21 สิงหาคม 2555

ทำไมสวรรค์ไม่ใช่บ้านของเรา?


ถึงแม้พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ได้กล่าวอ้างถึงแผ่นดินของพระเจ้า   แต่คริสตชนไทยส่วนใหญ่ปัจจุบันก็ยังไม่เห็นชัดว่ากิจการงาน อาชีพที่ตนทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเกี่ยวข้องอย่างไรกับแผ่นดินของพระเจ้า

ในหนังสือชื่อ Heaven Is Not My Home (ขอแปลว่า “สวรรค์ไม่ใช่บ้านของฉัน”)  เขียนโดย Paul Marshall ได้กล่าวถึงว่าคริสตชนปัจจุบันถูกหล่อหลอมมุมมองเรื่อง อวสานกาล หรือ วาระสุดท้ายแห่งโลกนี้ ที่หลีกลี้หนีออกจากความเป็นจริง   ซึ่งมักสอนกันว่า  บ้านชั่วนิรันดร์ของเรามีเป้าหมายปลายทางอยู่ที่สวรรค์   ทำให้เรามีโลกทัศน์และชีวะทัศน์เกี่ยวกับเรื่องความรอดในชีวิตของเรามุ่งหน้าสู่สวรรค์   เหมือนผู้ที่ตัดสินใจซื้อตั๋วรถโดยสารที่มีปลายทางที่สวรรค์   แล้วมองว่าโลกนี้เป็นเพียงป้ายจอดรถ หรือ สถานีโดยสาร  ซึ่งมองว่า ป้ายจอดรถ หรือ สถานีรถ เป็นที่ที่เรารอขึ้นรถโดยสาร  ซึ่งไม่มีความสำคัญอะไรมากนัก

Richard Pratt กล่าวไว้ว่า “เรามักคิดกันว่าพระเยซูคริสต์เสด็จมาในโลกนี้เพื่อมาไถ่โทษยกบาปของเรา   ทำให้จิตวิญญาณของเราเกิดประกาย  ทำให้ชีวิตของเราเกิดความชุ่มชื่น ด้วยความสงบสันติและความชื่นชมยินดี  และเมื่อเราตายจากโลกนี้ก็จะมีปีกโผล่ออกมา  ฉวยเอาพิณ และบินเหินฟ้าขึ้นไปร่วมกับคณะนักร้องชั่วนิรันดร์บนสวรรค์”

พระคัมภีร์สอนความจริงที่แตกต่างจากความคิดความเชื่อของเราในปัจจุบัน  พระคัมภีร์สอนว่า แท้จริงแล้ว “สวรรค์เป็นเพียงป้ายจอดรถ!

ภายหลังที่ประชากรของพระเจ้าตายจากโลกนี้แล้ว  จะรอคอยพระคริสต์กษัตริย์ของเราเสด็จกลับมา เพื่อให้บรรลุถึงจุดมุ่งหมายแห่งแผ่นดินของพระเจ้า ที่พระองค์จากมาแต่ครั้งแรก   จากนั้นพระองค์จะนำมาซึ่งสวรรค์ใหม่ และ โลกใหม่   อย่างที่ Paul Marshall ได้เขียนไว้ว่า “เป้าหมายปลายทางของเราอยู่บนโลกนี้  คือแผ่นดินโลกใหม่  เป็นแผ่นดินโลกที่ได้รับการทรงกอบกู้ และ การทรงเปลี่ยนแปลง  แผ่นดินโลกใหม่ที่กลับคืนดีเป็นหนึ่งเดียวกับสวรรค์   ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร  แต่หมายถึงโลกนี้”

ทำให้ผมคิดถึงคำอธิษฐานที่พระเยซูคริสต์สอนสาวกที่ว่า  “...ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่  ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์  ในสวรรค์เป็นอย่างไร ก็ให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก...” (มัทธิว 6:10 ฉบับมาตรฐาน)

