30 มกราคม 2556

สมาชิกคริสตจักรคือใคร?


อ่าน  1โครินธ์ 12:4-11

ของประทานนั้นมีต่างๆ กัน                           แต่มีพระวิญญาณองค์เดียวกัน
การปรนนิบัติมีต่างๆ กัน                                แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวกัน
กิจกรรมมีต่างๆ กัน                                       แต่มีพระเจ้าองค์เดียวกันเป็นต้นเหตุแห่งกิจกรรมทั้งหมดในทุกคน

การสำแดงของพระวิญญาณนั้น                   พระองค์ประทานแก่แต่ละคนเพื่อประโยชน์ร่วมกัน

พระเจ้าประทานโดยทางพระวิญญาณ  

ให้คนหนึ่งมีถ้อยคำของปัญญา  
และอีกคนหนึ่งมีถ้อยคำของความรู้             โดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน
ให้คนหนึ่งมีความเชื่อ                                  โดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน
ให้อีกคนหนึ่งมีของประทานรักษาโรค         โดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน

ให้อีกคนหนึ่งทำการด้วยฤทธานุภาพ                 
ให้อีกคนหนึ่งเผยพระวจนะ
ให้อีกคนหนึ่งรู้จักสังเกตวิญญาณต่างๆ
ให้อีกคนหนึ่งพูดภาษาแปลกๆ
ให้อีกคนหนึ่งแปลภาษานั้นๆ ได้
พระวิญญาณองค์เดียวกันทรงทำและจัดสรรสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแก่แต่ละคนตามชอบพระทัยพระองค์

สมาชิกคริสตจักรในปัจจุบันบางครั้งเกิดความเข้าใจที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน   เรามักเรียกศาสนาจารย์  ศิษยาภิบาล  หรือนักเทศน์   มิชชันนารี  ผู้ประกาศข่าวประเสริฐ ว่าเป็นผู้รับใช้พระเจ้า   แล้วเรียกผู้คนที่เหลือที่มาร่วมในการนมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์ว่าเป็นสมาชิกคริสตจักร ศาสนาจารย์  ศิษยาภิบาล  นักเทศน์  กลายเป็นผู้ขับเคลื่อนชีวิตคริสตจักร ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ ในคริสตจักรเป็นเหมือนผู้ชม  หรือนั่งดูการขับเคลื่อนของผู้นำคริสตจักรกลุ่มหยิบมือเดียวในคริสตจักร

แต่ในแผ่นดินของพระเจ้าไม่มีผู้ที่เป็น “ผู้ชม” แต่ทุกคนเป็นผู้กระทำขับเคลื่อนพันธกิจ!

ทุกคนในแผ่นดินของพระเจ้า   ทุกคนที่เป็นสมาชิกคริสตจักร   ทุกคนที่เชื่อศรัทธาในพระเจ้าต้องเป็นผู้ที่ทำงานร่วมกับพระเจ้า (2โครินธ์ 6:1) พระเจ้าทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ผ่านชีวิตของผู้ที่เชื่อ ผ่านชีวิตสมาชิกคริสตจักรแต่ละคน   เพื่อให้ข่าวดีของพระเยซูคริสต์สำเร็จเป็นจริงอย่างเป็นรูปธรรมที่ผู้คนสามารถเห็นและสัมผัสด้วยชีวิตได้ สมาชิกทุกคนเป็นคนงานของพระเจ้า เราเป็นคนงานที่จะเก็บเกี่ยวในทุ่งนาแห่งพระราชกิจของพระเจ้า (มัทธิว 9:37-38)

เมื่อพระเจ้ามีพระประสงค์ให้ผู้เชื่อศรัทธาในพระเจ้าทุกคน  สมาชิกคริสตจักรทุกคนเป็นผู้ที่ร่วมงานขับเคลื่อนพระราชกิจของพระองค์   พระเจ้าจึงทรงประทานของประทานในด้านต่างๆ แก่แต่ละคนอย่างแตกต่างหลากหลาย   ของประทานพิเศษที่แต่ละคนได้รับจากพระเจ้าผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งนี้แต่ละคนต้องตระหนักชัดว่า ของประทานพิเศษ ตะลันต์  หรือ พรสวรรค์ที่มีในแต่ละตัวคนนั้น   เป็นของที่พระเจ้าทรงประทานให้   และทรงประทานให้เพื่อให้คนๆ นั้นได้ใช้ตามพระประสงค์ของพระเจ้า ให้ใช้เพื่อให้พระราชกิจ กิจกรรม  ในแต่ละด้านบรรลุสำเร็จตามพระประสงค์ของพระองค์ และเพื่อให้เป็นประโยชน์ร่วมกัน (ข้อ 7)

กล่าวอีกนัยหนึ่ง พระเจ้าทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ผ่านตะลันต์ ความสามารถ พรสวรรค์ หรือ ของประทานที่พระองค์ประทานให้มีในชีวิตของสมาชิกคริสตจักรแต่ละตัวคน พระเจ้าทรงถักทอของประทานของพระองค์ในชีวิตแต่ละคน เพื่อเสริมสร้างคนๆ นั้นเป็นผู้เชื่อ เป็นสมาชิกคริสตจักร  ให้เป็นคนรับใช้พระเจ้าที่มีประสิทธิภาพ

