อ่าน 1โครินธ์ 12:4-11
ของประทานนั้นมีต่างๆ กัน แต่มีพระวิญญาณองค์เดียวกัน
การปรนนิบัติมีต่างๆ กัน แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวกัน
กิจกรรมมีต่างๆ กัน แต่มีพระเจ้าองค์เดียวกันเป็นต้นเหตุแห่งกิจกรรมทั้งหมดในทุกคน
การสำแดงของพระวิญญาณนั้น พระองค์ประทานแก่แต่ละคนเพื่อประโยชน์ร่วมกัน
พระเจ้าประทานโดยทางพระวิญญาณ
ให้คนหนึ่งมีถ้อยคำของปัญญา
และอีกคนหนึ่งมีถ้อยคำของความรู้ โดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน
ให้คนหนึ่งมีความเชื่อ โดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน
ให้อีกคนหนึ่งมีของประทานรักษาโรค โดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน
ให้อีกคนหนึ่งทำการด้วยฤทธานุภาพ
ให้อีกคนหนึ่งเผยพระวจนะ
ให้อีกคนหนึ่งรู้จักสังเกตวิญญาณต่างๆ
ให้อีกคนหนึ่งพูดภาษาแปลกๆ
ให้อีกคนหนึ่งแปลภาษานั้นๆ ได้
พระวิญญาณองค์เดียวกันทรงทำและจัดสรรสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแก่แต่ละคนตามชอบพระทัยพระองค์
สมาชิกคริสตจักรในปัจจุบันบางครั้งเกิดความเข้าใจที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน เรามักเรียกศาสนาจารย์ ศิษยาภิบาล
หรือนักเทศน์ มิชชันนารี ผู้ประกาศข่าวประเสริฐ ว่าเป็นผู้รับใช้พระเจ้า
แล้วเรียกผู้คนที่เหลือที่มาร่วมในการนมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์ว่าเป็นสมาชิกคริสตจักร
ศาสนาจารย์ ศิษยาภิบาล นักเทศน์
กลายเป็นผู้ขับเคลื่อนชีวิตคริสตจักร ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ ในคริสตจักรเป็นเหมือนผู้ชม
หรือนั่งดูการขับเคลื่อนของผู้นำคริสตจักรกลุ่มหยิบมือเดียวในคริสตจักร
แต่ในแผ่นดินของพระเจ้าไม่มีผู้ที่เป็น
“ผู้ชม” แต่ทุกคนเป็นผู้กระทำขับเคลื่อนพันธกิจ!
ทุกคนในแผ่นดินของพระเจ้า ทุกคนที่เป็นสมาชิกคริสตจักร
ทุกคนที่เชื่อศรัทธาในพระเจ้าต้องเป็นผู้ที่ทำงานร่วมกับพระเจ้า (2โครินธ์ 6:1) พระเจ้าทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ผ่านชีวิตของผู้ที่เชื่อ
ผ่านชีวิตสมาชิกคริสตจักรแต่ละคน
เพื่อให้ข่าวดีของพระเยซูคริสต์สำเร็จเป็นจริงอย่างเป็นรูปธรรมที่ผู้คนสามารถเห็นและสัมผัสด้วยชีวิตได้
สมาชิกทุกคนเป็นคนงานของพระเจ้า เราเป็นคนงานที่จะเก็บเกี่ยวในทุ่งนาแห่งพระราชกิจของพระเจ้า
(มัทธิว 9:37-38)
เมื่อพระเจ้ามีพระประสงค์ให้ผู้เชื่อศรัทธาในพระเจ้าทุกคน
สมาชิกคริสตจักรทุกคนเป็นผู้ที่ร่วมงานขับเคลื่อนพระราชกิจของพระองค์ พระเจ้าจึงทรงประทานของประทานในด้านต่างๆ แก่แต่ละคนอย่างแตกต่างหลากหลาย
ของประทานพิเศษที่แต่ละคนได้รับจากพระเจ้าผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งนี้แต่ละคนต้องตระหนักชัดว่า
ของประทานพิเศษ ตะลันต์ หรือ
พรสวรรค์ที่มีในแต่ละตัวคนนั้น
เป็นของที่พระเจ้าทรงประทานให้
และทรงประทานให้เพื่อให้คนๆ นั้นได้ใช้ตามพระประสงค์ของพระเจ้า ให้ใช้เพื่อให้พระราชกิจ
กิจกรรม
ในแต่ละด้านบรรลุสำเร็จตามพระประสงค์ของพระองค์ และเพื่อให้เป็นประโยชน์ร่วมกัน
(ข้อ 7)
กล่าวอีกนัยหนึ่ง
พระเจ้าทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ผ่านตะลันต์ ความสามารถ พรสวรรค์ หรือ
ของประทานที่พระองค์ประทานให้มีในชีวิตของสมาชิกคริสตจักรแต่ละตัวคน พระเจ้าทรงถักทอของประทานของพระองค์ในชีวิตแต่ละคน
เพื่อเสริมสร้างคนๆ นั้นเป็นผู้เชื่อ เป็นสมาชิกคริสตจักร ให้เป็นคนรับใช้พระเจ้าที่มีประสิทธิภาพ
คริสตชน
