“...ผู้ที่ให้
ก็จงให้ด้วยใจกว้างขวาง...” (โรม 12:8
ฉบับมาตรฐาน)
“...ให้ด้วยใจศรัทธา
ไม่ใช่ด้วยการฝืนใจ” (2โครินธ์ 9:5, 1971)
“...เป็นของที่ให้ด้วยใจกว้างขวาง มิใช่ของที่ให้ด้วยการฝืนใจ” (2โครินธ์ 9:5 อมตธรรม)
ถ้าเรายอมที่จะให้ด้วยความเต็มใจ ยิ่งกว่านั้นให้ด้วยใจกว้างขวาง ซึ่งเป็นการให้ด้วยใจศรัทธาแล้ว การให้นั้นจะเป็นพลังที่จะเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณของเราเอง จากการฝึกฝนทางจิตวิญญาณ การให้เป็นพลังที่ปลดปล่อยเราให้หลุดพ้นออกจากการถูกพันธนาการของความกลัวและความวิตกกังวล เมื่อเรากล้าที่จะทุ่มเทชีวิตของเราให้ด้วยความใจกว้างขวางเมื่อนั้นเราก็ได้ทุ่มชีวิตของเราลงในกระแสธารแห่งพระคุณของพระเจ้า
เมื่อเราให้ด้วยมิได้คาดหวังว่าจะได้รับอะไรเป็นการตอบแทน เราได้สะท้อนให้ผู้คนได้เห็นถึงพระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้า เราสะท้อนให้ผู้คนได้เห็นถึงการทรงให้ด้วยพระทัยกว้างขวางของพระเจ้าอย่างน่าอัศจรรย์ใจที่มีต่อมนุษย์เรา และในเวลาเดียวกันเรากำลังประกาศว่า อำนาจแห่งความกลัวและวิตกกังวลไม่สามารถที่จะครอบงำชีวิตของเรา การให้ด้วยใจกว้างขวางทำให้เราได้สัมผัสถึงน้ำพระทัยของพระเจ้าเมื่อพระองค์ทรงให้สิ่งที่มีค่าสูงส่งสุดของพระองค์แก่มนุษย์ เราจะได้สัมผัสถึงความยินดี
พออกพอใจที่พระเจ้าทรงสละให้สิ่งที่มีค่าที่สุดแก่ประชากรของพระองค์
ในวัฒนธรรมของสังคมทุนนิยม บริโภคนิยม
และสังคมประโยชน์นิยม
มักทำให้เราเข้าใจเรื่องการให้อย่างผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปมาก
เรามักจะมองการให้ในลักษณะของการแลกเปลี่ยน ในทำนอง “หมูไปไก่มา”
และเราต่างคาดหวังว่าเมื่อให้ไปแล้วจะได้สิ่งตอบแทนกลับมาที่ไม่ด้อยคุณค่ากว่าที่เราให้ไป อย่างน้อยที่สุดก็ให้มีค่าสมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่เราให้ไป หรือ ถ้าได้สิ่งที่มีค่ากว่าก็จะดีและก็จะดีใจ “เราต้องการกำไรมากกว่าขาดทุน” ครับ
ลองดูสีหน้าของเยาวชนที่มาฉลองงานคริสต์มาสแล้วมีการจับฉลากหรือแลกเปลี่ยนของขวัญ ลองดูหน้าของเด็กที่ได้ของขวัญที่มีค่าน้อยนิดซิครับว่าสีหน้าท่าทางของเด็กคนนั้นเป็นอย่างไร ก็เป็นอาการภายในจิตใจของผู้ใหญ่ที่ให้ด้วยคาดหวังสิ่งตอบแทนครับ และนี่ไม่ใช่การให้ หรือ
ของขวัญในช่วงเวลาคริสตสมภพครับ!
ธรรมเนียมการให้ของขวัญคริสต์มาสและปีใหม่ในปัจจุบันนี้ยังครอบงำความคิดของเราอยู่หรือไม่ครับ? ถ้ามีคนเอาของขวัญมาให้เราถึงบ้าน แต่เราไม่มีของขวัญ หรือ ไม่ได้เตรียมของขวัญให้ตอบเราจะรู้สึกไม่สบายใจ เราเกิดความรู้สึกว่า “เราเป็นหนี้”
ของขวัญคริสต์มาสปีนี้ หรือไม่?
ในมัทธิว 2:1-12 ซึ่งเป็นเรื่องราวของนักปราชญ์สามท่านเข้าเฝ้าและนมัสการพระกุมาร แล้วนำของขวัญมีค่ายิ่งมาถวายแก่พระกุมาร ก่อนที่จะถึงบ้านที่พระกุมารและครอบครัวพักอยู่ ถ้านักปราชญ์ทั้งสามอยู่ในวัฒนธรรมปัจจุบันคงถามกันและกันว่า
“เอ...พ่อแม่ของพระกุมารจะให้อะไรแก่เราเป็นการตอบแทนของขวัญที่เราให้หนอ?”
