17 ธันวาคม 2555

ช่วงเวลาใคร่ครวญชีวิตคริสตชน (5): เมื่อพระเจ้าทรงเรียก...เป็นคนดีเท่านั้นไม่พอ


สี่สัปดาห์ก่อนวันคริสตสมภพ
เป็นช่วงเวลาแห่งการใคร่ครวญถึงการทรงเรียกและพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของเราแต่ละคน   แล้วเราจะตอบสนองการทรงเรียกดังกล่าวด้วยท่าทีแบบไหน
และด้วยการอุทิศทุ่มเทชีวิตอย่างไร

อ่านมัทธิว 1:18-24

...มารีย์...เดิมโยเซฟได้สู่ขอหมั้นกันไว้แล้ว   ก่อนที่จะได้อยู่กินด้วยกันก็ปรากฏว่า มารีย์มีครรภ์แล้วด้วยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์

แต่โยเซฟคู่หมั้นของเธอเป็นคนชอบธรรม   ไม่ต้องการแพร่งพรายความเป็นไปของเธอ  ต้องการจะถอนหมั้นเสียลับๆ

เมื่อโยเซฟยังคิดเรื่องนี้อยู่   ก็มีทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่โยเซฟในความฝันว่า   “โยเซฟบุตรดาวิด   อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของท่านเลย   เพราะว่าผู้ปฏิสนธิในครรภ์ของเธอเป็นโดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์...

เมื่อโยเซฟตื่นขึ้นก็ทำตามคำซึ่งทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งนั้น  คือได้รับ   มารีย์มาเป็นภรรยา   แต่ไม่มีเพศสัมพันธ์กับเธอจนกว่าให้พระกำเนิดบุตรชายแล้ว   และโยเซฟเรียกนามของบุตรนั้นว่าเยซู   (มัทธิว 1:18-20;   24-25  ฉบับมาตรฐาน)

จากตอนก่อนหน้านี้   กล่าวถึงมารีย์ได้ไปเยี่ยมและอยู่กับนางเอลีซาเบธเป็นเวลาสามเดือน   ทั้งนี้บ้านนั้นเป็นที่ปลอดภัยสำหรับเธอที่ชีวิตกำลังประสบวิกฤติ เพราะเป็นบ้านของปุโรหิต   และได้กล่าวไว้ว่า  ในช่วงเวลาสามเดือนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ให้โยเซฟคู่หมั้นของมารีย์มีโอกาสคิด  ใคร่ครวญ  และตัดสินใจว่าจะจัดการอย่างไรในเรื่องนี้

ในพระธรรมมัทธิวได้เขียนไว้ว่า  โยเซฟเป็นคนชอบธรรม (ข้อ 19)  “เป็นคนดีมีคุณธรรม”(ตามสำนวนอมตธรรม)   ไม่ต้องการที่จะแพร่งพรายเรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดขึ้น(ตามสายตาของโยเซฟและคนทั่วไป)   ที่จะทำให้  มารีย์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง  ได้รับความอับอายต่อหน้าธารกำนัล  และต้องโทษถูกหินขว้างตายตามบทบัญญัติยิว   โยเซฟจึงต้องการถอนหมั้นอย่างลับๆ   

ในเวลาเดียวกัน   การที่โยเซฟเป็นคนชอบธรรม  เป็นผู้ที่มีคุณธรรม  เขาก็รับไม่ได้ที่คู่หมั้นของตนมีครรภ์โดยที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับตน   จะให้เข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่า มารีย์อาจจะมีชู้   ถึงกระนั้นก็ตามเขาก็ไม่ต้องการทำลายชื่อเสียงของมารีย์และครอบครัว   เขาไม่ต้องการให้มารีย์ต้องเกิดความเจ็บปวดในชีวิตมากกว่านี้   โดยมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรม   เรายอมรับว่าโยเซฟเป็นผู้ที่มีความชอบธรรมและมีคุณธรรมในชีวิตของเขา   และนี่เป็นความดีประเสริฐเลิศศรีแล้ว  

แต่ตามมาตรฐานแห่งการทรงเรียกของพระเจ้าแค่เป็นคนดีมีคุณธรรมนั้นไม่เพียงพอ!

