11 กันยายน 2555

เสรีที่เสริมสร้าง


อ่าน พระธรรมโรม 14:20-15:2

“อย่าทำลายสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างเพราะเห็นแก่อาหารเลย
อาหารทุกอย่างปราศจากมลทินก็จริง
แต่การกินอาหารซึ่งทำให้ผู้อื่นสะดุดก็เป็นสิ่งไม่ดี”
(โรม 14:20 ฉบับมาตรฐาน)

จากที่กล่าวมาแล้วว่า  คนในคริสตจักรโรมประกอบด้วยคนที่มีภูมิหลังที่แตกต่างกัน   มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย  วิธีคิดหรือกรอบคิดที่ไม่เหมือนกัน   เมื่อกลับใจมาเชื่อในพระเยซูคริสต์  มาเป็นอวัยวะหนึ่งในคริสตจักรจึงยังมีความเห็นในบางเรื่องที่แตกต่างกันออกไป   เช่น  คนที่มาจากภูมิหลังของมังสวิรัติ ก็มองว่าไม่ควรรับประทานเนื้อสัตว์  ในขณะที่คนอีกพวกหนึ่งเห็นว่าเนื้อสัตว์เป็นอาหารที่พระเจ้าทรงประทานให้  และเห็นว่าการรับประทานเนื้อสัตว์ไม่ผิด   เปาโลได้เขียนถึงสมาชิกในคริสตจักรโรมว่า  สำหรับคริสเตียนแล้วอาหารทุกอย่างย่อมกินได้แล้วแต่ความชอบหรือไม่ชอบของแต่ละคน   เพราะเมื่อมาเชื่อในพระเยซูคริสต์แล้วเราต่างได้รับเสรีในชีวิต

แต่ในพระธรรมตอนนี้เปาโลได้ชี้ชัดถึง “เสรีในพระคริสต์” นั้นต่างจากเสรีตามกระแสสังคม

เสรีตามกระแสสังคมเน้นความสำคัญถึง “สิทธิส่วนบุคคล” ที่สามารถกระทำถ้าการกระทำนั้นไม่ขัดหรือทำผิดกฎหมาย  เป็นสิทธิของคนๆ นั้นจะทำเช่นนั้นตามที่เขาปรารถนา

แต่สำหรับ “เสรีในพระคริสต์” นั้นหมายถึงบุคคลนั้นไม่ถูกครอบงำด้วยอำนาจของบาป  เป็นเสรีที่ไม่ต้องกระทำตามกฎบังคับของอำนาจแห่งความบาปเพราะพระคริสต์ทรงปลดปล่อยเราออกจากอำนาจชั่วนั้น   เราจึงมีเสรีจากการครอบงำของอำนาจชั่ว  และมีเสรีในการดำเนินชีวิตของเรา   แต่การดำเนินชีวิตคริสเตียนของเรามิใช่การกระทำใจปรารถนาของเราเอง

สิ่งที่ผมเชิญชวนให้สังเกตคือ  เมื่อเราได้รับการปลดปล่อยจากอำนาจชั่วแล้ว  เราจึงมี “เสรีในพระคริสต์”   เรามิได้มีเสรีตามใจปรารถนาของเรา(ตามวิธีคิดตามกระแสสังคมปัจจุบัน)   แต่เรามีเสรี “ในพระคริสต์” 

แล้วเสรีในพระคริสต์นั้นเป็นอย่างไรกันแน่!  แตกต่างจากเสรีทั่วไปอย่างไร?

ประการแรก  เสรีในพระคริสต์   เป็นเสรีที่เราไม่ทำตามใจปรารถนาของตนเอง   แต่เป็นการยอมที่จะไม่ทำเพื่อไม่ทำให้คนอื่นๆ ต้องสะดุดเพราะการกระทำของเราในฐานะคริสเตียน   เปาโลพูดชัดเจนว่า ท่านพร้อมที่จะไม่รับประทานเนื้อสัตว์ถ้าการรับประทานนั้นทำให้พี่น้องมังสวิรัติต้องสะดุด   แต่ในที่นี้คนที่เป็นมังสวิรัติก็จะไม่ตีตรากล่าวร้ายว่าการรับประทานเนื้อสัตว์เป็นความบาป   ดังนั้น  เสรีในพระคริสต์คือเสรีที่จะไม่ทำให้พี่น้องต้องสะดุด  “อย่าทำลายสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างเพราะเห็นแก่อาหารเลย   อาหารทุกอย่างปราศจากมลทินก็จริง  แต่การกินอาหารซึ่งทำให้คนอื่นสะดุดก็เป็นสิ่งที่ไม่ดี” (ในอมตธรรมแปลว่า เป็นสิ่งที่ผิด)  โรม 14:20

