อ่าน 2ซามูเอล 12 และ สดุดี 51:1-12
“ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเนรมิตสร้างใจสะอาดในข้าพระองค์
และขอทรงสร้างจิตใจหนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์
...
ขอทรงคืนความชื่นบานในความรอดของพระองค์แก่ข้าพระองค์
และทำให้ข้าพระองค์เชื่อฟังด้วยความเต็มใจ” (สดุดี 51:10,
12 ฉบับมาตรฐาน)
การทำให้จริยธรรมกลายเป็นสิ่งที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนนำมาซึ่งความสับสนในชีวิต ความไร้จริยธรรมของ ดาวิดนำมาซึ่งความหายนะแก่ทั้งตนเอง ครอบครัวของเขา และประเทศชาติด้วย ดาวิดใช้อำนาจในการแย่งชิงภรรยาของอูรียาห์
ทำเหมือนว่าสตรีมีไว้เพื่อเป็นเหยื่อรองรับความรุนแรงของบุรุษ การกระทำเยี่ยงนี้ของดาวิดได้สร้างความรู้สึกเช่นไรกับสตรีในวังของเขา ที่ดาวิดเป็นเช่นนี้เพราะความอ่อนแอจากภายในชีวิตของเขา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพระราชวังกลายเป็นเรื่องที่คนอิสราเอลส่วนใหญ่ในสังคมต่างรับรู้โจษจัน
สับสน และเจ็บปวด
การกระทำที่รุนแรงย่อมสร้างความโหดร้ายตามมา
พระเจ้าทรงเกลียดชังและนำการพิพากษามาเหนือผู้ที่กระทำอย่างไร้จริยธรรมเช่นนี้
ดาวิดจะไม่เห็นไม่รู้ หรือ สามารถหลอกตนเองได้ถึงขนาดว่า “การแย่งชิง”
ภรรยาของอูรียาห์มาเป็นของตนไม่เป็นความผิดบาปเลยหรือ?
และการวางแผนอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมทำลายชีวิตอูรียาห์จะไม่มีความผิดเลยหรือ?
การกระทำอย่างมีเลศนัยของดาวิดเขากระทำอย่างมิได้เกรงกลัวและเกรงใจพระเจ้าเลย
เขาวางแผนซับซ้อนเพื่อมิให้คนทั้งหลายเห็นว่าเป็นการกระทำผิดเท่านั้น
พระเจ้ามิได้ทรงปล่อยให้ดาวิดทำบาปแล้วลอยนวล พระเจ้าเผชิญหน้ากับดาวิดอย่างจัง
ดาวิดจนตรอก
เสียใจต่อการกระทำของเขา
ดาวิดสารภาพในความบาปที่ได้กระทำลงไป
“ข้าพระองค์ได้ทำบาปต่อพระองค์ ต่อพระองค์เท่านั้น และได้ทำสิ่งชั่วร้ายในสายพระเนตรพระองค์...” (ข้อ 4 ฉบับมาตรฐาน) และใน 2ซามูลเอล 12:13 ดาวิดได้กล่าวว่า “เราได้ทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว” (อมตธรรม)
ผลการกระทำความบาปผิดของดาวิดครั้งนี้สิ่งที่เขาต้องได้รับคือ ดาวิดจะต้องตาย เพราะเขาได้วางแผนฆ่าอูรียาห์ ดาวิดต้องถูกถอดออกจากการเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล เฉกเช่นซาอูลถูกถอดถอน
แต่เพราะดาวิดสำนึกและสารภาพในการกระทำผิดบาปใหญ่หลวงครั้งนี้ต่อพระเจ้า จึงได้รับพระเมตตาจากพระองค์ ผู้เผยพระวจนะนาธัน กล่าวแก่ดาวิดว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลบล้างบาปให้ฝ่าพระบาท ฝ่าพระบาทจะไม่ตาย...”
(ข้อ 13 อมตธรรม)
ตามมุมมองเหตุการณ์ครั้งนี้ของพระคัมภีร์
การกระทำครั้งนี้ดาวิดมิได้กระทำผิดต่ออูรียาห์เท่านั้น แต่เขาได้กระทำผิดต่อพระเจ้าด้วย นอกจากที่เขากระทำเช่นนี้โดยมิได้เกรงกลัวพระเจ้าแล้ว แต่ผู้เผยพระวจนะนาธันกล่าวแก่ดาวิดว่า “ฝ่าพระบาทกระทำเช่นนี้เป็นเหตุให้ศัตรูขององค์พระผู้เป็นเจ้าเย้ยหยันอย่างมาก โอรสที่เกิดมาจะสิ้นชีวิต” (ข้อ 14 อมตธรรม)
พระเจ้าไม่ต้องการให้เราเอาชีวิตของเราเข้าไปข้องเกี่ยวกับด้านมืดมิด แต่เมื่อเราตกลงในห้วงแห่งความมืดมิดพระองค์ก็ไม่ต้องการให้ชีวิตของเราจมจ่อมคงอยู่ในความมืดนั้น
และหนทางหนึ่งที่เราจะออกจากอำนาจแห่งความดำมืดนั้นคือการที่เรายอมสารภาพต่อพระเจ้า
พระองค์จะทรงช่วยฉุดและกู้เราให้หลุดรอดออกจากการยึดกุมของอำนาจแห่งความบาปชั่ว และนี่คือข่าวดี เป็นข่าวดีสำหรับคนที่ตกลงในหลุมพรางแห่งความบาปทุกชนิด รวมถึงความบาปผิดในด้านประเวณีด้วย ความไว้วางใจที่แตกหัก ฉีกขาด
