เอเฟซัส 6:10-14
“...จงเข้มแข็งขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า
และ ในอานุภาพอันทรงพลังของพระองค์
จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า
เพื่อต่อสู้กับอุบายของมารได้
เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด
แต่ต่อสู้กับ...
ภูตผีที่ครอบครอง
พวกภูตผีที่มีอำนาจ
พวกภูตผีที่ครองพิภพในยุคมืดนี้
(เรากำลัง)ต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วในสวรรคสถาน
เพราะเหตุนี้ จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้
เพื่อท่านจะสามารถต่อสู้ในวันชั่วร้ายนั้น และเมื่อทำทุกอย่างแล้วจะยังยืนหยัดอยู่ได้
เพราะฉะนั้น จงยืนหยัดไว้ เอาความจริงคาดเอว เอาความชอบธรรมเป็นเกราะป้องกันอก...”
ในชีวิตแต่ละวันผู้ที่เชื่อศรัทธาในองค์พระผู้เป็นเจ้าต่างต้องเผชิญหน้ากับการทดลองในชีวิต
ลองใช้เวลาสักนิดทบทวนย้อนหลังถึงเหตุการณ์ที่เราถูกดึงตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกับการมีความคิดและชีวิตที่ไม่เป็นที่ชอบพระทัยของพระเจ้า
ในสถานการณ์นั้นในเหตุการณ์นั้นเราตระหนักหรือไม่ว่า
“เรากำลังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามชีวิตกับอำนาจชั่วร้ายของมาร” ? เราตระหนักหรือไม่ว่า
มารกำลังวางอุบายกับดักข้างหน้าของเรา?
พลังอำนาจชั่วร้ายของมารเป็นสิ่งที่มีจริงและเป็นจริง
แท้จริงแล้วมันเป็นพลังอำนาจที่ต้องการต่อสู้เอาชนะพลังอำนาจแห่งการสร้างสรรค์ของพระเจ้า และอำนาจแห่งความชั่วร้ายนี้เองที่ต้องการเสมอที่จะเอาชนะพลังอำนาจของพระเจ้า
หลายท่านคงเกิดคำถามในใจว่า...
แล้วสนามสงครามการสู้กันระหว่างอำนาจแห่งความชั่วร้ายของมาร
กับ พลังอำนาจแห่งการสร้างสรรค์ของพระเจ้าเกิดขึ้นที่ไหน?
สนามประลองยุทธ์ของสงครามยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นในความคิด
และ จิตใจของมนุษย์!
มนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้าง มนุษย์ผู้ร่วมพระราชกิจกับพระเจ้าผู้สร้างสรรค์
แต่พลังอำนาจชั่วร้ายของมารทำงานแย่งชิงมนุษย์ให้มีความคิดกบฏอย่างที่มันเป็นอยู่ และ
เมื่อมนุษย์ตกลงในหลุมพรางนี้แล้ว...
จะมีความคิดที่ต้องการเป็นผู้มีอำนาจในตนเอง
เป็นผู้ที่เทียบเท่าพระเจ้า
มนุษย์ต้องการกบฏต่อการเป็นผู้ร่วมในพระราชกิจของพระเจ้า
ต้องการเป็นเจ้าของพระราชกิจของพระเจ้าและจัดการตามใจปรารถนาของตนเอง
ดังนั้น
ในพื้นที่ของความคิดและจิตใจมนุษย์จึงตกเป็นสนามสงครามแย่งชิงและประลองยุทธ์ของพลังอำนาจทั้งสอง
ท่านเคยตกลงใน
“หลุมพราง” เช่นนี้ของมารหรือไม่?
ในเหตุการณ์อะไร?
เกิดผลเช่นไรในชีวิต?
แล้วผลที่เกิดขึ้นได้กระทบต่อชีวิตของท่านอย่างไรบ้าง?
สำหรับเปาโลแล้วท่านได้แบ่งปันประสบการณ์ชีวิตการเผชิญอุบายของมารไว้ว่า...
