16 กันยายน 2563

คำตรัสที่รบกวนจิตใจ?

บางครั้งคำตรัสของพระเยซูให้การประโลมใจเป็นพิเศษ และ ให้แรงบันดาลแก่เราเป็นอย่างมาก เช่น พระองค์เชิญชวนคนทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย หมดแรง และ ต้องแบกภาระหนักให้มาหาพระองค์ เพื่อพระองค์จะประทานการผ่อนพักในชีวิตของเขา (มัทธิว 11:28) คำตรัสของพระเยซูสร้างความมั่นใจแก่เราถึงความรักเมตตาของพระเจ้าสำหรับคนที่หลงทางชีวิต เฉกเช่นท่านและผม (ลูกา 15:3-7)

แต่บางครั้งคำตรัสของพระเยซูก็ฟังไม่ง่ายนัก ยิ่งกว่านั้นยังรบกวนจิตใจของเราอย่างมาก ตัวอย่างเช่นใน ลูกา 6:20-25 ในที่นี้พระองค์ตรัสว่า คนที่ยากจน คนที่หิวโหย คนที่ร้องไห้ ว่าเป็น “ผู้ที่มีความสุข” คำตรัสเช่นนี้ทำให้คนที่ยากจน หิวโหย ร้องไห้ มีความมั่นใจว่าเขาจะได้รับความสุข แต่ถ้าเราไม่เป็นคนที่ขัดสน หิวโหย หรือ ร้องไห้ล่ะชีวิตจะเป็นเช่นไร? คำพูดต่อจากนี้ยิ่งรบกวนจิตใจของเรามากขึ้นว่า คนที่มั่งมี คนที่อิ่มท้อง คนที่หัวเราะ พระเยซูบอกว่า “วิบัติ” จะเกิดขึ้นกับคนกลุ่มหลังนี้

[20] พระองค์ทอดพระเนตรดูพวกสาวกของพระองค์แล้วตรัสว่า
ท่านทั้งหลายที่ยากจนก็เป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของท่าน
[21] ท่านทั้งหลายที่อดอยากเวลานี้ก็เป็นสุข เพราะว่าท่านจะได้อิ่มท้อง 
ท่านทั้งหลายที่ร้องไห้เวลานี้ก็เป็นสุข เพราะว่าท่านจะได้หัวเราะ

[24] แต่วิบัติแก่พวกท่านที่ร่ำรวย เพราะว่าท่านได้รับความสะดวกสบายแล้ว
[25] วิบัติแก่พวกท่านที่อิ่มท้องในเวลานี้ เพราะว่าท่านจะอดอยาก วิบัติแก่พวกที่หัวเราะในเวลานี้ เพราะว่าท่านจะเป็นทุกข์และร้องไห้ (ลูกา 6:20-21, 24-25 มตฐ.)

คำตรัสเช่นนี้ของพระเยซูรบกวนจิตใจของเราอย่างแน่นอน เพราะเป็นการ “เขย่า” รากฐานความคิดความเชื่อของคนในยุคของพระองค์และในยุดปัจจุบันของเราด้วย เพราะเราเข้าใจว่า ความมั่งคั่ง การมีอาหารการกินอย่างสมบูรณ์   และการมีชีวิตที่สุขสะดวกสบายเป็นเครื่องชี้ถึงพระพรของพระเจ้าในคนที่มีชีวิตเช่นนั้น เป็นสิ่งที่คนในโลกนี้โหยหาชีวิตแบบนี้

แต่พระเยซูคริสต์กลับมีฐานเชื่อกรอบคิดที่กลับหัวกลับหาง กลับตาลปัตร เป็นคำตรัสที่ “คว่ำค่านิยม” ของสังคมโลก เป็นคำตรัสที่ “พลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน”

คำตรัสของพระเยซูคริสต์เป็นข่าวดีสำหรับคนกลุ่มแรก เพราะโอกาสดีดีรออยู่ข้างหน้า แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับคนที่มั่งคั่ง ร่ำรวย มั่งมี ศรีสุขแน่