เพราะการกระทำผิดทางประเวณีสามารถพลิกฟื้นคืนดีได้ สามีภรรยาที่เกิดบาดแผลในเรื่องนี้อาจจะต้องใช้เวลาแรมเดือนแรมปีที่จะทะลุผ่านความเจ็บปวดในชีวิตนี้ได้
แต่ต้องไม่ลืมและไว้วางใจว่าพระคุณพระเจ้าเท่านั้นที่ทำให้สิ่งเหล่านี้สามารถพลิกฟื้นสู่ชีวิตที่ชื่นบานได้อีกครั้งหนึ่ง
ดาวิดประพันธ์สดุดีบทที่ 51 นี้ด้วยความเสียใจในสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป ด้วยความรู้สึกผิดและอดสู
เขายอมรับความบาปผิดที่เขาได้กระทำลงไปต่อพระพักตร์ของพระเจ้า ท่ามกลางความเสียใจ การสารภาพบาป
ชีวิตของเขาเริ่มได้รับการเสริมสร้างชีวิตใหม่
ความรู้สึกเสียใจทำให้เราหยุดที่จะกระทำผิดบาปนั้น และการสารภาพความบาปทำให้เราหันหน้าออกจากการกระทำที่ผิดบาปนั้น เป็นการเปลี่ยนทิศทางที่ชีวิตมุ่งไป รากศัพท์ภาษาฮีบรูของคำว่า สารภาพมีความหมายว่า
“กลับหลังหันจากทิศทางเดิมที่กำลังมุ่งไป”
ชีวิตที่ได้รับการพลิกฟื้นชื่นบานขึ้นนั้นเป็นผลจากการที่เราหันหลังให้กับทิศทางที่ผิดในการดำเนินชีวิต แล้วหันไปสู่ทิศทางใหม่ในการดำเนินชีวิตของเรา
ผลที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา ครอบครัวของเรา การทำงานของเรา
และชีวิตชุมชนของเรานั้นเกิดจากการตัดสินใจของเรา
ผู้ที่เชื่อในพระเจ้าคือคนบาปที่ได้รับการทรงช่วยกู้จากพระเจ้าโดยพระคุณของพระองค์ หน้าที่ของการอภิบาลชีวิตคือการที่เราช่วยผู้คนที่ถูกจับได้ ถูกตีตราว่าได้กระทำบาปผิดให้เห็นว่า ยังมีเส้นทางชีวิตที่ดีกว่าสำหรับเขา
เมื่อผู้เผยพระวจนะนาธันชี้ให้ดาวิดเห็นว่า
ดาวิดคือชายคนนั้นแหละที่ได้กระทำบาปผิดใหญ่หลวง แล้วนาธันได้สำแดงให้ดาวิดเห็นถึงผลจากความบาปผิดที่จะตามมา
แต่เพราะพระคุณเมตตาของพระเจ้าที่ทรงช่วยกู้ชีวิตของดาวิด และ
ความหายนะของครอบครัวของเขาไว้
แต่ในเวลาเดียวกันทารกคนแรกของดาวิดที่เกิดกับนางบัทเชบาต้องเสียชีวิต
ถึงแม้ดาวิดสร้างเงื่อนไขต่อรองในประการหลังนี้ด้วยการอดอาหารและไว้ทุกข์ แต่มิใช่สิ่งที่อยู่ในวิสัยที่เขาจะใช้ในการต่อรองกับพระเจ้าได้
ประเด็นสำหรับใคร่ครวญ
1. ปัจจุบันนี้ท่านได้ตกลงใน “กับดัก” การกระทำผิดอย่างเป็นนิสัย หรือ
ประจำอะไรบ้าง?
ท่านสามารถมองเห็นทางออกที่พระเจ้าประทานให้ในเรื่องนี้หรือไม่?
2.
ท่านรู้และมั่นใจว่าท่านได้รับการทรงช่วยกู้ให้รอด จนเกิดความชื่นชมยินดีในบ้าน ในที่ทำงาน
หรือในชุมชนของท่านหรือไม่?
ในเรื่องอะไร?
3.
ทุกวันนี้ชีวิตของท่านมีความปีติยินดีที่ได้โลดแล่นขับเคลื่อนชีวิตไปในพระคุณของพระเจ้าหรือไม่?
ชีวิตท่านโลดแล่นไปในพระคุณของพระเจ้าในเรื่องอะไร?
ใคร่ครวญภาวนา
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า
ขอทรงล้างชีวิตข้าพระองค์ให้หมดจดจากความชั่วของข้าพระองค์ และชำระข้าพระองค์จากบาปของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เชื่อและไว้วางใจพระองค์ว่า
เมื่อข้าพระองค์อยู่กับพระองค์ขณะนี้พระองค์จะทรงเผาผลาญสิ่งมลทินทั้งหลายในชีวิตจิตใจของข้าพระองค์
ขอประทานทางใหม่แก่ข้าพระองค์เพื่อข้าพระองค์จะดำเนินตามวิถีทางของพระองค์
ขอพระองค์คืนความชื่นบานในความรอดของพระองค์แก่ข้าพระองค์
และทำให้ข้าพระองค์เชื่อฟังด้วยความเต็มใจ
ข้าแต่พระเจ้า
ขอทรงเนรมิตสร้างใจสะอาดในข้าพระองค์
และขอทรงสร้างจิตใจหนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์ อาเมน
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น