28 ธันวาคม 2555

ขอทรงคืนความชื่นบาน...แก่ข้าพระองค์


อ่าน 2ซามูเอล 12  และ  สดุดี 51:1-12

“ข้าแต่พระเจ้า  ขอทรงเนรมิตสร้างใจสะอาดในข้าพระองค์ 
 และขอทรงสร้างจิตใจหนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์
 ...
 ขอทรงคืนความชื่นบานในความรอดของพระองค์แก่ข้าพระองค์
 และทำให้ข้าพระองค์เชื่อฟังด้วยความเต็มใจ”  (สดุดี 51:10, 12 ฉบับมาตรฐาน)

การทำให้จริยธรรมกลายเป็นสิ่งที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนนำมาซึ่งความสับสนในชีวิต  ความไร้จริยธรรมของ  ดาวิดนำมาซึ่งความหายนะแก่ทั้งตนเอง  ครอบครัวของเขา  และประเทศชาติด้วย   ดาวิดใช้อำนาจในการแย่งชิงภรรยาของอูรียาห์   ทำเหมือนว่าสตรีมีไว้เพื่อเป็นเหยื่อรองรับความรุนแรงของบุรุษ  การกระทำเยี่ยงนี้ของดาวิดได้สร้างความรู้สึกเช่นไรกับสตรีในวังของเขา   ที่ดาวิดเป็นเช่นนี้เพราะความอ่อนแอจากภายในชีวิตของเขา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพระราชวังกลายเป็นเรื่องที่คนอิสราเอลส่วนใหญ่ในสังคมต่างรับรู้โจษจัน สับสน และเจ็บปวด

การกระทำที่รุนแรงย่อมสร้างความโหดร้ายตามมา  

พระเจ้าทรงเกลียดชังและนำการพิพากษามาเหนือผู้ที่กระทำอย่างไร้จริยธรรมเช่นนี้

ดาวิดจะไม่เห็นไม่รู้  หรือ สามารถหลอกตนเองได้ถึงขนาดว่า “การแย่งชิง” ภรรยาของอูรียาห์มาเป็นของตนไม่เป็นความผิดบาปเลยหรือ?   และการวางแผนอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมทำลายชีวิตอูรียาห์จะไม่มีความผิดเลยหรือ?   การกระทำอย่างมีเลศนัยของดาวิดเขากระทำอย่างมิได้เกรงกลัวและเกรงใจพระเจ้าเลย   เขาวางแผนซับซ้อนเพื่อมิให้คนทั้งหลายเห็นว่าเป็นการกระทำผิดเท่านั้น

พระเจ้ามิได้ทรงปล่อยให้ดาวิดทำบาปแล้วลอยนวล   พระเจ้าเผชิญหน้ากับดาวิดอย่างจัง

ดาวิดจนตรอก   เสียใจต่อการกระทำของเขา   ดาวิดสารภาพในความบาปที่ได้กระทำลงไป   “ข้าพระองค์ได้ทำบาปต่อพระองค์  ต่อพระองค์เท่านั้น   และได้ทำสิ่งชั่วร้ายในสายพระเนตรพระองค์...”  (ข้อ 4 ฉบับมาตรฐาน)  และใน 2ซามูลเอล 12:13 ดาวิดได้กล่าวว่า  “เราได้ทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว” (อมตธรรม)   ผลการกระทำความบาปผิดของดาวิดครั้งนี้สิ่งที่เขาต้องได้รับคือ ดาวิดจะต้องตาย  เพราะเขาได้วางแผนฆ่าอูรียาห์   ดาวิดต้องถูกถอดออกจากการเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล  เฉกเช่นซาอูลถูกถอดถอน  แต่เพราะดาวิดสำนึกและสารภาพในการกระทำผิดบาปใหญ่หลวงครั้งนี้ต่อพระเจ้า   จึงได้รับพระเมตตาจากพระองค์   ผู้เผยพระวจนะนาธัน กล่าวแก่ดาวิดว่า  “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลบล้างบาปให้ฝ่าพระบาท   ฝ่าพระบาทจะไม่ตาย...” (ข้อ 13 อมตธรรม)  

ตามมุมมองเหตุการณ์ครั้งนี้ของพระคัมภีร์   การกระทำครั้งนี้ดาวิดมิได้กระทำผิดต่ออูรียาห์เท่านั้น   แต่เขาได้กระทำผิดต่อพระเจ้าด้วย   นอกจากที่เขากระทำเช่นนี้โดยมิได้เกรงกลัวพระเจ้าแล้ว   แต่ผู้เผยพระวจนะนาธันกล่าวแก่ดาวิดว่า  “ฝ่าพระบาทกระทำเช่นนี้เป็นเหตุให้ศัตรูขององค์พระผู้เป็นเจ้าเย้ยหยันอย่างมาก   โอรสที่เกิดมาจะสิ้นชีวิต” (ข้อ 14 อมตธรรม) 

