“แต่ความรักนั้นใหญ่ที่สุด...” (1โครินธ์ 13:13)
ทำไมหลายคนในพวกเราที่ล้มเหลวและเพลี่ยงพล้ำในความรักเมตตา ทั้งๆ ที่บ่อยครั้งเราสามารถที่จะรักและเมตตาได้ เหตุผลประการหนึ่งคือ เราได้บ่มเพาะมุมมองทัศนคติ และ
การกระทำของเราที่ขัดขวางยับยั้งความสามารถของเราที่จะรักและเมตตา
เฉกเช่นเศษไขมันที่ก่อตัวจนใหญ่พอที่จะเกิดการอุดตันในเส้นเลือด ขวางการไหลเวียนของกระแสเลือด เช่นเดียวกัน
ในชีวิตของเราสามารถที่จะสะสมก่อตัว “ก้อนอุดตัน” ในชีวิตของเรา จนกลายเป็นตัวขัดขวางอุดตันกระแสความรักของพระเจ้าที่ไหลเวียนทำงานในชีวิตของเรา
อะไรคือตัวยับยั้งและอุดตันความรักเมตตาในชีวิตของเรา?
เราสามารถหาพบได้ในข้อเขียนของเปาโลว่าด้วยเรื่องความรักเมตตา (1 โครินธ์ บทที่ 13)
ในข้อเขียนดังกล่าวเราพบทั้งคุณภาพแห่งความรักเมตตา และ
ตัวยับยั้งกีดขวางกระแสแห่งความรักเมตตา
ความรักในพระวจนะ: ความรักนั้นอดทนนาน
อุปสรรคขัดขวางความรัก: ขาดความอดทน ใจร้อน หุนหันพลันแล่น
การขาดความอดทน ใจร้อน
หุนหันพลันแล่น เป็นลักษณะของคนที่เอาแต่ใจตนเอง
เรื่องในชีวิตของตนเป็นเรื่องที่สำคัญเหนือกว่าใครอื่นใด คนจำพวกนี้ให้ความสนใจเอาใจใส่คนอื่นเพียงน้อยนิดหรือไม่ให้ความสนใจเลย
คนที่ขาดความอดทนมักต้องการให้คนอื่นเอาใจตน
แล้วจะไม่สนใจคนอื่นเลยถ้าคนอื่นมิได้ตอบสนองความต้องการความรู้สึกของตน คำภาษากรีกของคำว่า “อดทน”
ที่เปาโลใช้ในที่นี้หมายถึงคนที่ถูกคนอื่นทำสิ่งที่ผิดหรือไม่ดี และคนๆ นั้นมีอำนาจในการแก้แค้นแต่เขากลับไม่ทำ สำหรับ “การขาดความอดทน”
คือคนที่แสวงหาทางที่จะแก้แค้น
ที่คนมีความอดทนจะไม่ทำเช่นนั้น
ลองให้คะแนนตนเอง
ให้วงกลมรอบหมายเลขที่ใกล้เคียงความจริงของท่านมากที่สุด (ถ้าคะแนนเต็ม 5)
ฉันมีความอดทน น้อยที่สุด
0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ฉันขาดความอดทน น้อยที่สุด
0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ความรักในพระวจนะ: มีใจปรานี
อุปสรรคขัดขวางความรัก: จิตใจที่ไร้ความปรานี
บางท่านบอกว่าการมีใจปรานีเป็นลักษณะของความอ่อนแอ ดังนั้น เขาจึงคิดว่า ไม่มีใครที่จะมีอำนาจเข้มแข็งด้วยการมีใจที่ปรานี คนที่มองตนเองว่ากำลังต้องแข่งขันกับคนอื่นรอบข้างเสมอมักเป็นคนที่ไร้ความปรานี(เพราะต้องเอาชนะคนอื่นให้ได้) ความรู้สึกว่าตนเองต่ำกว่าด้อยกว่าผู้อื่นที่ซ่อนเร้นในผู้ใดก็จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดจิตใจที่ไร้ความปรานี ตรงกันข้าม
คนที่มีความรักเมตตาย่อมพร้อมที่จะยอมรับและหนุนเสริมชีวิตของคนอื่นรอบข้าง
ลองให้คะแนนตนเอง
ให้วงกลมรอบหมายเลขที่ใกล้เคียงความจริงของท่านมากที่สุด (ถ้าคะแนนเต็ม 5)
ฉันมีใจปรานี น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ฉันมีใจไร้ความปรานี น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ความรักในพระวจนะ: ไว้วางใจผู้อื่น
