15 สิงหาคม 2555

ฟังใครดี?


ในทุกวันนี้ ชีวิตของเราต้องเผชิญหน้ากับข้อมูลข่าวสารมากมาย  เรียกว่า “ดั้มพ์” เททับชีวิตของเราก็ว่าได้   จนบ่อยครั้งที่เราไม่รู้ว่าจะฟังจะเชื่อเสียงแนะนำเสียงใดดี!   ยิ่งกว่านั้น  เรายังต้องเผชิญกับเสียงเหล่านั้นว่า  หลายเสียงแนะนำเป็นเสียงที่มีเหตุมีผล   เป็นสิ่งที่ดีที่งาม   เป็นสิ่งที่ถูกต้องน่าจะทำ   ประสบการณ์บอกผมว่าตัดสินใจลำบากมากเลยครับ

เมื่อพระเยซูคริสต์ได้รับบัพติศมาจากยอห์น พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเสด็จลงมาสถิตในชีวิตของพระองค์   ยิ่งกว่านั้น  ยังมีเสียงจากเบื้องบนที่ยืนยันในที่สาธารณะว่า  พระองค์เป็นบุตรที่รักของพระเจ้า   และสิ่งหนึ่งที่เราท่านทราบดีว่า  จากนั้น พระวิญญาณก็ทรงนำพระองค์เข้าไปในถิ่นทุรกันดาร

หลังจากอดอาหารสี่สิบวันสี่สิบคืนแล้ว  พระเยซูทรงหิว  มารผู้ทดลองได้มาหาพระองค์และทูลว่า  ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า  จงสั่งก้อนหินเหล่านี้ให้เป็นขนมปัง(มัทธิว 4:2-3 อมตธรรม)

น่าสังเกตว่า  เหตุการณ์การทดลองนี้เกิดขึ้นกับพระเยซูเมื่อพระวิญญาณสถิตกับพระองค์ และ ทรงนำในชีวิตของพระองค์   เมื่อพระเยซูคริสต์ทรงอดอาหารและอธิษฐานต่อพระเจ้าในถิ่นทุรกันดาร  เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อพระองค์ได้รับการยืนยันว่าพระองค์เป็นบุตรที่รักของพระเจ้า  และเป็นพึงพอใจของพระเจ้า

เหตุการณ์การทดลองที่เกิดขึ้นกับพระเยซูคริสต์  เกิดขึ้นเมื่อ...
พระองค์ได้รับการทรงเจิมจากพระเจ้า
พระองค์มีพระเจ้าอยู่ด้วยในชีวิต
พระองค์ได้รับสถานภาพ (ตำแหน่ง) สำคัญถึงขั้นเป็น “บุตรสุดที่รัก” ของพระเจ้า
คนเช่นนี้หรือที่มารเลือกทดลองในชีวิตของเขา?

ใช่ครับ  มารเลือกทดลองคนเช่นนี้  แต่เมื่อสภาพชีวิตทางกายเกิด “ความอยาก” เกิด “ความหิว”   และแน่นอนครับ  พระเยซูคริสต์ทรงเห็นถึงประชาชนจำนวนมากมายในสมัยของพระองค์ต้อง “หิวโหย”  “อดอยากอาหาร”  พระองค์ทรงเมตตาและต้องการช่วยเหลือ  ขนมปังเป็นสิ่งจำเป็นที่มีค่าสำหรับประชาชนคนส่วนใหญ่

เสียงจากภายในชีวิตของพระเยซูคริสต์ดังขึ้น   พระเจ้าสถิตอยู่  พระเจ้าให้มีความสามารถ  อำนาจ  ฤทธิ์เดชแก่พระเยซูคริสต์แล้ว   พระองค์มีสิทธิที่จะใช้เพื่อแก้ปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่  ทั้งความหิวของพระองค์เอง และ ความหิวของประชาชนคนยากไร้   และที่สำคัญคือ  นี่จะเป็นการเริ่มต้นพันธกิจที่เยี่ยมยอดที่สุดของพระเยซู   เพราะประชาชนคนทั่วไปจะเห็นและยอมรับพระเยซูทันทีว่า พระองค์คือคนที่พระเจ้าทรงมาช่วยกอบกู้ประชาชน  พระองค์คือพระเมสสิยาห์! 

