อ่านยอห์น
6:1-14
“ที่นี่มีเด็กชายคนหนึ่งมีขนมปังบาร์เลย์ห้าก้อนกับปลาสองตัว
แต่เท่านั้นจะพออะไรกับคนมากอย่างนี้?” (6:9)
เรื่องการทำอัศจรรย์ของพระเยซูคริสต์ในการเลี้ยงฝูงชนด้วยขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวเป็นเรื่องที่ผู้บันทึกพระกิตติคุณทั้งสี่ท่านได้กล่าวถึง
และทั้งสี่ได้บันทึกเรื่องนี้โดยกล่าวถึงสาวกของพระเยซูคริสต์ห่วงใยที่ประชาชนไม่มีอาหารรับประทาน ซึ่งเวลานั้นเป็นช่วงตอนเย็นของวันแล้ว
และประชาชนอยู่ในบริเวณทะเลทรายในถิ่นทุรกันดาร และพบอีกว่าเฉพาะผู้ชายเท่านั้นมีจำนวนประมาณ 5,000 คน
ถ้านับทั้งสตรีและเด็กจำนวนก็เพิ่มขึ้นอีกมาก ในพระธรรมยอห์นฟิลิปยังกล่าวอีกว่า “สองร้อยเหรียญเดนาริอัน
ก็ไม่พอซื้ออาหารให้เขากินกันคนละเล็กละน้อย” (ข้อที่ 7) แต่ในสำนวนของอมตธรรมแปลว่า
“เงินค่าแรงแปดเดือนยังซื้อขนมปังไม่พอให้คนเหล่านี้กินคนละคำ” (ถ้าคิดตามอัตราเงินค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาทอย่างปัจจุบันนี้ก็เป็นเงิน 72,000 บาท)
เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์นี้ สาวกมีมุมมองติดอยู่กับ “ความไม่เพียงพอ” ยอห์น
6:9 บันทึกไว้ว่า “ที่นี่มีเด็กชายคนหนึ่งมีขนมปังบาร์เลย์ห้าก้อนกับปลาสองตัว
แต่เท่านั้นจะพออะไรกับคนมากอย่างนี้?”
แต่เมื่อสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้อยู่ในพระหัตถ์ของพระคริสต์
อาหารที่มีเพียงเล็กน้อยกลับสามารถเลี้ยงคนจำนวนมากมาย
เมื่อให้ฝูงชนนั่งลงแล้ว พระเยซูก็ทรงหยิบขนมปัง
เมื่อขอบพระคุณแล้วก็ทรงแจกจ่ายให้บรรดาคนที่นั่งอยู่นั้น
และให้ปลาด้วยตามที่เขาต้องการ (ข้อที่ 11) เมื่ออ่านถึงการกระทำครั้งนี้ของพระเยซูคริสต์แล้วทำให้ระลึกเหตุการณ์อาหารมื้อสุดท้ายที่ห้องชั้นบน ที่บันทึกไว้ว่า “...พระเยซูทรงหยิบขนมปังมา
เมื่อขอพระพรแล้ว ทรงหักส่งให้แก่เหล่าสาวก” (มาระโก 14:22)
สิ่งเล็กน้อยเมื่ออยู่ในมือของพระคริสต์
และได้ผ่านการอวยพระพรจากพระบิดา
สิ่งเล็กน้อยกลายเป็นสิ่งมีค่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระองค์ และเมื่อขนมปังเพียงเล็กน้อยนั้นถูกหักออกโดยพระหัตถ์ของพระคริสต์ และแบ่งปันแก่ฝูงชน เมื่อนั้นสิ่งเล็กน้อยที่เกือบไม่มีค่าอะไรเลยกลับกลายเป็นอาหารดำรงชีวิตของปวงชน กลับกลายเป็นชีวิตเพื่อชีวิต ในพิธีมหาสนิท เราจึงเรียกพิธีนี้ว่าพิธีศักดิ์สิทธิ์ ที่ศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นการที่ให้ชีวิต
บ่อยครั้งในชีวิต เรามักมุ่งมองสิ่งต่างๆ ที่เรามีว่า
“เป็นสิ่งที่เล็กน้อย” “ไม่เพียงพอ” มองแต่ปริมาณ
ดังนั้นจึงทำอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคริสตจักรจะทำอะไร
มักถามว่าเรามีงบประมาณเท่าใดเป็นคำถามแรก
แล้วก็มักตามด้วยประโยคที่ว่า
งบแค่นั้นน้อยเกินไป
จะทำอะไรได้?
แต่ทุกสิ่งเล็กน้อยจะกลายเป็นสิ่งมีค่าและศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเรานำสิ่งเล็กน้อยนั้นมอบถวายแด่พระองค์ และเมื่อพระองค์ “ทรงหยิบ แล้วขอพระพร ทรงหักออก แล้วแจกจ่ายแบ่งปัน” เมื่อนั้นสิ่งเล็กน้อยกลับกลายเป็นพระพรจากพระเจ้าสำหรับชีวิตของผู้คนมากมาย
เมื่อมอบถวายชีวิตของเราแด่พระเจ้า และเมื่อพระองค์ “ทรงหยิบ ขอพระพร
และหักออกแบ่งให้” เราจึงเป็น “เครื่องบูชาศักดิ์สิทธิ์ที่มีชีวิต” (โรม 12:1)
แท้จริงเมื่อเราล้อมรอบโต๊ะมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์ เราก็อธิษฐานถวายชีวิตของเราเช่นนี้ด้วย
ในชีวิตที่ผ่านมาของเรามีเหตุการณ์หรือใครบ้างไหมที่ได้ถวายชีวิตของเขาแด่พระเจ้า เพื่อเป็นเครื่องบูชาที่เป็นเครื่องบูชาที่ศักดิ์สิทธิ์
ที่พระคริสต์ทรงหยิบขึ้น ขอพระพร
และหักออก แล้วแบ่งให้แก่เราและคนอื่นๆ ให้เรามีเวลาทบทวนถึงพระพรของพระเจ้าและพระคุณของพระองค์ที่ทรงเลี้ยงชีวิตของเรา
อย่างที่ทรงเลี้ยงคนห้าพันคนในสมัยของพระองค์
ในเวลาเดียวกันให้เราถามตนเองย้อนกลับว่า เราเคยเป็นเครื่องมือของพระเจ้า เป็น “ขนมปัง” ที่พระคริสต์ทรงหยิบขึ้น เป็น “ขนมปัง” ที่พระคริสต์ขอพระพร และเป็น “ขนมปัง” ที่พระคริสต์ทรงหักออก แล้วแบ่งปันเพื่อชีวิตของคนอื่นบ้างไหม?
วันนี้ท่านพร้อมที่จะมอบกายถวายชีวิตของท่านไว้ในพระหัตถ์ของพระคริสต์ ด้วยการทรงอวยพระพรของพระบิดา
และทรงหักและแบ่งให้กับผู้คนรอบข้างในวันนี้ และด้วยพลังหนุนเสริมของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อเป็นชีวิตที่พระคริสต์ทรงใช้ในการ
“แบ่งปัน” ชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น