13 พฤศจิกายน 2556

ยืนหยัดเผชิญอุบายมาร

เอเฟซัส 6:10-14

“...จงเข้มแข็งขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า และ ในอานุภาพอันทรงพลังของพระองค์
จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า เพื่อต่อสู้กับอุบายของมารได้
เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด  

แต่ต่อสู้กับ...
ภูตผีที่ครอบครอง 
พวกภูตผีที่มีอำนาจ  
พวกภูตผีที่ครองพิภพในยุคมืดนี้  
(เรากำลัง)ต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วในสวรรคสถาน

เพราะเหตุนี้   จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้   เพื่อท่านจะสามารถต่อสู้ในวันชั่วร้ายนั้น   และเมื่อทำทุกอย่างแล้วจะยังยืนหยัดอยู่ได้

เพราะฉะนั้น จงยืนหยัดไว้  เอาความจริงคาดเอว  เอาความชอบธรรมเป็นเกราะป้องกันอก...”

ในชีวิตแต่ละวันผู้ที่เชื่อศรัทธาในองค์พระผู้เป็นเจ้าต่างต้องเผชิญหน้ากับการทดลองในชีวิต  ลองใช้เวลาสักนิดทบทวนย้อนหลังถึงเหตุการณ์ที่เราถูกดึงตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกับการมีความคิดและชีวิตที่ไม่เป็นที่ชอบพระทัยของพระเจ้า   ในสถานการณ์นั้นในเหตุการณ์นั้นเราตระหนักหรือไม่ว่า “เรากำลังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามชีวิตกับอำนาจชั่วร้ายของมาร” ?  เราตระหนักหรือไม่ว่า มารกำลังวางอุบายกับดักข้างหน้าของเรา?

พลังอำนาจชั่วร้ายของมารเป็นสิ่งที่มีจริงและเป็นจริง   แท้จริงแล้วมันเป็นพลังอำนาจที่ต้องการต่อสู้เอาชนะพลังอำนาจแห่งการสร้างสรรค์ของพระเจ้า   และอำนาจแห่งความชั่วร้ายนี้เองที่ต้องการเสมอที่จะเอาชนะพลังอำนาจของพระเจ้า

หลายท่านคงเกิดคำถามในใจว่า... 

แล้วสนามสงครามการสู้กันระหว่างอำนาจแห่งความชั่วร้ายของมาร กับ พลังอำนาจแห่งการสร้างสรรค์ของพระเจ้าเกิดขึ้นที่ไหน?  

สนามประลองยุทธ์ของสงครามยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นในความคิด และ จิตใจของมนุษย์!  
มนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้าง  มนุษย์ผู้ร่วมพระราชกิจกับพระเจ้าผู้สร้างสรรค์  
แต่พลังอำนาจชั่วร้ายของมารทำงานแย่งชิงมนุษย์ให้มีความคิดกบฏอย่างที่มันเป็นอยู่   และ
เมื่อมนุษย์ตกลงในหลุมพรางนี้แล้ว...  
จะมีความคิดที่ต้องการเป็นผู้มีอำนาจในตนเอง  
เป็นผู้ที่เทียบเท่าพระเจ้า  
มนุษย์ต้องการกบฏต่อการเป็นผู้ร่วมในพระราชกิจของพระเจ้า 
ต้องการเป็นเจ้าของพระราชกิจของพระเจ้าและจัดการตามใจปรารถนาของตนเอง  

ดังนั้น  ในพื้นที่ของความคิดและจิตใจมนุษย์จึงตกเป็นสนามสงครามแย่งชิงและประลองยุทธ์ของพลังอำนาจทั้งสอง

ท่านเคยตกลงใน “หลุมพราง” เช่นนี้ของมารหรือไม่?   ในเหตุการณ์อะไร?   เกิดผลเช่นไรในชีวิต?
แล้วผลที่เกิดขึ้นได้กระทบต่อชีวิตของท่านอย่างไรบ้าง?

