สี่สัปดาห์ก่อนวันคริสตสมภพ
เป็นช่วงเวลาแห่งการใคร่ครวญถึงการทรงเรียกและพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของเราแต่ละคน
แล้วเราจะตอบสนองการทรงเรียกดังกล่าวด้วยท่าทีแบบไหน
และด้วยการอุทิศทุ่มเทชีวิตอย่างไร
อ่านมัทธิว 1:18-24
...มารีย์...เดิมโยเซฟได้สู่ขอหมั้นกันไว้แล้ว ก่อนที่จะได้อยู่กินด้วยกันก็ปรากฏว่า
มารีย์มีครรภ์แล้วด้วยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์
แต่โยเซฟคู่หมั้นของเธอเป็นคนชอบธรรม
ไม่ต้องการแพร่งพรายความเป็นไปของเธอ
ต้องการจะถอนหมั้นเสียลับๆ
เมื่อโยเซฟยังคิดเรื่องนี้อยู่
ก็มีทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่โยเซฟในความฝันว่า “โยเซฟบุตรดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของท่านเลย เพราะว่าผู้ปฏิสนธิในครรภ์ของเธอเป็นโดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์...
เมื่อโยเซฟตื่นขึ้นก็ทำตามคำซึ่งทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งนั้น คือได้รับ
มารีย์มาเป็นภรรยา
แต่ไม่มีเพศสัมพันธ์กับเธอจนกว่าให้พระกำเนิดบุตรชายแล้ว และโยเซฟเรียกนามของบุตรนั้นว่าเยซู (มัทธิว 1:18-20; 24-25 ฉบับมาตรฐาน)
จากตอนก่อนหน้านี้ กล่าวถึงมารีย์ได้ไปเยี่ยมและอยู่กับนางเอลีซาเบธเป็นเวลาสามเดือน ทั้งนี้บ้านนั้นเป็นที่ปลอดภัยสำหรับเธอที่ชีวิตกำลังประสบวิกฤติ
เพราะเป็นบ้านของปุโรหิต
และได้กล่าวไว้ว่า
ในช่วงเวลาสามเดือนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ให้โยเซฟคู่หมั้นของมารีย์มีโอกาสคิด ใคร่ครวญ
และตัดสินใจว่าจะจัดการอย่างไรในเรื่องนี้
ในพระธรรมมัทธิวได้เขียนไว้ว่า โยเซฟเป็นคนชอบธรรม (ข้อ 19)
“เป็นคนดีมีคุณธรรม”(ตามสำนวนอมตธรรม)
ไม่ต้องการที่จะแพร่งพรายเรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดขึ้น(ตามสายตาของโยเซฟและคนทั่วไป) ที่จะทำให้
มารีย์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง
ได้รับความอับอายต่อหน้าธารกำนัล
และต้องโทษถูกหินขว้างตายตามบทบัญญัติยิว
โยเซฟจึงต้องการถอนหมั้นอย่างลับๆ
ในเวลาเดียวกัน การที่โยเซฟเป็นคนชอบธรรม เป็นผู้ที่มีคุณธรรม เขาก็รับไม่ได้ที่คู่หมั้นของตนมีครรภ์โดยที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับตน จะให้เข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่า
มารีย์อาจจะมีชู้
ถึงกระนั้นก็ตามเขาก็ไม่ต้องการทำลายชื่อเสียงของมารีย์และครอบครัว
เขาไม่ต้องการให้มารีย์ต้องเกิดความเจ็บปวดในชีวิตมากกว่านี้ โดยมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรม เรายอมรับว่าโยเซฟเป็นผู้ที่มีความชอบธรรมและมีคุณธรรมในชีวิตของเขา และนี่เป็นความดีประเสริฐเลิศศรีแล้ว
แต่ตามมาตรฐานแห่งการทรงเรียกของพระเจ้าแค่เป็นคนดีมีคุณธรรมนั้นไม่เพียงพอ!