คริสตชน หรือ สมาชิกคริสตจักรแต่ละคนเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงสรรสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์   และเตรียมแต่ละคนไว้  เพื่อให้กระทำการดี   ตามพระประสงค์ของพระองค์ (เอเฟซัส 2:10)   ของประทานจากพระเจ้ามิใช่ความสามารถของเราเอง   เป็นการทำงานและการทรงสำแดงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผ่านการดำเนินชีวิตของเรา   ของประทานของพระเจ้าเป็นเหมือนน้ำเลี้ยงจากลำต้นที่ลำเลียงส่งมาเลี้ยงแต่ละกิ่งแต่ละใบให้เกิดผล  (พระเยซูคริสต์ตรัสว่า) “เราเป็นเถาองุ่น พวกท่านเป็นแขนง  คนที่ติดสนิทอยู่กับเรา  และเราติดสนิทอยู่กับเขา  คนนั้นจะเกิดผลมาก  เพราะว่าถ้าแยกจากเราแล้วพวกท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย” (ยอห์น 15:15 ฉบับมาตรฐาน) ในทำนองเดียวกัน สมาชิกคริสตจักรทุกคน ผู้เชื่อศรัทธาทุกท่านต่างต้องตระหนักชัดว่า พระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่และทำงานผ่านชีวิตของผู้เชื่อศรัทธาในพระเจ้าแต่ละคน  ทำให้แต่ละคนกระทำงานเกิดผลเป็นการรับใช้พระเจ้า ต้องเข้าใจชัดเจนว่าพลังอำนาจของพระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้นในการทำงานรับใช้และเกิดผลที่กระทำผ่านผู้เชื่อศรัทธาในพระองค์ หรือ สมาชิกคริสตจักร

แต่สมาชิกคริสตจักร หรือ ผู้ที่เชื่อศรัทธาในพระองค์อาจจะถูกหลอกล่อให้หลงผิด ดำเนินชีวิตที่หลงเลี่ยงออกไปนอกลู่นอกทางของพระองค์ เช่น
  • สำคัญผิดคิดไปว่า ที่ตนเองสามารถทำงานพันธกิจด้านต่างๆ เป็นเพราะตนมีความสามารถพิเศษกว่าคนอื่น
  • หลงผิดคิดทำพันธกิจเพื่อผลประโยชน์  เพื่อชื่อเสียง  เพื่อเกียรติยศแห่งตน
  • บางคนบางกลุ่มคิดผิดคลาดเคลื่อนว่า  ตนไม่มีความสามารถอย่างผู้เชื่อศรัทธา หรือ สมาชิกคนอื่นๆ ในคริสตจักร  ดังนั้นจึงไม่คิดที่จะทำหรือรับผิดชอบพันธกิจรับใช้พระเจ้าใดๆ ทั้งสิ้น
  • เมื่อประสบความสำเร็จในการทำงานรับใช้มักหลงลืมพระเจ้าผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนั้น
  • และมักจะนำไปสู่การทำพันธกิจตามใจปรารถนาและตามความต้องการของตนเองมากกว่าที่จะสำนึกและสัตย์ซื่อต่อพระประสงค์ของพระเจ้า

พลังและฤทธานุภาพของพระเจ้านั้นมีพร้อมและเพียงพอสำหรับผู้เชื่อศรัทธาในพระองค์ทุกคน พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าจะหล่อหลอมและเสริมสร้างเราให้เชื่อฟังและทำตามการทรงเรียกขององค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าเสียเวลาที่จะเป็นเพียงผู้เชื่อศรัทธาที่ “นั่งดู” คนอื่นเขาดำเนินขับเคลื่อนพระราชกิจของพระเจ้าอย่างเกิดผล และตระหนักรู้ชัดว่าพระเจ้ามีพระประสงค์อย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างท่านให้เป็นผู้ทำงานรับใช้ในพระราชกิจของพระเจ้า  ตามพระประสงค์ของพระองค์

ที่สำคัญคือ การที่เรายอมตนเข้าร่วมขับเคลื่อนในพระราชกิจของพระเจ้า เรากำลังมีชีวิตที่ใกล้ชิดกับพระองค์   เราได้เรียนรู้ถึงน้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระองค์เด่นชัดและมากยิ่งขึ้น เราได้รับประสบการณ์และเรียนรู้ถึงชีวิตที่มีคุณค่าและความหมายในพระเยซูคริสต์  เราเติบโต เข้มแข็ง และมีชีวิตตามแบบพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวัน

วันนี้ให้เราดำเนินชีวิต  ในครอบครัว  ในหน้าที่การงาน  ในชุมชน  ในคริสตจักร และ ในกลุ่มเพื่อนสนิทด้วยความชื่นชมยินดี   เพราะสิ่งเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของการที่เราร่วมในการกระทำพระราชกิจของพระเจ้าประจำวัน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น