ถ้าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นความสำคัญของ “ที่นี่ และ เดี๋ยวนี้”  ที่เป็นจริงในยุคนี้       ถ้าเช่นนั้นแล้วอะไรคือจุดประสงค์ของประชากรในแผ่นดินของพระองค์?   พระเยซูคริสต์สอนคนที่ติดตามพระองค์ว่า “ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งแผ่นดินโลก” และ “ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก” (ดู มัทธิว 5:13, 14)   ด้วยเหตุผลนี้ ที่ Trevin Wax  ได้เขียนในบทความเรื่อง Gospel Coalition ไว้ตอนหนึ่งว่า...
ทุกวันนี้ ถ้าเราเป็นประชากรแห่งแผ่นดินของพระเจ้าอย่างแท้จริงแล้ว   การเชื่อฟังพระคริสต์ในชีวิตของเราต้องสัมผัสกับชีวิตของผู้คนในทุกมิติ   การยอมรับด้วยปากของเราว่า “พระเยซูเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า” มิได้สร้างแรงกระทบต่อชีวิตคริสตจักรของเรา  หรืออุปนิสัยใจคอด้านจิตวิญญาณเพียงบางเรื่องเท่านั้น   ในฐานะที่เราเป็นคนหนึ่งในแผ่นดินของพระเจ้า   เราจะต้องรุกขยายการครอบครองของพระเจ้าเข้าไปทุกส่วนทุกระดับในสังคมโลก   แผ่อิทธิพลด้วยการนำเอาความรักเมตตาและพระคุณของพระเจ้าไปถึงชีวิตคนทั้งหลาย   จะด้วยวิธีการที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการสื่อด้านศิลปะ   ผ่านภาคธุรกิจ   ผ่านระบบการเมือง  และผ่านอาชีพการงานที่เราทำและรับผิดชอบ

เมื่อเราเชื่อศรัทธา  กลับใจใหม่  และมีชีวิตที่เข้าสู่แผ่นดินของพระเจ้าในยุคปัจจุบันนี้   ชีวิตของเราก็ได้ประกาศและเป็นพยานถึงความเป็นไปได้ของการดำเนินชีวิตในวิถีทางนี้   เป็นป้ายชี้ทางถึงวิถีที่นำไปถึง “แผ่นดินสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่”

ใช่ครับ วันนี้...บ้านของเราอยู่บนโลกนี้ครับ
พระเยซูคริสต์ทรงสถาปนา “แผ่นดินของพระเจ้า” บนโลกนี้ครับ
พระองค์ต้องการและทรงเรียกให้เราติดตามพระองค์และเปลี่ยนชีวิตของเราให้มีชีวิตที่เป็นประชากรแห่งแผ่นดินของพระองค์ครับ
และพระองค์ทรงใช้เราให้สำแดงชีวิตแบบพระคริสต์ในชีวิตประจำวัน  เพื่อนำคนรอบข้างเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของพระองค์
พระองค์ทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ที่จะทำให้แผ่นดินโลกและแผ่นดินสวรรค์เกิดการคืนดีและเป็นหนึ่งเดียวกันครับ  “ให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่...สวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก” 
และวันนี้   พระเยซูคริสต์ทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในชีวิตของเรา และ ผ่านชีวิตของเราไปยังคนรอบข้างครับ   เราจึงมิได้พึ่งพิงความสามารถและกำลังของตนเองเท่านั้น   แต่เราจะได้รับพระกำลังจากเบื้องบน และ ร่วมงานกระทำพระราชกิจของพระคริสต์กับพระวิญญาณบริสุทธิ์

ประเด็นสำหรับใคร่ครวญ

1. ถ้าแผ่นดินสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่ จะสถาปนาอย่างสมบูรณ์บนโลกนี้   ท่านยังสนใจที่จะเชื่อและติดตามพระคริสต์หรือไม่?  เพราะเหตุใด?

2. ถ้าท่านเป็นประชากรในแผ่นดินของพระเจ้า   ตลอดสัปดาห์ข้างหน้านี้ ท่านตั้งใจจะสำแดงชีวิตของพระคริสต์ผ่านการดำเนินชีวิตของท่านในเรื่องอะไรบ้าง? (ที่ต้องการทำเป็นอันดับ 1-2)  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ทำงานของท่าน

3. เราปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่า  บางครั้งเราต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เราไม่มีกำลังพอ หรือ ไม่รู้จะจัดการอย่างไรในสถานการณ์นั้นๆ   แต่ท่านยังตั้งใจมุ่งมั่นว่า ต้องการสำแดงชีวิตประชากรแห่งแผ่นดินของพระเจ้า   ท่านจะมีแนวทางจัดการกับปัญหาที่พบนี้อย่างไร?   ทำไมท่านถึงคิดจะจัดการเช่นนั้น?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น