28 พฤศจิกายน 2556

เติบโตเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์ :(2)

ไม่ใช่เรื่องตัวคุณเองเท่านั้น!

อ่าน เอเฟซัส 4:11-16

11...พระ​องค์​เอง​ประ​ทาน​ให้​บาง​คน​เป็น​อัคร​ทูต
บาง​คน​เป็น​ผู้​เผย​พระ​วจนะ
บาง​คน​เป็น​ผู้​ประกาศ​ข่าว​ประเสริฐ
บาง​คน​เป็น​ศิษยาภิบาล​และ​อา​จารย์   

12 เพื่อ​เตรียม​ธรรมิก​ชน(ประชากรของพระเจ้า) ​สำ​หรับ​การ​ปรนนิบัติ(พันธกิจการรับใช้)​ และ​ การ​เสริม​สร้าง​พระ​กาย​ของ​พระ​คริสต์
13 จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ  และ
ในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า
จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์

14 เพื่อ​เรา​จะ​ไม่​เป็น​เด็ก​อีก​ต่อ​ไป
ถูก​ซัด​ไป​ซัด​มา​และ​พัด​ไป​พัด​มา​ด้วย​ลม​คำ​สั่ง​สอน​ทุก​อย่าง
ด้วย​เล่ห์​กล​ของ​มนุษย์ ตาม​อุบาย​ที่​ฉลาด​ใน​การ​ล่อ​ลวง   
 15 แต่​ให้​เรา​ยึด​ถือ​ความ​จริง​ด้วย​ความ​รัก
เพื่อ​จะ​เจริญ​ขึ้น​ใน​ทุก​ด้าน​สู่​พระ​องค์​ผู้​เป็น​ศีรษะ​คือ​พระ​คริสต์   

16 เนื่อง​จาก​พระ​องค์​นี้​เอง
ร่าง​กาย​ทั้ง​หมด​จึง​ได้​รับ​การ​เชื่อม​และ​ประ​สาน​เข้า​ด้วย​กัน​โดย​ทุกๆ ข้อ​ต่อ​ที่​ประ​ทาน​มา​นั้น
และ​เมื่อ​แต่​ละ​ส่วน​ทำ​งาน​ตาม​หน้าที่​แล้ว ก็​ทำ​ให้​ร่าง​กาย​เจริญ​และ​เสริม​สร้าง​ตน​เอง​ขึ้น
(เอเฟซัส 4:11-16 มตฐ.)  

เมื่อเราพูดถึงการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์  ส่วนมากเราคิดถึงการเติบโตในชีวิตคริสตียนส่วนตัวของเราที่ควรเติบโตขึ้น   แน่นอนครับ   เป็นสิ่งที่ดีแน่ที่คริสตชนแต่ละคนมีความปรารถนาให้ชีวิตคริสเตียนของตนเองเติบโตขึ้นในพระคริสต์   แต่ถ้าเราอ่านจากพระธรรมเอเฟซัส 4:11-16 อย่างละเอียดรอบคอบเราจะพบสัจจะความจริงว่า   นี่มิใช่การเติบโตขึ้นในพระคริสต์ของเราคนเดียวเท่านั้น   แต่เป็นการเติบโตขึ้นไปด้วยกันของสมาชิกคนอื่นๆ ในชุมชนคริสตจักรด้วย   เป็นการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในพระคริสต์ในตัวของเราเองและในชุมชนพระกายของพระคริสต์(คือคริสตจักร)ด้วย

ให้เราสำรวจพระธรรมตอนนี้ไปด้วยกัน   ในข้อที่ 11 และ 12 พระคริสต์ทรงประทานศิษยาภิบาล และ ผู้นำคริสตจักรให้เสริมสร้างประชากรของพระเจ้าในคริสตจักรเป็นผู้รับใช้ของพระคริสต์  ทั้งนี้

“(เพื่อ)เสริมสร้างพระกายของพระคริสต์” (เป็นการเติบโตร่วมกัน)

“จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ  และ  ในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า”  ข้อ 13 (เป็นการเติบโตร่วมกัน)

“จนกว่าเรา(ชุมชนคริสตจักร)จะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์”  ข้อ 13 (เป็นการเติบโตร่วมกัน)

“เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป...” ข้อ 14 (การเติบโตร่วมกัน และ การเติบโตส่วนตัว)

“เพื่อจะเจริญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์...” ข้อ 15 (เป็นการเติบโตร่วมกัน)

“(เพราะพระคริสต์) นี้เอง   ร่างกายทั้งหมดจึงได้รับการเชื่อมและประสานเข้าด้วยกัน  (โดยเส้นเอ็นทุกเส้น)  และเมื่อแต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่แล้ว ก็ทำให้ร่างกายเจริญและเสริมสร้างตนเองขึ้น(ในความรัก)”  ข้อ 16 ในวงเล็บจากอมตธรรม  (เป็นการเติบโตส่วนตัว และ เติบโตร่วมกันด้วย)

บทเรียนรู้ที่ได้จากพระธรรมตอนนี้คือ   การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์   เป็นงานเสริมสร้าง และ ฝึกฝนสมาชิกแต่ละคนในคริสตจักรจากศิษยาภิบาลและผู้นำคริสตจักร   ซึ่งเป็นการเสริมสร้างให้เติบโตทั้งในฐานะคริสตชนแต่ละคน   แล้วการเติบโตแต่ละคนนั้นสร้างผลกระทบต่อการเติบโตของส่วนรวมคือชุมชนคริสตจักรทั้งชุมชนด้วย   และเวลาเดียวกันการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์ของชุมชนคริสตจักรก็เป็นเครื่องมือของพระเจ้าในการเสริมสร้างสมาชิกแต่ละคนในคริสตจักรให้เติบโตขึ้น   และนี่คือความหมายของการ “สามัคคีธรรม”  และ การรับใช้เสริมสร้างซึ่งกันและกันในคริสตจักรในพระนามของพระคริสต์ด้วย

ดังนั้น   การที่เราแต่ละคนต้องการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในพระเยซูคริสต์มิใช่เพื่อตัวเราเองเท่านั้น   แต่เพื่อพระกายของพระคริสต์คือชุมนุมชนคริสตจักรของพระองค์ด้วย   การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์จึงมิใช่เรื่องของเราเท่านั้น   แต่เป็นเรื่องความรับผิดชอบและการเติบโตขึ้นของชุมชนสามัคคีธรรมและการรับใช้ในคริสตจักรด้วย

แท้จริงแล้วการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของเราแต่ละคนนั้นได้รับการฟูมฟัก เลี้ยงดู เอาใจใส่เพราะการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของคริสตจักรด้วยเช่นกัน

กล่าวได้ว่า  สมาชิกแข็งแรง  คริสตจักรเข้มแข็ง   คริสตจักรแข็งแรง   เสริมสร้างสมาชิกเข้มแข็ง

ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญ

1. เมื่อท่านคิดถึงเรื่องการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์  เกิดความคิดอะไรบ้างในสมองของท่าน? 
2. แนวโน้มของท่านมักคิดถึงการเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์ส่วนตัวของท่านมากกว่าหรือไม่?   หรือท่านมุ่งเน้นสนใจไปยังการเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ของชุมชนคริสตจักร?
3. ท่านเห็นว่า การเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์ของส่วนรวมชุมชนคริสตจักร กับ ส่วนตัวของท่านนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ อย่างไร?   ทำไมท่านถึงคิดเช่นนั้น

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น