด้วยการที่จะแสวงหาพระองค์ เพื่อรู้จักพระองค์มากขึ้น ให้การแสวงหาพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกในชีวิตประจำวันของเรา
ให้เราแต่ละคนเริ่มต้นชีวิตในวันใหม่ทุกวันด้วยการแสวงหาพระองค์โดยการอ่านพระวจนะ
และ อธิษฐานต่อพระองค์ และลงท้ายของวันนั้นก็ด้วยการแสวงหาพระองค์ผ่านการอ่านพระวจนะ
และ การอธิษฐานต่อพระองค์ นั่นคือการที่เราแสวงหาพระเจ้าเป็นสิ่งแรก เพื่อที่จะฟังสิ่งที่พระเจ้าตรัสแก่ท่านในแต่ละวัน
และเมื่ออ่านพระคัมภีร์ตอนนั้นและใคร่ครวญแล้ว ให้เราเปิดพระคัมภีร์ตอนนั้นไว้ เพื่อเมื่อเราตื่นขึ้นในวันใหม่เราจะอ่านพระวจนะตอนนั้นอีกครั้งหนึ่งเป็นสิ่งแรก ไม่ใช่รีบไปดูข่าวคราวในโทรศัพท์มือถือของเรา ไม่ใช่เริ่มต้นกับโทรทัศน์
ไม่ใช่เริ่มวันใหม่กับสื่อออนไลน์รูปแบบต่าง ๆ แต่ให้เราเริ่มต้นวันใหม่ด้วยสัจจะความจริงในพระวจนะของพระเจ้า
จงแสวงหาพระวจนะของพระเจ้าเป็นสิ่งแรกในวันใหม่ของชีวิต เมื่อเราอ่านพระวจนะของพระเจ้าในวันใหม่
เมื่อเราพบสิ่งสำคัญให้เราใคร่ครวญ แม้ว่าจะอ่านเพียงข้อเดียวก็ตาม
ให้เราไตร่ตรองว่าพระเจ้าตรัสอะไรแก่เราในเวลานั้น
จนกระทั่งเราพบกับพระคำที่ปลอบประโลมเรา ให้กำลังใจเรา ท้าทายเรา เมื่ออ่านแล้วอย่าเพิ่งปิดพระคัมภีร์เปิดไว้
เพื่อก่อนที่เราจะนอนในค่ำวันนี้เราจะได้อ่านอีกครั้งหนึ่ง ให้พระวจนะของพระเจ้าเป็นคำตรัสคำแรกในวันนั้น
และ เป็นคำตรัสสุดท้ายในวันนั้นแก่เรา แล้วให้เราไปหลับนอนโดยมีพระวจนะตอนนั้นของพระเจ้าอยู่ในความนึกคิดของเรา
พระเยซูคริสต์ได้ให้พระสัญญาไว้ว่า
“แต่จงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน
และพระองค์จะประทานสิ่งทั้งปวงเหล่านี้แก่ท่านด้วย” (มัทธิว 6:33
อมธ.)
หน้าที่ของเราคือแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าก่อนเหนือสิ่งอื่นใด
แต่พระองค์สัญญาว่าพระองค์จะเป็นผู้รับผิดชอบสิ่งอื่นทั้งปวงที่จำเป็นในชีวิตของเราไปตลอดชีวิต
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย
สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น