สำหรับเปาโลแล้วท่านได้แบ่งปันประสบการณ์ชีวิตการเผชิญอุบายของมารไว้ว่า...
เราต้องมีชีวิตที่เข้มแข็ง   มิใช่เข้มแข็ง “ในตนเอง” แต่เข้มแข็ง “ในองค์พระผู้เป็นเจ้า”  

ประการแรก   เราต้องมีชีวิตภายใต้การครอบครอง การปกป้อง และพระประสงค์ของพระองค์   และสิ่งนี้จะเป็นอานุภาพที่ทรงพลังจากพระเจ้าที่ทำให้เรามีพลังชีวิตที่จะเผชิญหน้าและต่อสู้กับอุบายที่ล่อลวงของมารร้ายได้

ประการที่สอง   เราต้องตระหนักชัดว่า   อำนาจร้ายที่เรากำลังเผชิญต่อสู้นี้   มิใช่การต่อสู้ในด้านร่างกายเท่านั้น   แต่เรากำลังเผชิญหน้ากำลังพลังอำนาจชั่วที่  “ไร้รูป” ที่เราจะไม่เห็นด้วยตา  หรือ  จับต้องได้ด้วยมือ   เปาโลบอกกับเราว่า   เป็นอำนาจชั่วร้ายที่ครอบคลุม  ครอบงำ  ความคิด  ความรู้  ความเข้าใจ  จิตใจ  และจิตวิญญาณของเรา   ซึ่งในอดีตในสังคมไทยเราใช้ภาพของ “วิญญาณชั่ว  ภูตผี  ปีศาจ”  ในการอธิบายอำนาจชั่วร้ายของมาร   ปัจจุบันก็มีผู้ใช้คำว่า  “วิชามาร”  อำนาจชั่วเหล่านี้มาเผชิญหน้าหลอกล่อเราในรูปแบบของ  ความรู้  ปัญญา  หลอกล่อด้วยผลประโยชน์ที่บอกว่าเราจะได้รับ   วางกับดักแห่งอำนาจที่หลอกล่อเราด้วยอำนาจที่เราจะมีในอนาคต   และมารเสนอคุณค่าที่จอมปลอมในชีวิตของเรา   นอกจากนั้นแล้วอำนาจชั่วร้ายยังแฝงเข้ามาในรูปของผลประโยชน์ทางการเมือง   บริโภคนิยม  เงินนิยม  และตัวกูนิยมอีกด้วย

ประการที่สาม   เมื่อเราจำต้องเผชิญหน้ากับอำนาจชั่วร้ายของมารที่ประดังเข้าในชีวิตประจำวันของเราในหลากหลายรูปแบบ   เราจะต้องสวมพระวจนะของพระเจ้าเป็นเครื่องป้องกันจากอาวุธร้ายของมาร   เพื่อเราจะรอดปลอดภัยจากการหลอกล่อและการโจมตีของมาร   เราต้องสัตย์ซื่อต่อพระประสงค์ของพระเจ้าเพื่อการดำเนินชีวิตประจำวันของเราจะมิได้หลงทิศผิดทาง   และสำนึกเสมอว่า  ทุกสิ่งที่เรากระทำในชีวิตประจำวัน  ไม่ว่าชีวิตในครอบครัว  อาชีพการงาน  หรือในสังคมชุมชน   รวมถึงในชุมชนคริสตจักร  เรากระทำทุกอย่างในชีวิตเพื่อถวายพระเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า   มีพระองค์เป็นผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดในชีวิตที่เราเป็นอยู่   มิใช่ใครคนอื่น หรือ ตัวเราเอง

สิ่งที่อันตรายมากคือ   ในชีวิตประจำวันคริสตชนส่วนมากไม่ค่อยรู้เท่าทันและสำนึกว่า   ชีวิตต้องเผชิญกับอุบายหลอกล่อของมาร   แต่กลับมองกับดักของมารว่า  เป็นโอกาสที่ตนจะมีความสุข  ก้าวหน้า  เป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับตน  และมักรีบฉกฉวยเข้ามาในชีวิตของตน   โดยมิได้รู้เท่าทันว่า  ตนได้ฮุบและกลืนเอา “เหยื่อที่หุ้มเบ็ด” เข้าไปในชีวิตของตนเสียแล้ว!  

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น