หรือ สมาชิกคริสตจักรแต่ละคนเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงสรรสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์ และเตรียมแต่ละคนไว้ เพื่อให้กระทำการดี ตามพระประสงค์ของพระองค์ (เอเฟซัส 2:10)
ของประทานจากพระเจ้ามิใช่ความสามารถของเราเอง
เป็นการทำงานและการทรงสำแดงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผ่านการดำเนินชีวิตของเรา ของประทานของพระเจ้าเป็นเหมือนน้ำเลี้ยงจากลำต้นที่ลำเลียงส่งมาเลี้ยงแต่ละกิ่งแต่ละใบให้เกิดผล (พระเยซูคริสต์ตรัสว่า) “เราเป็นเถาองุ่น พวกท่านเป็นแขนง คนที่ติดสนิทอยู่กับเรา และเราติดสนิทอยู่กับเขา คนนั้นจะเกิดผลมาก เพราะว่าถ้าแยกจากเราแล้วพวกท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย” (ยอห์น 15:15 ฉบับมาตรฐาน) ในทำนองเดียวกัน สมาชิกคริสตจักรทุกคน
ผู้เชื่อศรัทธาทุกท่านต่างต้องตระหนักชัดว่า พระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่และทำงานผ่านชีวิตของผู้เชื่อศรัทธาในพระเจ้าแต่ละคน
ทำให้แต่ละคนกระทำงานเกิดผลเป็นการรับใช้พระเจ้า
ต้องเข้าใจชัดเจนว่าพลังอำนาจของพระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้นในการทำงานรับใช้และเกิดผลที่กระทำผ่านผู้เชื่อศรัทธาในพระองค์
หรือ สมาชิกคริสตจักร
แต่สมาชิกคริสตจักร
หรือ ผู้ที่เชื่อศรัทธาในพระองค์อาจจะถูกหลอกล่อให้หลงผิด
ดำเนินชีวิตที่หลงเลี่ยงออกไปนอกลู่นอกทางของพระองค์ เช่น
- สำคัญผิดคิดไปว่า ที่ตนเองสามารถทำงานพันธกิจด้านต่างๆ เป็นเพราะตนมีความสามารถพิเศษกว่าคนอื่น
- หลงผิดคิดทำพันธกิจเพื่อผลประโยชน์ เพื่อชื่อเสียง เพื่อเกียรติยศแห่งตน
- บางคนบางกลุ่มคิดผิดคลาดเคลื่อนว่า ตนไม่มีความสามารถอย่างผู้เชื่อศรัทธา หรือ สมาชิกคนอื่นๆ ในคริสตจักร ดังนั้นจึงไม่คิดที่จะทำหรือรับผิดชอบพันธกิจรับใช้พระเจ้าใดๆ ทั้งสิ้น
- เมื่อประสบความสำเร็จในการทำงานรับใช้มักหลงลืมพระเจ้าผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนั้น
- และมักจะนำไปสู่การทำพันธกิจตามใจปรารถนาและตามความต้องการของตนเองมากกว่าที่จะสำนึกและสัตย์ซื่อต่อพระประสงค์ของพระเจ้า
พลังและฤทธานุภาพของพระเจ้านั้นมีพร้อมและเพียงพอสำหรับผู้เชื่อศรัทธาในพระองค์ทุกคน
พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าจะหล่อหลอมและเสริมสร้างเราให้เชื่อฟังและทำตามการทรงเรียกขององค์พระผู้เป็นเจ้า
อย่าเสียเวลาที่จะเป็นเพียงผู้เชื่อศรัทธาที่ “นั่งดู”
คนอื่นเขาดำเนินขับเคลื่อนพระราชกิจของพระเจ้าอย่างเกิดผล และตระหนักรู้ชัดว่าพระเจ้ามีพระประสงค์อย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างท่านให้เป็นผู้ทำงานรับใช้ในพระราชกิจของพระเจ้า ตามพระประสงค์ของพระองค์
ที่สำคัญคือ การที่เรายอมตนเข้าร่วมขับเคลื่อนในพระราชกิจของพระเจ้า
เรากำลังมีชีวิตที่ใกล้ชิดกับพระองค์ เราได้เรียนรู้ถึงน้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระองค์เด่นชัดและมากยิ่งขึ้น
เราได้รับประสบการณ์และเรียนรู้ถึงชีวิตที่มีคุณค่าและความหมายในพระเยซูคริสต์ เราเติบโต เข้มแข็ง
และมีชีวิตตามแบบพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวัน
วันนี้ให้เราดำเนินชีวิต ในครอบครัว
ในหน้าที่การงาน ในชุมชน ในคริสตจักร และ ในกลุ่มเพื่อนสนิทด้วยความชื่นชมยินดี เพราะสิ่งเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของการที่เราร่วมในการกระทำพระราชกิจของพระเจ้าประจำวัน
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น