อุปสรรคขัดขวางความรัก: ความอิจฉา
ผู้ที่มีความรักเมตตาย่อมห่วงหาอาทรเอาใจใส่ผู้อื่น เมื่อความรักเมตตาเติบโตขึ้น
คนที่รักและได้รับความรักก็เติบโตขึ้นเช่นกัน แต่บ่อยครั้งที่เราไม่ทันรู้เท่าทันว่า
ความรักเมตตาอาจจะแคระแกร็นได้ ถ้าคนๆ นั้นแทนที่จะมีความไว้วางใจและเอาใจใส่คนอื่นแต่กลับเป็นความอิจฉา ต้องการอยู่เหนือหรือมีความสำคัญกว่าคนอื่น ความอิจฉาเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเรามันเติบโตขึ้นเฉกเช่นมะเร็งที่โตวันโตคืนตลอดเวลาโดยร่างกายไม่สามารถควบคุมเลย ความอิจฉาต้องการที่จะเป็นเจ้าของอย่างสิ้นเชิง ต้องการมีสิทธิเฉพาะเหนือคนอื่น
อารมณ์ความรู้สึกเช่นนี้มีพลังอำนาจที่จะครอบงำและทำลายความสัมพันธ์ที่ดีๆ และความรู้สึกมั่นคงลงเสีย และยังจะทำลายคนที่มีเหตุมีผลอีกด้วย
ลองให้คะแนนตนเอง ให้วงกลมรอบหมายเลขที่ใกล้เคียงความจริงของท่านมากที่สุด
(ถ้าคะแนนเต็ม 5)
ฉันมีความไว้วางใจคนอื่น น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ฉันมีใจที่อิจฉา น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ความรักในพระวจนะ: ถ่อมสุภาพ
อุปสรรคขัดขวางความรัก: อวดตัว หยิ่งผยอง
อุปสรรคที่ขัดขวางความรักในประการนี้คือ
การอวดตัว หยาบคาย หยิ่งผยอง
คุยโม้โอ้อวด
ชื่นชมในความสำคัญของตนเอง เป็นคนที่อวดตัวคือคนที่ทำเป็นให้ความรักเพื่อที่จะรับ รับการยกย่อง
นับหน้าถือตาจากคนอื่น
แต่ทั้งนี้เป็นการกระทำที่ยกตนข่มท่าน
ยกตนเองขึ้นให้สำคัญเหนือคนอื่น
ลองให้คะแนนตนเอง ให้วงกลมรอบหมายเลขที่ใกล้เคียงความจริงของท่านมากที่สุด
(ถ้าคะแนนเต็ม 5)
ส่วนมากฉันถ่อมสุภาพ น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ส่วนมากฉันอวดตัว หยิ่ง น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ความรักในพระวจนะ: ใจกว้างขวาง เอื้อเฟื้อ
อารี
อุปสรรคขัดขวางความรัก: เห็นแก่ตัว
อุปสรรคประการสำคัญที่ขัดขวางความรักเมตตาที่เรายากที่จะเอาชนะได้คือ
ความเห็นแก่ตัว
การกระทำที่เกิดจากแรงกระตุ้นผลักดันจากความเห็นแก่ตัวแตกต่างอย่างสิ้นเชิงหรืออยู่คนละขั้วกับการกระทำที่ได้รับแรงกระตุ้นผลักดันจากความรักเมตตา พระเยซูคริสต์ทรงรู้ดีถึงพิษสงค์ของการเห็นแก่ตัว พระองค์กล่าวว่า “เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า
ถ้าเมล็ดข้าวไม่ได้ตกลงดินและตายไป
ก็จะคงอยู่เมล็ดเดียว
แต่ถ้าตายไปแล้วก็จะงอกขึ้นเกิดผลเป็นอันมาก” (ยอห์น 12:24)
ความเห็นแก่ตัวจะมุ่งแต่เสาะหาเพื่อตนเอง ไม่ยอมที่จะต้องสูญเสียตนเอง พูดง่ายๆ ถ้าเป็นเมล็ดข้าวก็ไม่ยอมที่จะให้ตนเองต้องตกลงในดิน
เปื่อยเน่า และตาย
แสวงหาทุกหนทางที่จะรักษาตนเองไว้
แต่ความรักเมตตาแสวงหาแนวทางเพื่อคนอื่น
เพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่น
เพื่อผู้อื่นจะได้มีชีวิตอยู่
ถ้าเป็นเมล็ดข้าวก็ยอมเน่า เปื่อย และตาย