ขณะโยเซฟกำลังคิดใคร่ครวญว่าจะจัดการเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นนี้อย่างไรให้ดีที่สุดได้อยู่นั้น
ทูตสวรรค์ของพระเจ้ามาปรากฏในความฝันของโยเซฟ และชี้ให้โยเซฟเห็นว่า
ในเหตุการณ์ที่โยเซฟเห็นว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายนั้น
แท้จริงเป็นสถานการณ์ที่พระเจ้ากำลังกระทำพระราชกิจของพระองค์ในกระบวนเหตุการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ และชี้ให้โยเซฟเห็นว่า
พระเจ้าทรงเรียกให้มารีย์เข้ามามีส่วนร่วมในพระราชกิจครั้งสำคัญครั้งนี้ แล้วปิดท้ายด้วยการทรงเรียกให้โยเซฟเข้าร่วมในพระราชกิจครั้งสำคัญนี้ด้วยเช่นกัน
การตอบรับการทรงเรียกของพระเจ้าของโยเซฟ มิใช่เป็นการง่าย เพราะเขาต้องต่อสู้กับมโนธรรมสำนึกเดิมๆ ในความคิดจิตใจของเขา เขาต้องฝืนทวนกระแสคิดการเป็น
“คนดีมีคุณธรรม”
ที่เขายึดถือมาตลอดชีวิต
และเขากำลังถูกท้าทายให้กล้าเสี่ยงที่จะรับพระประสงค์แห่งการทรงเรียกครั้งนี้ที่ดูผิดศีลธรรมและจริยธรรมในมาตรฐานของโลก โยเซฟต้องต่อสู้ในจิตใจระหว่าง ความดีมีคุณธรรมของเขากับการเข้าร่วมในพระราชกิจครั้งสำคัญที่พระเจ้าทรงเรียก โยเซฟต้องปล้ำสู้ระหว่างความคิด ที่จะเป็นคนดีตามสายตาของคนในสังคมของเขากับการที่กล้าเสี่ยงร่วมในพระราชกิจของพระเจ้าที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่รู้
ไม่เข้าใจ และไม่ยอมรับ
โยเซฟต้องเลือกที่จะมีชีวิตที่หลบไปอยู่ใน “มุมสงบ” ถอนหมั้นเป็นการลับ แยกทางกับมารีย์ อยู่อย่างสงบ
ไม่ต้องเสี่ยง
ไม่ต้องมารับผิดจากการตีตราของสังคม
หรือ จะตัดสินใจกระโดดเข้าร่วมในกระบวนการแห่งพระราชกิจของพระเจ้า ที่ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญการประณาม ต่อต้าน
เข่นฆ่า ทำร้ายทำลายเช่นไรบ้าง
โยเซฟเริ่มรู้และเข้าใจแล้วว่า
เหตุการณ์เลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้นกับมารีย์คู่หมั้นของเขา
แท้จริงเป็นข่าวดีแห่งพระราชกิจของพระเจ้า แต่เขาก็รู้อีกว่า ที่สำคัญคือเขาต้องตัดสินใจว่า เขาจะเลือกเป็นเพียงคนดีของสังคม หรือ
เขาจะเลือกที่จะอุทิศทุ่มเททั้งชีวิตที่จะเข้าร่วมในพระราชกิจของพระเจ้าครั้งสำคัญครั้งนี้
และเมื่อใครก็ตามได้ยินเสียงการทรงเรียกของพระเจ้า เขาคนนั้นก็เหมือนโยเซฟ ที่ต้องตัดสินใจเลือก ระหว่างคุณค่าแห่งโลกนี้ กับ
คุณค่าแห่งการยอมตนรับใช้พระเจ้าด้วยการทุ่มทั้งชีวิตร่วมในพระราชกิจของพระองค์
มัทธิวบันทึกไว้ว่า “เมื่อโยเซฟตื่นขึ้นก็ทำตามคำซึ่งทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งนั้น คือได้รับ
มารีย์มาเป็นภรรยา...”
(ข้อ 25)
เมื่อพระเจ้าทรงเรียกผู้ใด
พระองค์มิได้ทรงเรียกให้เขาเป็นคนดีตามมาตรฐานแห่งโลกนี้เท่านั้น
แต่พระองค์ทรงเรียกร้องการมอบกายถวายชีวิต
อุทิศทุ่มเทชีวิตทั้งหมดเพื่อเข้าร่วมพระราชกิจของพระเจ้า ให้เป็นไปและเกิดผลตามพระประสงค์ของพระองค์
วันนี้ท่านต้องการเป็นคนดีของสังคม
หรือ เป็นผู้ที่น้อมรับการทรงเรียก
และกล้าที่จะเสี่ยงเข้าร่วมในกระบวนการแห่งพระราชกิจของพระเจ้า ตามพระประสงค์ของพระองค์?
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น