29 สิงหาคม 2555

...ข้าพระองค์หรือเป็นผู้ดูแลน้อง?


ใคร่ครวญถึงความรับผิดชอบในการเอาใจใส่ รับใช้และบริการ

คงไม่มีใครเลือกเอาคาอินเป็นพระเอกในดวงใจของตน   แต่หลายคนได้ตีตราว่าคาอินคือฆาตกรคนแรกของมนุษยชาติ  แต่ก็มีคำถามด้วยเช่นกันว่า  อะไรที่เป็นสาเหตุที่ทำให้พี่ต้องฆ่าน้อง
บางคนบอกว่าเพราะความอิจฉาที่พระเจ้าโปรดปรานน้องมากกว่าตน
บ้างก็บอกว่าที่คาอินทำเช่นนี้เป็นการประชดพระเจ้า  ถ้าไม่มีอาเบลแล้วพระองค์จะรักใคร?
บ้างก็บอกว่าเพราะคาอินต้องการ เด่น ดัง ดี แต่ผู้เดียว  ด้วยการทำลายคู่แข่งขันในชีวิตของตน
ที่คาอินทำลงไปนั้น  มิเคยไตร่ตรองถามตนเองว่า แล้วอาเบลน้องชายจะเป็นเช่นไร
แย่ยิ่งกว่าแย่ไม่เคยคิดสักนิดเลยว่าพระเจ้าผู้สร้างเขาจะคิดและรู้สึกเช่นไร
แต่ในปัจจุบันนี้พฤติกรรมแบบ “คาอิน” ยังมีให้เราเห็นเกร่อมากมายในสังคม ในคริสตจักรไทยของเรา
การทำร้ายทำลายคนที่ขัดผลประโยชน์  ขัดอำนาจ  บดบังบารมี  คนละพรรคคนละพวก
ด้วยวิธีการหลากหลายรูปแบบ   ตั้งแต่เบาที่สุดคือโฆษณาตนเอง  สาดโคลนอีกพวกหนึ่ง
จนกระทั่งทำให้คนอีกฝ่ายหนึ่งต้องล่มแล้วจมหายไปจากเวทีอำนาจ
เพื่อตนจะมีโอกาสขึ้นเถลิงอำนาจอย่างใจปรารถนา
ไม่เคยคิดสักนิดเลยว่า แล้วพี่น้องคริสเตียนที่ตนไล่บดบี้ขยี้นั้นจะเป็นเช่นไร
แล้วก็ไม่นึกถึงว่าแล้วพระเจ้าจะรู้สึกอย่างไร

แต่พระเจ้ายังเมตตาคาอิน พระองค์ถามคำถามคาอินเพื่อให้คาอินได้คิดและไตร่ตรองว่า
“อาเบล น้องชายของเจ้าอยู่ที่ไหน?”
คาอินสวนกลับพระเจ้าอย่างกวนประสาทและท้าทายว่า
“ข้าพระองค์ไม่ทราบ  ข้าพระองค์หรือเป็นผู้ดูแลน้อง?”

สาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เกิดการทำร้ายทำลายกันเช่นนี้ทั้งในบ้าน ในคริสตจักร และในที่งาน   เพราะคนอย่างคาอินมุ่งมองเน้นความสำคัญของตนเอง   มองทุกอย่าง  ทำทุกอย่างเพราะสนใจแต่ตนเอง   ขอให้ชีวิตของตนเองมุ่งไปข้างหน้าก่อน   ขอให้ครอบครัวของฉันปลอดภัยก่อน  เรื่องของคนอื่นค่อยว่ากันทีหลัง   ข้าพระองค์หรือเป็นผู้ดูแลน้อง   ข้าพระองค์หรือต้องรับผิดชอบ  ต้องเอาใจใส่คนพวกนั้น!
ท่านครับ   ท่านคิดว่าทุกวันนี้พระเจ้าจะตอบคนโอหังพวกนี้ว่าอย่างไร?
คงหนีไม่พ้นว่า พระองค์ทรงตอบว่า “ใช่ซิ  เจ้าจะต้องต้องเอาใจใส่และดูแลน้องของเจ้าคนนั้น”
ในพระคัมภีร์มีคำตอบเรื่องนี้ที่ชัดเจนตลอดพระคัมภีร์ทั้งเล่ม
“ใช่  และมากกว่านั้น  เจ้าจะต้องดูแล เอาใจใส่  และเจ้าอย่าข่มเหงคนต่างด้าว...”
(อพยพ 23:9 TBS1971)
“คนต่างด้าวที่อาศัยอยู่กับเจ้านั้นก็เหมือนกับชาวเมืองของเจ้า   เจ้าจงรักเขาเหมือนกับรักตัวเอง...”
(เลวีนิติ 19:34 TBS1971)

