11 มกราคม 2556

สิ่งเดียวที่ขอพระเจ้า...ในปีใหม่นี้


อ่านสดุดี 125:1-5


หัวเรื่องการใคร่ครวญในวันนี้อาจจะทำให้บางท่านคิดถึงเรื่องที่เทวดาปรากฏแล้วสัญญาจะให้พรที่ดีที่สุดที่คนนั้นต้องการหนึ่งอย่าง   แล้วเปิดโอกาสให้คนๆ นั้นขอหนึ่งสิ่งที่เขาต้องการ

ถ้าวันนี้พระเจ้าทรงเปิดโอกาสให้ท่านทูลขอสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับท่าน  สิ่งหนึ่งที่ท่านต้องการมากที่สุดในชีวิตสำหรับปีที่กำลังมาถึงนี้คืออะไร?

ในปีใหม่นี้   ท่านจะทูลขออะไรที่เป็นสิ่งเดียวสำคัญที่สุดสำหรับตนเองจากพระเจ้า?

หลายคนคงขอให้พระเจ้าทรงช่วยให้ประสบความสำเร็จในชีวิต  ในหน้าที่การงาน

หลายคนคงขอพระเจ้าทรงนำเขาออกจากความทุกข์ยากสาหัสที่ยาวนานค้างปีจากปีก่อน

หลายคนคงขอพระเจ้าอวยพระพรเรื่องทรัพย์สินเงินทองที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน

บางคนทูลขอว่า  ไม่เอาอะไรแล้วพระเจ้าข้าฯ  ขอให้ชีวิตอยู่อย่างสุข สงบ สันติ มั่นคงก็พอแล้ว

แต่บางคนคงทูลขอในใจเงียบๆ ว่า   ขอพระเจ้าช่วยให้ชนะคดีความต่างๆ บนศาลเถิด

บางคนก็ทูลขอพระเจ้าโปรดเปิดตาเปิดใจเจ้านายได้เห็นความดีที่ตนทำตลอดปีที่ผ่านมา

บางคนก็ทูลขอพระองค์เป็นการส่วนตัวถึงตำแหน่ง หน้าที่ การงานที่ตนคาดหวังว่าจะได้ จะเป็น

บางคนหนักใจเรื่องลูก ห่วงเรื่องหลาน  ขอพระเจ้าช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาด้วยเถิด

ต่างคนต่างมีสิ่งที่ “สำคัญที่สุด” หรือ “สิ่งที่วิกฤติที่สุด”  ที่ต้องการผ่านพ้น  ต้องการเอาชนะ  ต้องการสำเร็จในชีวิต ที่แตกต่างกันไป   คำถามในวันนี้คือ  แล้วปีใหม่นี้  อะไรคือสิ่งเดียวที่ท่านจะขอจากพระเจ้า 

แต่สำหรับผมเอง   เมื่ออ่านบทเพลงสดุดี บทที่ 125  ผมขอสิ่งเดียวจากพระเจ้าในปีนี้  อย่างที่ผู้ประพันธ์สดุดีบทนี้ได้ชี้แนะ คือ “การไว้วางใจในพระเจ้า” (ข้อที่ 1)   เพราะถ้าแม้เราจะทูลขออะไรก็ตามจากพระเจ้า   แต่ขาดความไว้วางใจว่าพระเจ้าจะทรงตอบและทรงกระทำตามที่เราทูลขอแล้ว   สิ่งที่เราทูลขอจะเป็นจริงได้อย่างไรล่ะ?

ยิ่งกว่านั้นครับ   การทูลขอด้วยความไว้วางใจในพระเจ้า  มิใช่การขอสิ่งที่เราต้องการ  แต่เราเชื่อว่า สิ่งที่เราทูลขอนั้นเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระเจ้า   ดังนั้น เมื่อคนหนึ่งคนใดจะทูลขอสิ่งใดที่สำคัญที่สุดในชีวิต   ควรมีเวลาที่จะอยู่คนเดียวกับพระเจ้า  เพื่อใคร่ครวญและขอการทรงเปิดเผยจากพระองค์ว่า   สิ่งที่เรา “อยากจะ” ทูลขอนั้นสอดคล้องต้องตามพระประสงค์ และ น้ำพระทัยของพระเจ้าในชีวิตของเราหรือไม่?