พระเจ้าไม่ต้องการให้เราเอาชีวิตของเราเข้าไปข้องเกี่ยวกับด้านมืดมิด   แต่เมื่อเราตกลงในห้วงแห่งความมืดมิดพระองค์ก็ไม่ต้องการให้ชีวิตของเราจมจ่อมคงอยู่ในความมืดนั้น   และหนทางหนึ่งที่เราจะออกจากอำนาจแห่งความดำมืดนั้นคือการที่เรายอมสารภาพต่อพระเจ้า   พระองค์จะทรงช่วยฉุดและกู้เราให้หลุดรอดออกจากการยึดกุมของอำนาจแห่งความบาปชั่ว   และนี่คือข่าวดี  เป็นข่าวดีสำหรับคนที่ตกลงในหลุมพรางแห่งความบาปทุกชนิด   รวมถึงความบาปผิดในด้านประเวณีด้วย   ความไว้วางใจที่แตกหัก ฉีกขาด เพราะการกระทำผิดทางประเวณีสามารถพลิกฟื้นคืนดีได้   สามีภรรยาที่เกิดบาดแผลในเรื่องนี้อาจจะต้องใช้เวลาแรมเดือนแรมปีที่จะทะลุผ่านความเจ็บปวดในชีวิตนี้ได้   แต่ต้องไม่ลืมและไว้วางใจว่าพระคุณพระเจ้าเท่านั้นที่ทำให้สิ่งเหล่านี้สามารถพลิกฟื้นสู่ชีวิตที่ชื่นบานได้อีกครั้งหนึ่ง

ดาวิดประพันธ์สดุดีบทที่ 51 นี้ด้วยความเสียใจในสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป  ด้วยความรู้สึกผิดและอดสู   เขายอมรับความบาปผิดที่เขาได้กระทำลงไปต่อพระพักตร์ของพระเจ้า   ท่ามกลางความเสียใจ  การสารภาพบาป  ชีวิตของเขาเริ่มได้รับการเสริมสร้างชีวิตใหม่   ความรู้สึกเสียใจทำให้เราหยุดที่จะกระทำผิดบาปนั้น   และการสารภาพความบาปทำให้เราหันหน้าออกจากการกระทำที่ผิดบาปนั้น   เป็นการเปลี่ยนทิศทางที่ชีวิตมุ่งไป  รากศัพท์ภาษาฮีบรูของคำว่า สารภาพมีความหมายว่า “กลับหลังหันจากทิศทางเดิมที่กำลังมุ่งไป”   ชีวิตที่ได้รับการพลิกฟื้นชื่นบานขึ้นนั้นเป็นผลจากการที่เราหันหลังให้กับทิศทางที่ผิดในการดำเนินชีวิต   แล้วหันไปสู่ทิศทางใหม่ในการดำเนินชีวิตของเรา

ผลที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา  ครอบครัวของเรา  การทำงานของเรา  และชีวิตชุมชนของเรานั้นเกิดจากการตัดสินใจของเรา   ผู้ที่เชื่อในพระเจ้าคือคนบาปที่ได้รับการทรงช่วยกู้จากพระเจ้าโดยพระคุณของพระองค์   หน้าที่ของการอภิบาลชีวิตคือการที่เราช่วยผู้คนที่ถูกจับได้  ถูกตีตราว่าได้กระทำบาปผิดให้เห็นว่า ยังมีเส้นทางชีวิตที่ดีกว่าสำหรับเขา   เมื่อผู้เผยพระวจนะนาธันชี้ให้ดาวิดเห็นว่า  ดาวิดคือชายคนนั้นแหละที่ได้กระทำบาปผิดใหญ่หลวง   แล้วนาธันได้สำแดงให้ดาวิดเห็นถึงผลจากความบาปผิดที่จะตามมา   แต่เพราะพระคุณเมตตาของพระเจ้าที่ทรงช่วยกู้ชีวิตของดาวิด และ ความหายนะของครอบครัวของเขาไว้   แต่ในเวลาเดียวกันทารกคนแรกของดาวิดที่เกิดกับนางบัทเชบาต้องเสียชีวิต   ถึงแม้ดาวิดสร้างเงื่อนไขต่อรองในประการหลังนี้ด้วยการอดอาหารและไว้ทุกข์   แต่มิใช่สิ่งที่อยู่ในวิสัยที่เขาจะใช้ในการต่อรองกับพระเจ้าได้

ประเด็นสำหรับใคร่ครวญ

1. ปัจจุบันนี้ท่านได้ตกลงใน “กับดัก” การกระทำผิดอย่างเป็นนิสัย หรือ ประจำอะไรบ้าง?   ท่านสามารถมองเห็นทางออกที่พระเจ้าประทานให้ในเรื่องนี้หรือไม่?

2. ท่านรู้และมั่นใจว่าท่านได้รับการทรงช่วยกู้ให้รอด   จนเกิดความชื่นชมยินดีในบ้าน  ในที่ทำงาน  หรือในชุมชนของท่านหรือไม่?   ในเรื่องอะไร?

3. ทุกวันนี้ชีวิตของท่านมีความปีติยินดีที่ได้โลดแล่นขับเคลื่อนชีวิตไปในพระคุณของพระเจ้าหรือไม่?   ชีวิตท่านโลดแล่นไปในพระคุณของพระเจ้าในเรื่องอะไร?

ใคร่ครวญภาวนา

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า  ขอทรงล้างชีวิตข้าพระองค์ให้หมดจดจากความชั่วของข้าพระองค์  และชำระข้าพระองค์จากบาปของข้าพระองค์   ข้าพระองค์เชื่อและไว้วางใจพระองค์ว่า   เมื่อข้าพระองค์อยู่กับพระองค์ขณะนี้พระองค์จะทรงเผาผลาญสิ่งมลทินทั้งหลายในชีวิตจิตใจของข้าพระองค์   ขอประทานทางใหม่แก่ข้าพระองค์เพื่อข้าพระองค์จะดำเนินตามวิถีทางของพระองค์   ขอพระองค์คืนความชื่นบานในความรอดของพระองค์แก่ข้าพระองค์   และทำให้ข้าพระองค์เชื่อฟังด้วยความเต็มใจ 

ข้าแต่พระเจ้า  ขอทรงเนรมิตสร้างใจสะอาดในข้าพระองค์   และขอทรงสร้างจิตใจหนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์    อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น