นอกจากนั้น  เสียงของผู้เผยพระวจนะก็ยังดังแสบแก้วหูอยู่ว่า
“...เจ้าอดอาหารเพียงเพื่อวิวาทและต่อสู้ และเพื่อต่อยด้วยหมัดอธรรม
การอดอาหารอย่างเจ้าในวันนี้ จะไม่ทำให้เสียงของเจ้าได้ยินไปถึงที่สูง
เราเลือกการอดอาหารอย่างนี้มิใช่หรือ?
คือการแก้พันธนะอธรรม  การแก้สายรัดของแอก
การปลดปล่อยผู้ถูกบีบบังคับให้เป็นอิสระ  และการหักแอกทั้งหมดเสีย
คือการแบ่งอาหารของเจ้ากับคนหิว  การนำคนยากจนไร้บ้านเข้ามาในบ้านมิใช่หรือ?
และเมื่อเห็นคนเปลือยกายก็คลุมกายเขาไว้  ทั้งไม่ซ่อนตัวเจ้าจากญาติของเจ้ามิใช่หรือ?
และถ้าเจ้าทุ่มเทชีวิตของเจ้าแก่ผู้หิวโหย  และทำให้ผู้ถูกข่มใจได้อิ่มเอิบ
แล้วความสว่างจะโผล่ขึ้นแก่เจ้าในความมืด  และความมืดคลุ้มของเจ้าจะเป็นเหมือนเที่ยงวัน
...”    (อิสยาห์ บทที่ 58 ฉบับมาตรฐาน)

“โอเจ้าทั้งหลายผู้บิดเบือนความยุติธรรม และเหยียบย่ำความชอบธรรม
เพราะว่าพวกเจ้าเหยียบย่ำคนยากจน  และรีดเอาส่วนแบ่งข้าวสาลีไปจากเขา
เจ้าจึงสร้างบ้านด้วยศิลาสกัด  แต่เจ้าจะไม่ได้อยู่ในตึกนั้น
เจ้าทำสวนองุ่นที่ร่มรื่น  แต่เจ้าจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นจากสวนนั้น
จงเกลียดความชั่วและจงรักความดี  และจงตั้งความยุติธรรมไว้ในศาล...” (อาโมสบทที่ 5 ฉบับมาตรฐาน)

มนุษย์เอ๋ยพระองค์ทรงสำแดงแก่เจ้าแล้วว่าอะไรดี?   และพระยาเวห์ประสงค์อะไรจากเจ้า?
นอกจากให้ทำความยุติธรรมและให้รักความเมตตา 
และให้ดำเนินชีวิตของเจ้าไปกับพระเจ้าด้วยความถ่อมใจ   (มีคาห์ 6:8)

พระเยซูท้าทายผู้ที่ติดตามพระองค์ว่ามิเพียงแต่รักเพื่อนบ้านเท่านั้น   แต่ให้รักศัตรูคู่อาฆาตด้วย
“จงรักศัตรูของท่าน และจงอธิษฐานเพื่อบรรดาคนที่ข่มเหงท่าน
เพราะพระองค์ทรงให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ขึ้นส่องสว่างแก่คนดีและคนชั่วเสมอกัน  (มัทธิว 5:43-44)
จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน  ด้วยสุดกำลังของท่าน ด้วยสุดความคิดของท่าน 
และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง  (ลูกา 10:25-37)
และเปาโลกล่าวไว้ว่า  “จงรักกันฉันท์พี่น้อง  จงให้ขวนขวายในการให้เกียรติกันและกัน (โรม 12:10-13)

พระเจ้ามิได้บัญชาให้เรารักพี่น้อง  เพื่อนบ้านเท่านั้น  แต่พระองค์ประสงค์ให้เรารักแม้แต่คนที่เป็นศัตรูของเราด้วย   พระเจ้าทรงเชิญชวนให้เรารักเมตตา  นมัสการพระองค์ด้วยความถ่อมใจด้วยการดูแล เอาใจใส่ รับใช้คนอื่นรอบข้างในชีวิตของเรา   พระวจนะของพระเจ้าท้าทายให้เรากลับใจใหม่  และรับการปลดปล่อยออกจากวงจรอุบาทว์แห่งการแข่งขันและเข่นฆ่าทำลายกัน  แล้วหันหน้าเข้าสู่การดำเนินชีวิตภายใต้การครอบครองของพระเจ้าในแผ่นดินของพระองค์

พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ต่อแต่ละคน แต่ละบริบท ในการกระทำที่แตกต่างกัน   แต่ให้เราตระหนักชัดเสมอว่า  พระองค์ประสงค์ให้เรารับผิดชอบ  ดูแล  เอาใจใส่ ด้วยความรักเมตตา  อุทิศตนแด่พระเจ้า  เพื่อที่จะขยายอาณาเขตแห่งความรักเมตตา  อภิบาลเอาใจใส่ชีวิตคนรอบข้างในชีวิตของเรา   ด้วยการสานต่อพระราชกิจของพระคริสต์ในโลกนี้   และร่วมกระทำพระราชกิจในทุกวันที่เรามีชีวิตอยู่

วันนี้พระคริสต์ตรัสถามเราว่า...
น้องชายของท่านอยู่ที่ไหน?
เพื่อนบ้านของท่านอยู่ที่ไหน?
ศัตรูของท่านอยู่ที่ไหน?
ท่านจะรับผิดชอบ  ดูแล  เอาใจใส่ และรับใช้เขาเหล่านี้หรือไม่ในวันนี้?
แล้วท่านจะตอบพระองค์ว่าอย่างไร?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น