เพื่อที่จะได้เกิดต้นข้าวต้นใหม่ๆ ที่จะเกิดผลเป็นอันมาก
ลองให้คะแนนตนเอง
ให้วงกลมรอบหมายเลขที่ใกล้เคียงความจริงของท่านมากที่สุด (ถ้าคะแนนเต็ม 5)
ส่วนมากฉันมีใจกว้างขวาง น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ส่วนมากฉันเห็นแก่ตัว น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ความรักในพระวจนะ: ไม่ฉุนเฉียวโกรธง่าย ช้าในการโกรธ
อุปสรรคขัดขวางความรัก: ฉุนเฉียว
โกรธง่าย ขี้โมโห
พระคริสต์เคยตรัสถึงคนที่ไวในการโกรธว่า “แต่เราบอกพวกท่านว่า ใครโกรธพี่น้องของตน คนนั้นจะต้องถูกพิพากษา
ถ้าใครพูดกับพี่น้องอย่างเหยียดหยามคนนั้นจะต้องถูกนำไปยังศาลสูงให้พิพากษา และถ้าใครพูดว่า “อ้ายโฉด”
คนนั้นจะมีโทษถึงไฟนรก” (มัทธิว 5:22) ยากอบเตือนคริสตชนไว้ว่า “พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า จงเข้าใจเรื่องนี้ คือให้ทุกคนไวในการฟัง ช้าในการพูด
ช้าในการโกรธ” (1:19)
ลองให้คะแนนตนเอง ให้วงกลมรอบหมายเลขที่ใกล้เคียงความจริงของท่านมากที่สุด
(ถ้าคะแนนเต็ม 5)
ส่วนมากฉันช้าในการโกรธ น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ส่วนมากฉันฉุนเฉียวโกรธง่าย น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ความรักในพระวจนะ: ยอมยกโทษ
อุปสรรคขัดขวางความรัก: ช่างจดจำความผิด แค้นเคือง
แค้นที่รอเวลาชำระ
ความแค้นเคือง
ไม่พอใจเป็นการสะสมของความขุ่นเคือง หงุดหงิดในอดีตที่ปะทุขึ้นในปัจจุบัน คำว่า “ช่างจดจำความผิด”
ที่เปาโลใช้ในที่นี้เป็นภาษาทางการบัญชีที่บันทึกตัวเลขไว้เพื่อไม่ให้ลืม และนี่คือพฤติกรรมที่หลายต่อหลายคนได้ทำเช่นนั้น และการจดจำความผิด ความแค้นที่คนอื่นทำกับตนแบบไม่ให้ลืมเช่นนี้เป็นอุปสรรคใหญ่ขวางทางความรักเมตตา “ฉันพร้อมที่จะยกโทษ แต่ฉันไม่สามารถที่จะลืมได้” เป็นการยกโทษที่จอมปลอม การไม่ยอมยกโทษเป็นการมองไปที่อดีตมิใช่การมุ่งมองไปยังอนาคต ความรักเมตตาเป็นพลังปลดปล่อยความจำที่ยึดเกาะที่ความทุกข์ในความผิดที่คนอื่นกระทำกับตนหรือความผิดที่สร้างความเจ็บปวดแก่ตน
ลองให้คะแนนตนเอง
ให้วงกลมรอบหมายเลขที่ใกล้เคียงความจริงของท่านมากที่สุด (ถ้าคะแนนเต็ม 5)
ส่วนมากฉันยอมยกโทษ น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ส่วนมากฉันจดจำความผิด น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ความรักในพระวจนะ: เกลียดชังความชั่วอธรรม ชื่นชมยินดีในสัจจะความจริง
อุปสรรคขัดขวางความรัก: ชื่นชมยินดีในความชั่วอธรรม
เมื่อเปาโลกล่าวว่า
ความรักนั้นไม่ชื่นชมยินดี(เกลียด)ในความอธรรม หมายความว่าอะไรกันแน่? ในการรักความชั่วหรือความอธรรมไม่จำเป็นว่าจะต้องกระทำความชั่วหรืออธรรมเสมอไป แต่หมายถึงการที่มีเจตนาร้าย
หรือพอใจที่ได้ยินได้ฟังการกล่าวร้ายป้ายสีผู้อื่น น่าแปลกใจว่า
คนที่พยายามทำตนให้เป็นผู้มีจริยธรรมสูงส่งมักเป็นคนที่ชื่นชอบในความชั่วอธรรมมากที่สุด ในการที่เขาพยายามที่จะมีชีวิตที่ละเว้นจากกระแสโลก พวกเขากล่าวร้ายคนอื่นที่ไม่ทำอย่างเขา