แต่ทำไมพระเยซูไม่ยอมสั่งก้อนหินเหล่านั้นให้เป็นขนมปัง! ทั้งๆ ที่การกระทำนี้คือสิ่งที่ถูกต้อง   เพราะนี่คือการสร้างความยุติธรรม   ประชาชนจะมีขนมปังกิน  และที่ทำก็เป็นการที่พระองค์รับผิดชอบใช้ฤทธิ์เดชที่พระองค์ได้รับจากพระบิดาที่มีในตัวของพระองค์   เป็นเหมือนกับคนที่ได้รับตะลันต์จากเจ้านายแล้วใช้ให้เกิดดอกออกผล?
ใช่ครับ   พระเยซูคริสต์ไม่ยอมทำตามเสียงที่ดังก้องภายในชีวิตของพระองค์ครับ
เพราะที่พระองค์มาในโลกนี้มิใช่มาเพื่อสร้าง “กระแสประชานิยม”  กล่าวคือให้ผู้คนประชาชนยิวนิยมชมชอบ และ ยอมรับพระองค์เป็นพระเมสสิยาห์
เพราะพระองค์มิได้นำ “แผ่นดินของพระเจ้า” มาในโลกนี้ด้วย “พลังแห่งประชาธิปไตย” (หรือเสียงข้างมากคือฝ่ายชนะ)  กล่าวคือ ทำให้ประชาชนยิวพร้อมที่จะหนุนช่วยและเป็นคลื่นมหาชนที่จะกอบกู้อิสรภาพแก่ประเทศอิสราเอลจากการกดขี่ของโรม
เพราะพระเยซูคริสต์มิได้มาเพื่อเป็น “พระเอกขี่ม้าขาว” เพื่อทำตามใจประสงค์ของประชาชนคนยิว  แต่พระองค์มาเพื่อที่จะกระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า และ ให้น้ำพระทัยของพระบิดาสำเร็จในแผ่นดินโลก   อย่างที่สำเร็จแล้วในแผ่นดินสวรรค์
พระเยซูคริสต์ทรงตอบสนองเสียงภายในครั้งนี้ว่า  “มีคำเขียนไว้ว่า มนุษย์ไม่อาจดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียว   แต่ดำรงชีวิตด้วยทุกคำจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า” (4:4 อมตธรรม)

ประการสำคัญของเรื่องราวในตอนนี้คือ   พระเยซูคริสต์มิได้พึ่งพิงฤทธิ์อำนาจ ความสามารถ ทักษะที่พระบิดาประทานให้แก่พระองค์เพื่อกระทำกิจต่างๆ ตอบสนอง “ความต้องการ”  “จุดประสงค์” ของพระเยซูคริสต์เอง   แต่พระองค์ทรงพึ่งพิงในพระวจนะของพระเจ้า   ที่สำแดงถึงพระประสงค์ของพระองค์

กล่าวคือ พระเยซูคริสต์ทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ด้วยการพึ่งพิงการทรงกระทำพระราชกิจของพระเจ้าผ่านชีวิตของพระองค์   โดยมีเป้าหมายชัดเจนคือ “พระประสงค์ของพระเจ้า”  มิใช่ “จุดประสงค์ของฉัน”

ดังนั้น  เราต้องระมัดระวังอย่างมากว่า   การตอบสนองต่อเสียงภายในของเราแต่ละคนต้องไม่เป็นการตอบสนองที่ทำให้เราต้องแชเชือนไปจากพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตและการงานของเรา!

ถ้าเช่นนั้น   การที่คริสตชนในปัจจุบันจะตัดสินใจทำอะไรลงไป   น่าจะมีจิตอธิษฐานภาวนาว่า   สิ่งที่จะตัดสินใจทำลงไปนี้   เป็นความต้องการ  จุดประสงค์ ความประสงค์ของเราเอง   หรือนี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า  เช่นเหตุการณ์ร้อนๆ ที่เกิดขึ้นกับคริสตจักรไทยตอนนี้ เช่น

คริสตชนต่อสู้เอาแพ้เอาชนะกัน  จนต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาล   พระวจนะของพระเจ้าว่าอย่างไรในเรื่องนี้   เราจะไปแสวงหาความชอบธรรมด้วยวิธีการเช่นนี้หรือ?   ความชอบธรรมของใคร  ความถูกต้องเพื่อใคร  พิสูจน์ความจริงเพื่อผลประโยชน์ของใคร?   หยุดคิดสักนิด  พินิจสักหน่อยว่านี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าในการนำแผ่นดินของพระองค์มาปรากฏเป็นจริงบนแผ่นดินไทยหรือไม่?

ตอนนี้คริสตชนแทนที่จะประกาศถึงข่าวดีของพระเยซูคริสต์   แต่แปรเปลี่ยนเป็นการประกาศข่าวร้ายของคริสตชนคนอื่น   ต้องการประกาศความจริงบนการทำร้ายทำลาย “ฝ่ายตรงกันข้าม”   สิ่งเหล่านี้เป็นข่าวดีแห่งแผ่นดินของพระเจ้าหรือไม่?   การกระทำเช่นนี้จะทำให้คนทั่วไปได้เห็นและสรรเสริญพระบิดาของคริสตชนที่อยู่ในสวรรค์หรือเปล่า?   และคงต้องถามว่านี่เป็นการกระทำที่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตคริสตจักรไทยของเราหรือไม่?

วันนี้เราจะฟังเสียงของใครดี?

วันนี้   เราแต่ละคนคงต้องสงบอยู่ต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้า   ก่อนที่จะตัดสินใจ และ กระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดในชีวิตว่า  นี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าหรือไม่?   และอะไรคือพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับข้าพระองค์ในสถานการณ์นี้?   พระองค์ประสงค์ทำงานในชีวิตของข้าพระองค์อย่างไร  และมีพระประสงค์จะทำงานผ่านชีวิตของข้าพระองค์ในเรื่องอะไร?   ขอให้ใช้ชีวิตของข้าพระองค์เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด!   อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น