ผมเองเชื่อว่า  พระเจ้าทรงมีพระทัยรักและเมตตาชีวิตของเราแต่ละคน   พระองค์ทรงมีแผนการที่ดีเยี่ยมสำหรับแต่ละชีวิต    พระองค์ทรงกำหนดแผนการชีวิตที่มีคุณค่า ความหมาย ในชีวิตของเราแต่ละคน   สิ่งเหล่านี้มีก่อนที่เราแต่ละคนจะรู้ตัวและทูลขอต่อพระองค์เสียอีก  

สิ่งสำคัญสำหรับผมในปีนี้คือ  ขอพระเจ้าช่วยให้ผม “ไว้วางใจในพระเจ้า” ด้วยสุดจิตสุดใจสุดชีวิตของผมในปีนี้   เพราะความไว้วางใจในพระเจ้านี้เอง   ที่ผมจะยอมเชื่อฟังที่จะดำเนินชีวิตไปตามแผนการชีวิตที่พระองค์ทรงกำหนด   ด้วยความเชื่อฟังและยอมดำเนินตามแผนการของพระองค์    เราจึงค่อยๆ เรียนรู้แผนการและพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตเรา   เราจึง “ตั้งมั่นคง” และ “ไม่หวั่นไหว”   แต่ชีวิตยืนหยัดมั่นคงเป็นนิจนิรันดร์   ไม่ว่าสถานการณ์อะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

นอกจากการที่พระเจ้าทรงมีแผนการชีวิตสำหรับแต่ละคน  แต่ละครอบครัว  แต่ละคริสตจักร  แต่ละสังคมชุมชน  แต่ละประเทศชาติ  และสังคมชุมชนโลกแล้ว   พระองค์ทรงเอาใจใส่  ติดตามแสวงหาเมื่อคนๆ นั้นไม่ได้ดำเนินชีวิตตามแผนการของพระองค์   เมื่อใครก็ตามที่ชีวิตตกลงในวิกฤติ  ติดหล่มโคลนตมแห่งชีวิต  หลงทางชีวิตในสังคมโลกที่เจริญรุ่งเรือง   พระองค์พร้อมที่จะยื่นมือรองรับ  ช้อนชีวิตที่ตกอับบอบช้ำเหล่านั้น   เพื่อปกป้องเขาจากสิ่งเลวร้าย  ช่วยกู้เขาจากภัยอันตรายของอำนาจชั่ว   แล้วทรงมีแผนการฉุกเฉินที่จะฉุดช่วยคนๆ นั้นให้หลุดพ้นออกจากอำนาจบาปชั่วที่ตนติดกับดักของมารอยู่   และพระองค์ทรงใช้สถานการณ์ที่เลวร้ายนั้นในการสำแดงพระประสงค์ในชีวิตของคนๆ นั้น   และด้วยพระทัยรักและเมตตาในสถานการณ์นั้นเองที่พระเจ้าทรงเสริมสร้างชีวิตของคนๆ นั้นขึ้นใหม่   และเสริมหนุนให้ค่อยๆ แข็งแรงขึ้นด้วยพระกำลังจากพระองค์   ถ้าคนๆ นั้น “ไว้วางใจ” ในแผนการของพระเจ้า และ “ยอมรับ” การทรงช่วยตามวิธีการของพระองค์   และ “เชื่อมั่น” ในการทรงปกป้องของพระองค์ด้วยการทรงเดินเคียงข้างไปบนเส้นทางชีวิตประจำวันของเรา   พร้อมกับทรงชี้นำเส้นทางชีวิตที่เราควรจะเดินไป

ผู้เขียนเพลงสดุดี บทที่ 125  ได้ประพันธ์บทเพลงบทนี้จากประสบการณ์ในชีวิตของเขาว่า

บรรดาคนที่วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า  ก็เป็นเช่นภูเขาศิโยน
ซึ่งไม่หวั่นไหว   แต่ตั้งมั่นคงตลอดกาล
ดั่งภูเขาทั้งหลายที่รายล้อมเยรูซาเล็ม   พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงโอบล้อมประชากรของพระองค์
ทั้งบัดนี้และสืบไปนิรันดร์
คทา(อำนาจ)ของคนชั่วจะไม่คงอยู่เหนือแผ่นดินซึ่งเป็นส่วนของคนชอบธรรม
มิฉะนั้น คนชอบธรรมจะลงมือทำผิด
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า  ขอทรงดีต่อผู้ทำดี   ต่อผู้ที่มีจิตใจเที่ยงธรรม
แต่ผู้ที่หันไปสู่ทางคดเคี้ยว
องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเนรเทศเขาไปพร้อมกับคนทำชั่ว
สันติสุขจงมีแก่อิสราเอล
(อมตธรรม)
“ข้าพระองค์เชื่อ...
ที่ยังขาดความเชื่ออยู่นั้น  ขอทรงช่วยให้เชื่อด้วยเถิด”  (มาระโก 9:24 อมตธรรม)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น