09 มกราคม 2556

ปีใหม่นี้...ให้ด้วยใจกว้างขวาง


“...ผู้ที่ให้  ก็จงให้ด้วยใจกว้างขวาง...” (โรม 12:8 ฉบับมาตรฐาน)
“...ให้ด้วยใจศรัทธา  ไม่ใช่ด้วยการฝืนใจ” (2โครินธ์ 9:5, 1971)
“...เป็นของที่ให้ด้วยใจกว้างขวาง  มิใช่ของที่ให้ด้วยการฝืนใจ” (2โครินธ์ 9:5 อมตธรรม)

ถ้าเรายอมที่จะให้ด้วยความเต็มใจ   ยิ่งกว่านั้นให้ด้วยใจกว้างขวาง  ซึ่งเป็นการให้ด้วยใจศรัทธาแล้ว  การให้นั้นจะเป็นพลังที่จะเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณของเราเอง   จากการฝึกฝนทางจิตวิญญาณ  การให้เป็นพลังที่ปลดปล่อยเราให้หลุดพ้นออกจากการถูกพันธนาการของความกลัวและความวิตกกังวล   เมื่อเรากล้าที่จะทุ่มเทชีวิตของเราให้ด้วยความใจกว้างขวางเมื่อนั้นเราก็ได้ทุ่มชีวิตของเราลงในกระแสธารแห่งพระคุณของพระเจ้า   เมื่อเราให้ด้วยมิได้คาดหวังว่าจะได้รับอะไรเป็นการตอบแทน   เราได้สะท้อนให้ผู้คนได้เห็นถึงพระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้า   เราสะท้อนให้ผู้คนได้เห็นถึงการทรงให้ด้วยพระทัยกว้างขวางของพระเจ้าอย่างน่าอัศจรรย์ใจที่มีต่อมนุษย์เรา   และในเวลาเดียวกันเรากำลังประกาศว่า  อำนาจแห่งความกลัวและวิตกกังวลไม่สามารถที่จะครอบงำชีวิตของเรา   การให้ด้วยใจกว้างขวางทำให้เราได้สัมผัสถึงน้ำพระทัยของพระเจ้าเมื่อพระองค์ทรงให้สิ่งที่มีค่าสูงส่งสุดของพระองค์แก่มนุษย์   เราจะได้สัมผัสถึงความยินดี พออกพอใจที่พระเจ้าทรงสละให้สิ่งที่มีค่าที่สุดแก่ประชากรของพระองค์

ในวัฒนธรรมของสังคมทุนนิยม  บริโภคนิยม  และสังคมประโยชน์นิยม   มักทำให้เราเข้าใจเรื่องการให้อย่างผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปมาก   เรามักจะมองการให้ในลักษณะของการแลกเปลี่ยน   ในทำนอง “หมูไปไก่มา”   และเราต่างคาดหวังว่าเมื่อให้ไปแล้วจะได้สิ่งตอบแทนกลับมาที่ไม่ด้อยคุณค่ากว่าที่เราให้ไป   อย่างน้อยที่สุดก็ให้มีค่าสมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่เราให้ไป   หรือ ถ้าได้สิ่งที่มีค่ากว่าก็จะดีและก็จะดีใจ   “เราต้องการกำไรมากกว่าขาดทุน” ครับ   ลองดูสีหน้าของเยาวชนที่มาฉลองงานคริสต์มาสแล้วมีการจับฉลากหรือแลกเปลี่ยนของขวัญ   ลองดูหน้าของเด็กที่ได้ของขวัญที่มีค่าน้อยนิดซิครับว่าสีหน้าท่าทางของเด็กคนนั้นเป็นอย่างไร   ก็เป็นอาการภายในจิตใจของผู้ใหญ่ที่ให้ด้วยคาดหวังสิ่งตอบแทนครับ   และนี่ไม่ใช่การให้ หรือ ของขวัญในช่วงเวลาคริสตสมภพครับ!

ธรรมเนียมการให้ของขวัญคริสต์มาสและปีใหม่ในปัจจุบันนี้ยังครอบงำความคิดของเราอยู่หรือไม่ครับ?   ถ้ามีคนเอาของขวัญมาให้เราถึงบ้าน   แต่เราไม่มีของขวัญ หรือ ไม่ได้เตรียมของขวัญให้ตอบเราจะรู้สึกไม่สบายใจ   เราเกิดความรู้สึกว่า “เราเป็นหนี้” ของขวัญคริสต์มาสปีนี้ หรือไม่?