นี่เขาจะรู้ไหมหนอว่าเราได้กำยานนี้มาจากการลดราคาหั่นแหลกที่
เดอะ....?”
และเมื่อมารีย์เห็นของขวัญที่ประหลาดที่เอามาให้ในวันเกิดของพระกุมาร มารีย์คงบ่นพึมพำในใจว่า “อ้ายทองคำก็ยังพอจะเข้าใจได้นะ เราเอาไปขายแลกเอาเงินมาใช้จ่ายได้ แต่ที่เป็นกำยาน และ มดยอบนี่ คิดว่าที่ให้มาผิดกาลเทศะแน่ๆ”
“นี่เป็นของขวัญเด็กเกิดใหม่ภาษาอะไรกันนี่?” “น่าจะเป็นชุดเด็กสักชุดก็ยังมีค่ากว่า?” “แล้วฉันจะให้อะไรเป็นการตอบแทนล่ะ?” หรือ
“เราจะให้การ์ดขอบคุณเขาสักใบจะดีไหมเนี่ย?!”
อย่างที่เราท่านรู้กันแล้วว่า นักปราชญ์มาเฝ้านมัสการเป็นเวลาหลังการเกิดของพระกุมารประมาณสองปีแล้ว ถึงแม้ว่าพระกุมารเยซูเกิดในครอบครัวที่ยากจน บ้านซอมซ่อธรรมดา
แต่ของขวัญที่นักปราชญ์นำมาให้เป็นของบรรณาการสำหรับผู้ที่เกิดมาเป็นกษัตริย์ ครอบครัวของพระกุมมารเยซูก็รับเอาของขวัญที่มีค่าจากนักปราชญ์โดยที่ไม่คิดติดใจว่าจะให้อะไรกลับเป็นการตอบแทน
(เพราะนักปราชญ์ให้แก่พระกุมารที่เกิดมาเป็นกษัตริย์) และนักปราชญ์เองก็เช่นกันว่าไม่สนใจที่จะได้ของที่ให้ตอบกลับมา เป็นที่ชื่นอกพอใจแล้วที่พวกตนได้ค้นหาพบพระกุมารและมีโอกาสเข้าเฝ้าและนมัสการ ตามดวงดาวที่พวกเขาเห็นนั้น
ในทำนองเดียวกัน
เราไม่มีทางที่จะให้ของขวัญที่มีค่าเทียบเท่าของขวัญที่พระเจ้าประทานแก่เราตอบแทนกลับพระองค์
เราไม่สามารถที่จะหาของขวัญใดที่มีค่าเทียบเท่าพระบุตรองค์เดียวที่พระองค์ประทานแก่เรา มีเพียงอย่างเดียวครับ
เราต้องน้อมรับของขวัญล้ำค่าดังกล่าวด้วยจิตใจที่ถ่อมลง
เมื่อเรารู้ตระหนักชัดว่าเราไม่มีทางที่จะหาอะไรมาตอบแทนของขวัญจากพระองค์ได้ เราพึงกระทำอย่างพระองค์ทรงกระทำ คือเต็มใจที่จะให้สิ่งที่มีค่าสูงสุดแก่ผู้ที่ไม่สามารถที่จะให้กลับ เฉกเช่นพวกเรา
ในคริสต์มาสและในปีใหม่ ถ้าเราตัดสินใจที่เลิกราจากการ “แลกเปลี่ยนของขวัญ” “จับฉลากของขวัญ”(จับฉลากพระคุณของพระเจ้า?) หรือ ออกนอกกรอบความคิดที่จะให้เพื่อคาดหวังการได้คืน
แต่เตรียมใจที่ตอบสนองของขวัญที่ไม่สามารถประเมินค่าที่พระเจ้าทรงประทานแก่เราแต่ละคนด้วยจิตใจที่ถ่อมลงแล้ว เราสามารถที่จะเลือกให้ “ของขวัญ” แก่ผู้ที่ไม่สามารถที่จะให้ตอบกลับคืนเรา อย่างพระกุมารที่เบธเลเฮม
แต่ผู้คนที่ไม่สามารถให้ตอบกลับคืนเราได้เหล่านั้นเขาอาจจะสามารถตอบคืนแก่สังคมได้มากเป็นร้อยเท่าพันทวี
ถ้าท่านได้ยินเสียงการทรงเรียกในจิตใจของท่าน ที่จะตอบสนองต่อพระคุณอันเหลือจะพรรณนาของพระเจ้าท่านสามารถใคร่ครวญพิจารณาถึงการที่ท่านจะเข้าไปมีส่วนร่วมในพันธกิจของพระเจ้าในองค์กรต่างๆ
เช่น
- เด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ ที่หน่วยงานพันธกิจเอดส์
สภาคริสตจักรในประเทศไทยกำลังดูแลอยู่
มีทั้งเด็กเล็ก
เด็กที่กำลังเรียนในระดับประถมถึงมัธยม
และเด็กส่วนหนึ่งเติบโตเป็นหนุ่มสาวที่กำลังเรียนในอุดมศึกษา
ท่านสามารถตอบสนองพระคุณพระเจ้าด้วยการมอบทุนตามกำลังของท่านด้วยจิตใจที่กว้างขวางแก่เด็กที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้ ท่านสามารถติดต่อ
สอบถามรายละเอียดและช่องทางในการร่วมพันธกิจ
โดยติดต่อเจ้าหน้าที่พันธกิจเอดส์