ผมเชื่อว่า คริสตชนเราโดยเฉพาะคนที่เป็นคริสตชนมาแต่อ้อนแต่ออดเราควรใคร่ครวญถึงคำตรัสของพระเยซูที่รบกวนจิตใจของเรา เพราะเราเติบโตในครอบครัวคริสตชน เรามีความสุขสะดวกสบายในความเชื่อของเรา เวลาอ่านพระคัมภีร์ก็มักเลือกเอาข้อพระคัมภีร์ที่ให้ความมั่นใจในวิถีการดำเนินชีวิตของเราที่เป็นอยู่ และมักเมินข้ามคำตรัสสอนของพระคริสต์ที่ท้าทายวิถีการดำเนินชีวิตประจำวันของเราที่เข้าใจยาก เราจึงไม่ได้ใคร่ครวญคำตรัสของพระเยซูคริสต์ที่รบกวนใจของเรา และนี่จะเป็นอุปสรรคที่ทำให้ชีวิตการเป็นสาวกพระคริสต์ของเราสะดุด ติดขัด หรือล้มลง ทำให้การติดตามพระคริสต์ของเราเชื่องช้าลง และ อาจจะนำไปถึงการย่างก้าวติดตามอย่างเชื่องช้าไปเป็นการ “คลาน” ตามพระเยซูคริสต์อย่างห่างไกล

ในวันนี้ เมื่อเราอ่านคำตรัสของพระคริสต์ที่รบกวนใจของเราอย่างที่เราอ่านจากพระกิตติคุณลูกา ให้เราเปิดชีวิตรับการรบกวนจากคำตรัสของพระองค์ ให้เราใคร่ครวญใส่ใจพิจารณาคำตรัสที่รบกวนนี้ เป็นคำตรัสที่ท้าทายต่อชีวิตวันนี้ของเรา

ให้เราบอกกับจิตใจของตนเองว่า ให้เปิดชีวิตจิตใจของเรารับเอาคำตรัสที่ท้าทายของพระเยซูคริสต์ และเราอาจจะถามพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ประสงค์ให้ข้าพระองค์ได้ยินอะไรจากคำตรัสของพระองค์ในวันนี้?”  พระองค์กำลังตรัสอะไรกับข้าพระองค์?” 

บางครั้ง คำตรัสของพระเยซูให้การปลอบประโลมใจ หรือ สร้างแรงบันดาลใจเป็นพิเศษแก่เรา แต่บางครั้งกลับเป็นคำพูดที่รบกวนจิตใจของเรา เป็นคำตรัสที่ท้าทายความสุขสะดวกสบายในชีวิตของเรา และ การพึ่งตนเองของเรา   คำตรัสของพระเยซูดึงความสนใจของเราให้กลับมาพิจารณาถึงวิถีการดำเนินชีวิตของเรา ฐานคิดการมีชีวิตที่รับใช้ตนเอง การที่พระองค์ตรัสรบกวนจิตใจของเราเพราะพระองค์ต้องการให้เรามีประสบการณ์ชีวิตกับความสุขที่แท้จริง และ พบกับความหมายที่แท้จริงที่มีชีวิตอยู่ในทุกวันนี้ ที่มิใช่มีชีวิตอยู่เพื่อนตนเอง แต่มีชีวิตเพื่อแผ่นดินของพระเจ้า

ใคร่ครวญอธิษฐาน

องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์รู้แน่แก่ใจว่า พระองค์ประสงค์ให้เกิดสิ่งดีดีในชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เชื่อว่าพระองค์ประสงค์ให้ข้าพระองค์มีชีวิตที่ชื่นชมยินดีในแผ่นดินของพระองค์ คำตรัสที่รบกวนจิตใจและชีวิตของข้าพระองค์ พระองค์ไม่ได้ประสงค์เพื่อสร้างความวุ่นวายสับสนในชีวิต แต่พระองค์ประสงค์นำข้าพระองค์ก้าวเดินในวิถีชีวิตใหม่ โปรดช่วยข้าพระองค์ ที่จะไม่เมินห่างคำตรัสที่รบกวนจิตใจจากพระองค์ แต่กลับช่วยให้ข้าพระองค์ไว้วางใจว่า โดยพระคุณของพระองค์ พระองค์ประสงค์ที่จะสร้างชีวิตข้าพระองค์ขึ้นใหม่ อาเมน”

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น