ประการที่สอง  เสรีในพระคริสต์  เป็นเสรีที่จะเสริมสร้างกันและกัน  เสรีในพระคริสต์คือเสรีที่จะกระทำตามพระประสงค์ของพระองค์   คือให้คำนึงและเอื้อการเสริมสร้างชีวิตแก่ผู้ที่อ่อนแอกว่า   อดทนต่อข้อบกพร่องของคนที่อ่อนกำลังในชีวิต   และที่สำคัญคือ เรามีเสรีที่เสริมสร้างความเชื่อของกันและกันให้เข้มแข็งขึ้นอย่างพระคริสต์  
“พวกเราซึ่งมีความเชื่อที่เข้มแข็ง
ควรจะอดทนต่อข้อบกพร่องของผู้ที่มีความเชื่ออ่อนแอ
ไม่ควรทำอะไรตามความพอใจของตนเอง
เราทุกคนจงทำให้เพื่อนบ้านของเราพอใจ
เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างความเชื่อของเขา” (โรม 15:1-2)

ประการที่สาม  เสรีในพระคริสต์  เป็นเสรีที่เสริมสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในคริสตจักรคือพระวรกายของพระคริสต์    เปาโลได้กล่าวชัดเจนว่า “เพราะว่าพระคริสต์ไม่ทรงกระทำสิ่งที่พอพระทัยของพระองค์เอง...” (โรม 15:3)   แต่พระองค์ยอมทนทุกข์ตามน้ำพระทัยของพระบิดาเพื่อก่อตั้งคริสตจักรของพระองค์  และกล่าวต่อไปว่า

“ขอพระเจ้าผู้เป็นแหล่งความทรหดอดทน และ การหนุนใจ
ทรงช่วยท่านให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดยพระเยซูคริสต์
เพื่อท่านจะได้พร้อมใจกันสรรเสริญพระเจ้า
ผู้ทรงเป็นพระบิดาของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”
(โรม 15:5 ฉบับมาตรฐาน)


ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญ

1. ท่านเคย “ยอม” ที่จะไม่กระทำตามเสรีตามกระแสสังคม  แต่ “ยอม” ทำตามเสรีในพระคริสต์ หรือไม่?  ท่านทำในเรื่องอะไร?   มีผลเกิดขึ้นอย่างไร?
2. ท่านเคยยอมที่จะไม่ใช้สิทธิ เสรีภาพส่วนตัว   เพราะเห็นแก่พี่น้องคนรอบข้าง  เพื่อเสริมสร้างเขาให้มีความเชื่อที่เข้มแข็งขึ้นหรือไม่?   ท่านยอมในเรื่องอะไร?  ผลเป็นเช่นไร?
3. ในวันนี้  ท่านคิดว่าจะใช้ “เสรีในพระคริสต์” ในที่ทำงานของท่านกับใคร?  อย่างไรบ้าง?

ใคร่ครวญภาวนา

ข้าแต่พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณ   ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงประทานเสรีในชีวิตนี้แก่ข้าพระองค์   แต่เป็นการยากยิ่งที่ข้าพระองค์จะระมัดระวังที่จะไม่ใช้เสรีตามใจปรารถนาของตนเอง  ขอโปรดอภัยแก่ข้าพระองค์ในความผิดนี้ด้วย

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า   ข้าพระองค์ขอน้อมรับความจริงว่า   มีเวลาที่ข้าพระองค์ต้องพร้อมที่จะไม่ใช้เสรีที่ได้จากพระองค์ทำตามใจปรารถนาของตนเอง   เพราะเห็นแก่พี่น้องคนรอบข้างจะมิได้สะดุดในความเชื่อ   เพื่อข้าพระองค์จะไม่ทำให้พระวรกายของพระองค์คือคริสตจักรต้องแตกแยกฉีกขาด เพื่อมิให้พี่น้องต้องได้รับบาดแผลในชีวิตเพราะเสรีตามใจปรารถนาของข้าพระองค์

โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ได้ใช้เสรีในพระคริสต์ที่จะเสริมสร้างพี่น้องคนรอบข้างด้วยความอดทน เพื่อคริสตจักรของพระองค์จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  และแข็งแรงขึ้น

ขอพระเจ้าผู้เป็นแหล่งแห่งความทรหดอดทนและการหนุนใจ   ทรงช่วยให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดยพระเยซูคริสต์   เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้พร้อมใจกันสรรเสริญพระเจ้า   ผู้ทรงเป็นพระบิดาของพระเยซูคริสต์ พระผู้เป็นเจ้าของเรา  อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น