เราต้องมีชีวิตที่เข้มแข็ง มิใช่เข้มแข็ง “ในตนเอง” แต่เข้มแข็ง
“ในองค์พระผู้เป็นเจ้า”
ประการแรก
เราต้องมีชีวิตภายใต้การครอบครอง การปกป้อง และพระประสงค์ของพระองค์
และสิ่งนี้จะเป็นอานุภาพที่ทรงพลังจากพระเจ้าที่ทำให้เรามีพลังชีวิตที่จะเผชิญหน้าและต่อสู้กับอุบายที่ล่อลวงของมารร้ายได้
ประการที่สอง
เราต้องตระหนักชัดว่า
อำนาจร้ายที่เรากำลังเผชิญต่อสู้นี้
มิใช่การต่อสู้ในด้านร่างกายเท่านั้น
แต่เรากำลังเผชิญหน้ากำลังพลังอำนาจชั่วที่ “ไร้รูป” ที่เราจะไม่เห็นด้วยตา หรือ
จับต้องได้ด้วยมือ
เปาโลบอกกับเราว่า
เป็นอำนาจชั่วร้ายที่ครอบคลุม
ครอบงำ ความคิด ความรู้
ความเข้าใจ จิตใจ และจิตวิญญาณของเรา ซึ่งในอดีตในสังคมไทยเราใช้ภาพของ
“วิญญาณชั่ว ภูตผี ปีศาจ”
ในการอธิบายอำนาจชั่วร้ายของมาร
ปัจจุบันก็มีผู้ใช้คำว่า
“วิชามาร”
อำนาจชั่วเหล่านี้มาเผชิญหน้าหลอกล่อเราในรูปแบบของ ความรู้
ปัญญา
หลอกล่อด้วยผลประโยชน์ที่บอกว่าเราจะได้รับ วางกับดักแห่งอำนาจที่หลอกล่อเราด้วยอำนาจที่เราจะมีในอนาคต และมารเสนอคุณค่าที่จอมปลอมในชีวิตของเรา
นอกจากนั้นแล้วอำนาจชั่วร้ายยังแฝงเข้ามาในรูปของผลประโยชน์ทางการเมือง บริโภคนิยม
เงินนิยม และตัวกูนิยมอีกด้วย
ประการที่สาม เมื่อเราจำต้องเผชิญหน้ากับอำนาจชั่วร้ายของมารที่ประดังเข้าในชีวิตประจำวันของเราในหลากหลายรูปแบบ
เราจะต้องสวมพระวจนะของพระเจ้าเป็นเครื่องป้องกันจากอาวุธร้ายของมาร เพื่อเราจะรอดปลอดภัยจากการหลอกล่อและการโจมตีของมาร เราต้องสัตย์ซื่อต่อพระประสงค์ของพระเจ้าเพื่อการดำเนินชีวิตประจำวันของเราจะมิได้หลงทิศผิดทาง และสำนึกเสมอว่า ทุกสิ่งที่เรากระทำในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าชีวิตในครอบครัว อาชีพการงาน
หรือในสังคมชุมชน
รวมถึงในชุมชนคริสตจักร
เรากระทำทุกอย่างในชีวิตเพื่อถวายพระเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า มีพระองค์เป็นผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดในชีวิตที่เราเป็นอยู่ มิใช่ใครคนอื่น หรือ ตัวเราเอง
สิ่งที่อันตรายมากคือ ในชีวิตประจำวันคริสตชนส่วนมากไม่ค่อยรู้เท่าทันและสำนึกว่า ชีวิตต้องเผชิญกับอุบายหลอกล่อของมาร แต่กลับมองกับดักของมารว่า เป็นโอกาสที่ตนจะมีความสุข ก้าวหน้า
เป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับตน
และมักรีบฉกฉวยเข้ามาในชีวิตของตน
โดยมิได้รู้เท่าทันว่า ตนได้ฮุบและกลืนเอา
“เหยื่อที่หุ้มเบ็ด” เข้าไปในชีวิตของตนเสียแล้ว!
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น