ในมัทธิว 2:1-12 ซึ่งเป็นเรื่องราวของนักปราชญ์สามท่านเข้าเฝ้าและนมัสการพระกุมาร   แล้วนำของขวัญมีค่ายิ่งมาถวายแก่พระกุมาร   ก่อนที่จะถึงบ้านที่พระกุมารและครอบครัวพักอยู่   ถ้านักปราชญ์ทั้งสามอยู่ในวัฒนธรรมปัจจุบันคงถามกันและกันว่า  “เอ...พ่อแม่ของพระกุมารจะให้อะไรแก่เราเป็นการตอบแทนของขวัญที่เราให้หนอ?”   นี่เขาจะรู้ไหมหนอว่าเราได้กำยานนี้มาจากการลดราคาหั่นแหลกที่ เดอะ....?”   และเมื่อมารีย์เห็นของขวัญที่ประหลาดที่เอามาให้ในวันเกิดของพระกุมาร   มารีย์คงบ่นพึมพำในใจว่า  “อ้ายทองคำก็ยังพอจะเข้าใจได้นะ   เราเอาไปขายแลกเอาเงินมาใช้จ่ายได้   แต่ที่เป็นกำยาน และ มดยอบนี่  คิดว่าที่ให้มาผิดกาลเทศะแน่ๆ”   “นี่เป็นของขวัญเด็กเกิดใหม่ภาษาอะไรกันนี่?”  “น่าจะเป็นชุดเด็กสักชุดก็ยังมีค่ากว่า?”  “แล้วฉันจะให้อะไรเป็นการตอบแทนล่ะ?”   หรือ “เราจะให้การ์ดขอบคุณเขาสักใบจะดีไหมเนี่ย?!

อย่างที่เราท่านรู้กันแล้วว่า  นักปราชญ์มาเฝ้านมัสการเป็นเวลาหลังการเกิดของพระกุมารประมาณสองปีแล้ว   ถึงแม้ว่าพระกุมารเยซูเกิดในครอบครัวที่ยากจน  บ้านซอมซ่อธรรมดา   แต่ของขวัญที่นักปราชญ์นำมาให้เป็นของบรรณาการสำหรับผู้ที่เกิดมาเป็นกษัตริย์   ครอบครัวของพระกุมมารเยซูก็รับเอาของขวัญที่มีค่าจากนักปราชญ์โดยที่ไม่คิดติดใจว่าจะให้อะไรกลับเป็นการตอบแทน (เพราะนักปราชญ์ให้แก่พระกุมารที่เกิดมาเป็นกษัตริย์)  และนักปราชญ์เองก็เช่นกันว่าไม่สนใจที่จะได้ของที่ให้ตอบกลับมา   เป็นที่ชื่นอกพอใจแล้วที่พวกตนได้ค้นหาพบพระกุมารและมีโอกาสเข้าเฝ้าและนมัสการ   ตามดวงดาวที่พวกเขาเห็นนั้น

ในทำนองเดียวกัน   เราไม่มีทางที่จะให้ของขวัญที่มีค่าเทียบเท่าของขวัญที่พระเจ้าประทานแก่เราตอบแทนกลับพระองค์   เราไม่สามารถที่จะหาของขวัญใดที่มีค่าเทียบเท่าพระบุตรองค์เดียวที่พระองค์ประทานแก่เรา   มีเพียงอย่างเดียวครับ   เราต้องน้อมรับของขวัญล้ำค่าดังกล่าวด้วยจิตใจที่ถ่อมลง    เมื่อเรารู้ตระหนักชัดว่าเราไม่มีทางที่จะหาอะไรมาตอบแทนของขวัญจากพระองค์ได้    เราพึงกระทำอย่างพระองค์ทรงกระทำ  คือเต็มใจที่จะให้สิ่งที่มีค่าสูงสุดแก่ผู้ที่ไม่สามารถที่จะให้กลับ  เฉกเช่นพวกเรา

ในคริสต์มาสและในปีใหม่     ถ้าเราตัดสินใจที่เลิกราจากการ “แลกเปลี่ยนของขวัญ”  “จับฉลากของขวัญ”(จับฉลากพระคุณของพระเจ้า?) หรือ  ออกนอกกรอบความคิดที่จะให้เพื่อคาดหวังการได้คืน   แต่เตรียมใจที่ตอบสนองของขวัญที่ไม่สามารถประเมินค่าที่พระเจ้าทรงประทานแก่เราแต่ละคนด้วยจิตใจที่ถ่อมลงแล้ว   เราสามารถที่จะเลือกให้ “ของขวัญ” แก่ผู้ที่ไม่สามารถที่จะให้ตอบกลับคืนเรา  อย่างพระกุมารที่เบธเลเฮม   แต่ผู้คนที่ไม่สามารถให้ตอบกลับคืนเราได้เหล่านั้นเขาอาจจะสามารถตอบคืนแก่สังคมได้มากเป็นร้อยเท่าพันทวี

ถ้าท่านได้ยินเสียงการทรงเรียกในจิตใจของท่าน   ที่จะตอบสนองต่อพระคุณอันเหลือจะพรรณนาของพระเจ้าท่านสามารถใคร่ครวญพิจารณาถึงการที่ท่านจะเข้าไปมีส่วนร่วมในพันธกิจของพระเจ้าในองค์กรต่างๆ เช่น