หมายเลขโทรศัพท์ 053 306 310
- ผู้สูงอายุที่ได้รับกระทบจากเอดส์ ที่ต้องดูแลบุตรที่ได้รับเชื้อเอชไอวี
และกำลังเจ็บป่วย
อีกทั้งต้องดูแลหลานที่ได้รับผลกระทบจากเอดส์
รายการนี้สามารถติดต่อที่พันธกิจเอดส์เช่นกัน หมายเลขโทรศัพท์ 053
306 310
- ผู้รับใช้สูงอายุ
(ที่กำพร้าลูกหลาน)
ที่รับใช้พระเจ้าตลอดชีวิตของท่าน วันนี้มีชีวิตด้วยความเงียบเหงา
หน่วยงานพันธกิจเอดส์จึงได้ประสานงานให้เกิดการทำพันธกิจกับกลุ่มผู้รับใช้ที่สูงอายุกลุ่มนี้
ให้มีโอกาสมาพบปะพูดคุย และร่วมกันทำสิ่งดีมีคุณค่าในชีวิต พร้อมทั้งให้การสนับสนุนและช่วยเหลือตามกำลังที่มีอยู่ ปัจจุบัน ศาสนาจารย์ ดร.สะอาด ไชยวัณณ์
เป็นผู้ประสานงานในพันธกิจนี้ ท่านที่สนใจพันธกิจนี้สามารถติดต่อพันธกิจเอดส์ สภาคริสตจักรในประเทศไทย 053
306 310
- เด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อ
หรือ เสี่ยงต่อการค้ามนุษย์ ที่อยู่ในการอุปการะ
ดูแล และการสร้างเสริมโอกาสใหม่ในชีวิต
ของมูลนิธิศูนย์ชีวิตใหม่ ดำเนินการบนรากฐานความเชื่อศรัทธาของคริสตชน ท่านสามารถติดต่อรายละเอียดจากมูลนิธิศูนย์ชีวิตใหม่ สำนักงานบ้านพักเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053
351312 หรือ สำนักงานบ้านพักเชียงราย
053 750500
- เด็กชายหญิงชาติพันธุ์ม้งที่ต้องการโอกาสในการศึกษา ที่มาอยู่ที่ “บ้านม้งโฮป” ตั้งอยู่ที่
183 หมู่ที่ 5 ตำบลสันโป่ง
อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ 50180.
เป็นหอพักคริสเตียนที่ดำเนินการโดยผู้รับใช้พระเจ้าที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันกรุงเทพคริสต์ศาสนศาสตร์
BIT และ วิทยาลัยพระคริสต์ธรรมแมคกิลวารี สภาคริสตจักรในประเทศไทย ท่านสามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติม และการมีส่วนร่วมในพันธกิจนี้ได้ที่ อาจารย์ มนตรี ชาววิวัฒน์
หมายเลขโทรศัพท์ 080 1200 606
- สถานสงเคราะห์บ้านเด็กเชียงราย ซึ่งเป็นบ้านพักคริสเตียนสำหรับนักเรียนชายหญิงนานาเผ่า ตั้งอยู่เลขที่ 104/1 หมู่ที่ 4 ตำบลริมกก จังหวัดเชียงราย 57100 ดำเนินการโดย ดร.สุพจน์ พันธ์โอ้น ศิษย์เก่าสถาบันกรุงเทพคริสต์ศาสนศาสตร์ BIT ท่านสามารถติดต่อขอรายละเอียดในการร่วมพันธกิจได้ที่ คุณพิมพิกา พันธ์โอ้น หมายเลขโทรศัพท์ 081 033 0778
ท่านสามารถเข้าเฝ้าและนมัสการพระกุมารในยุคคริสต์ศตวรรษที่
21 ด้วยจิตใจที่ถ่อมลง เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดของท่านแก่ผู้เล็กน้อยเหล่านั้นด้วยจิตใจที่กว้างขวาง พวกเขาที่ไม่สามารถให้ตอบกลับแก่ท่านครับ
“...เราต้องช่วยพวกที่มีกำลังน้อย
และระลึกถึงพระวจนะของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า
ตามที่พระองค์ตรัสว่า
“การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ” (กิจการ 20:35)
“...
ซึ่งพวกท่านได้กระทำกับคนใดคนหนึ่งที่เล็กน้อยที่สุดในพี่น้องของเรานี้ ก็เหมือนทำกับเราด้วย”(มัทธิว 25:40)
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ปล. อย่าลืมที่จะ “ให้”อภัย ด้วยใจกว้างขวางด้วยครับ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น