พวกเขาสะใจที่เห็นคนอื่นผิดพลาดสะดุดล้มเพราะยอมประนีประนอมกับวิถีทางโลก
แล้วคนหน้าซื่อใจคดพวกนี้ตั้งหน้าตั้งตาที่จะตัดสินพิพากษาคนเหล่านั้นเมื่อได้โอกาส ข่าวดีหรือพระกิตติคุณของคนพวกนี้เริ่มต้นด้วยการตัดสินกล่าวร้าย มุ่งเน้นที่การพิพากษา แล้วจบสิ้นด้วยการแตกแยก
ดูเหมือนว่าข่าวดีหรือพระกิตติคุณของพวกนี้มองหาไม่พบความรักเมตตา
ลองให้คะแนนตนเอง
ให้วงกลมรอบหมายเลขที่ใกล้เคียงความจริงของท่านมากที่สุด (ถ้าคะแนนเต็ม 5)
ส่วนมากฉันชื่นชมยินดีในความจริง น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ส่วนมากฉันชื่นชมในความชั่วอธรรม น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ความรักในพระวจนะ: ความรักไม่มีวันเสื่อมสูญ มีความทรหดมั่นคง
อุปสรรคขัดขวางความรัก: มีความทรหดอดทนที่จำกัด
ความรักที่จอมปลอมมีความทรหดอดทนที่จำกัด เมื่อเกิดความทุกข์ลำบากทุกอย่างก็แตกหัก เป็นเหมือนเขื่อนที่มีการแตกร้าว เริ่มสูญเสียความแข็งแรง เริ่มมีน้ำไหลซึมออกจากรอยร้าวนั้น
จนขยายรอยกว้างและกลายเป็นรอยแยกที่น้ำทะลักไหลล้นออกมา ความรักที่แท้จริงนั้นไม่มีการเสื่อมสลาย
แต่เป็นเหมือนเขื่อนที่แข็งแรงมั่นคงที่สามารถรองรับแรงดันของน้ำมหาศาล ความรักจะไม่สบประมาท เหยียดหยามดูหมิ่นคนอื่น ความรักจะไม่ประทุษร้าย ทำร้ายให้ใครบาดเจ็บ ความรักเมตตาจะไม่มีวันสิ้นหวัง แต่ความรักจะยืนมั่นเข้มแข็ง
ลองให้คะแนนตนเอง ให้วงกลมรอบหมายเลขที่ใกล้เคียงความจริงของท่านมากที่สุด
(ถ้าคะแนนเต็ม 5)
ส่วนมากฉันมีความทรหดมั่นคง น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
ส่วนมากฉันมีความอดทนที่จำกัด น้อยที่สุด 0 1 2 3 4 5 มากที่สุด
เมื่อเราได้แยกแยะค้นพบอุปสรรคที่ขัดขวางความรักในตัวเรา
โดยเฉพาะผู้นำคริสตชนแล้ว
หนทางที่จะแก้ไขเติมเต็มสภาพชีวิตที่ขาดความรักเมตตา หรือ
มีอุปสรรคที่ขัดขวางยับยั้งความรักเมตตาในชีวิตของเรา มีเพียงทางเดียวคือ ให้เราเติมเต็มชีวิตของเราด้วยความรักเมตตา
เพื่อเราจะเป็นคนที่ชุมช่ำด้วยความรักเมตตาและเป็นผู้นำที่เปี่ยมด้วยความรักเมตตาที่พระเจ้าทรงประสงค์ “จงดำเนินในวิถีแห่งความรัก...”
(1โครินธ์ 14:1 อมตธรรม)
การที่จะให้ตัวขัดขวางความรักเมตตาในชีวิตของเรามลายหายสูญไปจากชีวิตของเราได้นั้นมีเพียงหนทางเดียวคือ
ให้เราเติมเพิ่มความรักเมตตาของพระคริสต์ลงในชีวิตของเรา เฉกการเติมน้ำลงในแก้วน้ำ ที่ทำให้ที่ว่างในแก้วน้ำลดน้อยลงไป แต่มีน้ำที่เพิ่มมากขึ้นจนเต็มแก้ว
และล้นออกนอกแก้วในที่สุด
การขจัดอุปสรรคที่ขัดขวางความรักเมตตาในชีวิตของเรา มิใช่ขัดขวาง ทำลายอุปสรรค
แต่เติมเต็มชีวิตของเราด้วยความรักเมตตาของพระคริสต์ต่างหาก ที่ตัวขจัดสิ่งเหล่านั้นจะออกไปจากชีวิตของเรา
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น