  • เด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์  ที่หน่วยงานพันธกิจเอดส์ สภาคริสตจักรในประเทศไทยกำลังดูแลอยู่   มีทั้งเด็กเล็ก  เด็กที่กำลังเรียนในระดับประถมถึงมัธยม   และเด็กส่วนหนึ่งเติบโตเป็นหนุ่มสาวที่กำลังเรียนในอุดมศึกษา   ท่านสามารถตอบสนองพระคุณพระเจ้าด้วยการมอบทุนตามกำลังของท่านด้วยจิตใจที่กว้างขวางแก่เด็กที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้   ท่านสามารถติดต่อ สอบถามรายละเอียดและช่องทางในการร่วมพันธกิจ  โดยติดต่อเจ้าหน้าที่พันธกิจเอดส์  หมายเลขโทรศัพท์ 053 306 310
  • ผู้สูงอายุที่ได้รับกระทบจากเอดส์   ที่ต้องดูแลบุตรที่ได้รับเชื้อเอชไอวี และกำลังเจ็บป่วย   อีกทั้งต้องดูแลหลานที่ได้รับผลกระทบจากเอดส์   รายการนี้สามารถติดต่อที่พันธกิจเอดส์เช่นกัน  หมายเลขโทรศัพท์ 053 306 310
  • ผู้รับใช้สูงอายุ (ที่กำพร้าลูกหลาน)  ที่รับใช้พระเจ้าตลอดชีวิตของท่าน วันนี้มีชีวิตด้วยความเงียบเหงา   หน่วยงานพันธกิจเอดส์จึงได้ประสานงานให้เกิดการทำพันธกิจกับกลุ่มผู้รับใช้ที่สูงอายุกลุ่มนี้ ให้มีโอกาสมาพบปะพูดคุย  และร่วมกันทำสิ่งดีมีคุณค่าในชีวิต   พร้อมทั้งให้การสนับสนุนและช่วยเหลือตามกำลังที่มีอยู่  ปัจจุบัน ศาสนาจารย์ ดร.สะอาด ไชยวัณณ์ เป็นผู้ประสานงานในพันธกิจนี้  ท่านที่สนใจพันธกิจนี้สามารถติดต่อพันธกิจเอดส์  สภาคริสตจักรในประเทศไทย 053 306 310
  • เด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อ หรือ เสี่ยงต่อการค้ามนุษย์ ที่อยู่ในการอุปการะ  ดูแล  และการสร้างเสริมโอกาสใหม่ในชีวิต ของมูลนิธิศูนย์ชีวิตใหม่   ดำเนินการบนรากฐานความเชื่อศรัทธาของคริสตชน  ท่านสามารถติดต่อรายละเอียดจากมูลนิธิศูนย์ชีวิตใหม่  สำนักงานบ้านพักเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053 351312  หรือ  สำนักงานบ้านพักเชียงราย 053 750500
  • เด็กชายหญิงชาติพันธุ์ม้งที่ต้องการโอกาสในการศึกษา   ที่มาอยู่ที่ “บ้านม้งโฮป”  ตั้งอยู่ที่  183 หมู่ที่ 5  ตำบลสันโป่ง  อำเภอแม่ริม  จังหวัดเชียงใหม่  50180.  เป็นหอพักคริสเตียนที่ดำเนินการโดยผู้รับใช้พระเจ้าที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันกรุงเทพคริสต์ศาสนศาสตร์ BIT และ วิทยาลัยพระคริสต์ธรรมแมคกิลวารี  สภาคริสตจักรในประเทศไทย  ท่านสามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติม  และการมีส่วนร่วมในพันธกิจนี้ได้ที่   อาจารย์ มนตรี ชาววิวัฒน์ หมายเลขโทรศัพท์ 080 1200 606
  • สถานสงเคราะห์บ้านเด็กเชียงราย   ซึ่งเป็นบ้านพักคริสเตียนสำหรับนักเรียนชายหญิงนานาเผ่า  ตั้งอยู่เลขที่ 104/1 หมู่ที่ ตำบลริมกก  จังหวัดเชียงราย  57100   ดำเนินการโดย ดร.สุพจน์ พันธ์โอ้น ศิษย์เก่าสถาบันกรุงเทพคริสต์ศาสนศาสตร์ BIT  ท่านสามารถติดต่อขอรายละเอียดในการร่วมพันธกิจได้ที่  คุณพิมพิกา พันธ์โอ้น  หมายเลขโทรศัพท์ 081 033 0778 


ท่านสามารถเข้าเฝ้าและนมัสการพระกุมารในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 21  ด้วยจิตใจที่ถ่อมลง   เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดของท่านแก่ผู้เล็กน้อยเหล่านั้นด้วยจิตใจที่กว้างขวาง  พวกเขาที่ไม่สามารถให้ตอบกลับแก่ท่านครับ

“...เราต้องช่วยพวกที่มีกำลังน้อย  และระลึกถึงพระวจนะของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า
ตามที่พระองค์ตรัสว่า “การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ” (กิจการ 20:35)
“... ซึ่งพวกท่านได้กระทำกับคนใดคนหนึ่งที่เล็กน้อยที่สุดในพี่น้องของเรานี้  ก็เหมือนทำกับเราด้วย”(มัทธิว 25:40)


ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ปล.  อย่าลืมที่จะ “ให้”อภัย  ด้วยใจกว้างขวางด้วยครับ!


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น