ขณะโยเซฟกำลังคิดใคร่ครวญว่าจะจัดการเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นนี้อย่างไรให้ดีที่สุดได้อยู่นั้น    ทูตสวรรค์ของพระเจ้ามาปรากฏในความฝันของโยเซฟ   และชี้ให้โยเซฟเห็นว่า  ในเหตุการณ์ที่โยเซฟเห็นว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายนั้น   แท้จริงเป็นสถานการณ์ที่พระเจ้ากำลังกระทำพระราชกิจของพระองค์ในกระบวนเหตุการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ   และชี้ให้โยเซฟเห็นว่า  พระเจ้าทรงเรียกให้มารีย์เข้ามามีส่วนร่วมในพระราชกิจครั้งสำคัญครั้งนี้   แล้วปิดท้ายด้วยการทรงเรียกให้โยเซฟเข้าร่วมในพระราชกิจครั้งสำคัญนี้ด้วยเช่นกัน

การตอบรับการทรงเรียกของพระเจ้าของโยเซฟ   มิใช่เป็นการง่าย  เพราะเขาต้องต่อสู้กับมโนธรรมสำนึกเดิมๆ ในความคิดจิตใจของเขา   เขาต้องฝืนทวนกระแสคิดการเป็น “คนดีมีคุณธรรม”  ที่เขายึดถือมาตลอดชีวิต   และเขากำลังถูกท้าทายให้กล้าเสี่ยงที่จะรับพระประสงค์แห่งการทรงเรียกครั้งนี้ที่ดูผิดศีลธรรมและจริยธรรมในมาตรฐานของโลก   โยเซฟต้องต่อสู้ในจิตใจระหว่าง ความดีมีคุณธรรมของเขากับการเข้าร่วมในพระราชกิจครั้งสำคัญที่พระเจ้าทรงเรียก   โยเซฟต้องปล้ำสู้ระหว่างความคิด  ที่จะเป็นคนดีตามสายตาของคนในสังคมของเขากับการที่กล้าเสี่ยงร่วมในพระราชกิจของพระเจ้าที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ ไม่เข้าใจ และไม่ยอมรับ   โยเซฟต้องเลือกที่จะมีชีวิตที่หลบไปอยู่ใน “มุมสงบ”  ถอนหมั้นเป็นการลับ   แยกทางกับมารีย์  อยู่อย่างสงบ  ไม่ต้องเสี่ยง  ไม่ต้องมารับผิดจากการตีตราของสังคม   หรือ จะตัดสินใจกระโดดเข้าร่วมในกระบวนการแห่งพระราชกิจของพระเจ้า   ที่ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญการประณาม  ต่อต้าน  เข่นฆ่า ทำร้ายทำลายเช่นไรบ้าง

โยเซฟเริ่มรู้และเข้าใจแล้วว่า   เหตุการณ์เลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้นกับมารีย์คู่หมั้นของเขา   แท้จริงเป็นข่าวดีแห่งพระราชกิจของพระเจ้า   แต่เขาก็รู้อีกว่า   ที่สำคัญคือเขาต้องตัดสินใจว่า  เขาจะเลือกเป็นเพียงคนดีของสังคม   หรือ  เขาจะเลือกที่จะอุทิศทุ่มเททั้งชีวิตที่จะเข้าร่วมในพระราชกิจของพระเจ้าครั้งสำคัญครั้งนี้   และเมื่อใครก็ตามได้ยินเสียงการทรงเรียกของพระเจ้า   เขาคนนั้นก็เหมือนโยเซฟ  ที่ต้องตัดสินใจเลือก  ระหว่างคุณค่าแห่งโลกนี้ กับ คุณค่าแห่งการยอมตนรับใช้พระเจ้าด้วยการทุ่มทั้งชีวิตร่วมในพระราชกิจของพระองค์

มัทธิวบันทึกไว้ว่า  “เมื่อโยเซฟตื่นขึ้นก็ทำตามคำซึ่งทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งนั้น  คือได้รับ   มารีย์มาเป็นภรรยา...” (ข้อ 25)

เมื่อพระเจ้าทรงเรียกผู้ใด   พระองค์มิได้ทรงเรียกให้เขาเป็นคนดีตามมาตรฐานแห่งโลกนี้เท่านั้น   แต่พระองค์ทรงเรียกร้องการมอบกายถวายชีวิต  อุทิศทุ่มเทชีวิตทั้งหมดเพื่อเข้าร่วมพระราชกิจของพระเจ้า  ให้เป็นไปและเกิดผลตามพระประสงค์ของพระองค์  

วันนี้ท่านต้องการเป็นคนดีของสังคม หรือ เป็นผู้ที่น้อมรับการทรงเรียก  และกล้าที่จะเสี่ยงเข้าร่วมในกระบวนการแห่งพระราชกิจของพระเจ้า   ตามพระประสงค์ของพระองค์?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น