23 กันยายน 2563

จะรณรงค์การถวาย...อย่างไร?

ถ้าท่านต้องการรณรงค์การถวายทรัพย์ในคริสตจักร ที่ผ่านมาท่านและคริสตจักรทำอะไรบ้าง? ทำอย่างไรบ้าง? รณรงค์จากใคร? และ ใครเป็นผู้รณรงค์บ้าง? ทำไมถึงทำเช่นนั้น?

เมื่อเรารณรงค์การถวายทรัพย์เพื่อพันธกิจคริสตจักร เรารณรงค์ขอให้สมาชิกถวายเงิน ๆ ทอง ๆ ใช่ไหม? หรือ เรารณรงค์เกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ อะไรบ้าง?

มุมมองรณรงค์การถวายทรัพย์ในคริสตจักร
ต้องทำในสิ่งที่ไม่ได้เรียนมา!

ศิษยาภิบาลหลายท่านมีความรู้สึก “ลำบากใจ” ที่จะต้องบอกหรือกระตุ้นให้สมาชิกช่วยกันถวายทรัพย์เพื่อใช้ในการทำพันธกิจของพระเจ้าในคริสตจักร และศิษยาภิบาลหลายท่านพูดว่า เขาเรียนในพระคริสต์ธรรม 4 ปี 7 ปี ไม่เคยเรียนเรื่องการรณรงค์การถวายทรัพย์ในคริสตจักร แต่เป็นเรื่องที่ศิษยาภิบาลทุกคนต้องทำจริงในการทำงานในคริสตจักรท้องถิ่น

รากฐานการถวายของสมาชิกอยู่ที่ไหน?

เมื่อคริสตจักร หรือ ศิษยาภิบาล และ ธรรมกิจคริสตจักรต้องการรณรงค์ให้สมาชิกถวายทรัพย์เพื่อพันธกิจที่คริสตจักรต้องทำ เรามักเริ่มต้นจากคำถามว่า “เราจะรณรงค์การถวายทรัพย์อย่างไร?” เรามักเริ่มต้นด้วยการรณรงค์ขอให้สมาชิกถวายเงิน ๆ ทอง ๆ ใช่ไหม?

เรามักมองข้ามมุมมองที่สำคัญกว่านี้คือ อะไรที่ทำให้สมาชิกแต่ละคนสำนึกและเต็มใจถวายทรัพย์เพื่อพันธกิจของคริสตจักร? นี่เป็นประการแรก และมุมมองที่สำคัญเท่า ๆ กันนี้ประการที่สองคือ “ทำไมสมาชิกแต่ละคนจะต้องถวายทรัพย์เพื่อพันธกิจของคริสตจักร?”

ทั้งสองประการที่สำคัญนี้ มีความสัมพันธ์กัน กล่าวคือ การที่สมาชิกแต่ละคนจะถวายทรัพย์เพื่อพันธกิจคริสตจักรนั้น   มี 4 สิ่งที่สำคัญคือ

     (1) สมาชิกจะต้องมีรากฐานทางความเชื่อที่แข็งแรงมั่นคง

     (2) สมาชิกจะต้องเติบโตขึ้นในการดำเนินชีวิตสาวกพระคริสต์

     (3) สมาชิกในคริสตจักรต้องมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

     (4) สมาชิกต้องมีจิตสำนึกในพระคุณของพระเจ้าต้องการที่จะขอบพระคุณพระองค์

ทั้ง 4 ประการข้างต้นนี้เป็นเหมือนเหรียญที่มีสองด้าน ด้านหัวและด้านก้อย ที่มีความสัมพันธ์ที่ส่งผลกระทบต่อกันและกัน ตัวอย่างเช่น การที่สมาชิกคนใดคนหนึ่งที่จะถวายทรัพย์เขาต้องมีรากฐานทางความเชื่อศรัทธาว่าชีวิตที่เขาเป็นอยู่นี้เพราะพระเจ้าประทานให้ ดังนั้น เขาจึงถวายเพราะสำนึกในพระคุณของพระเจ้า แต่เมื่อเขาถวายทรัพย์เพื่อพันธกิจแล้ว การที่เขามีส่วนร่วมในการทำพันธกิจคริสตจักร ทำให้เขาเกิดประสบการณ์ และ การเรียนรู้ถึงพระราชกิจของพระเจ้าที่เขามีส่วนร่วม ทำให้เขาหยั่งรากความเชื่อลึกลงกว่าเดิมอีก

ดังนั้นการรณรงค์การถวายทรัพย์จึงต้องอาศัยรากฐานทางความเชื่อ และ การมีชีวิตที่เติบโตขึ้นของสมาชิกแต่ละคน แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นการสร้างเสริมความเชื่อของสมาชิกให้หยั่งรากลึกลงไปกว่าเดิมด้วย

[1] การรณรงค์การถวายทรัพย์กับฐานรากทางความเชื่อ

ตามที่กล่าวแล้วว่า การที่สมาชิกคนใดจะถวายทรัพย์เพื่อพันธกิจคริสตจักร สมาชิกคนนั้นต้องมีความเชื่อที่หยั่งรากลึกในระดับหนึ่ง ดังนั้น ถ้าคริสตจักรคาดหวังจะรณรงค์ให้สมาชิกถวายทรัพย์เพื่อพันธกิจคริสตจักรจะต้องใส่ใจในการเสริมสร้างความเชื่อในสมาชิกก่อน

ส่วนการรณรงค์การถวายทรัพย์มิใช่เพื่อเราจะได้รับเงินถวายตามที่เราต้องการเท่านั้น แต่การรณรงค์ให้สมาชิกถวายเพื่อที่จะหนุนเสริมให้สมาชิกแต่ละคนหยั่งรากความเชื่อของตนลึกลงไปกว่าเดิมที่เป็นอยู่ เมื่อเราเชิญชวนท้าทายให้สมาชิกถวายทรัพย์ พระเจ้าจะยืดขยายพื้นที่ชีวิตความเชื่อของเขาออก และ หยั่งรากความรักเมตตาของเขาให้กว้างไกลและลึกลงกว่าเดิม

[2] รณรงค์การถวาย รณรงค์การเติบโตในชีวิตสาวกพระคริสต์

การที่คริสตจักรรณรงค์การถวายทรัพย์เพื่อทำพันธกิจ พันธกิจที่คริสตจักรจะทำต้องเป็นพันธกิจที่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่ประสงค์ทำผ่านคริสตจักรของเราในเวลานั้น ๆ สิ่งนี้เราเรียกว่า “นิมิตของคริสตจักร” สุภาษิต 29:18 กล่าวชัดเจนว่า “ที่ใด ๆ ที่ไม่มีนิมิต (หมายถึงการสำแดงจากพระเจ้า) ประชาชนก็พินาศ...” (ไทย KJV)

เราท่านต่างตระหนักชัดว่า เรารณรงค์ถวายทรัพย์เพื่อสร้างอาคารโบสถ์ เพื่อใช้เป็นที่เสริมสร้างชีวิตสาวกพระคริสต์ให้เติบโตขึ้น เราไม่ได้คาดหวังที่จะให้อาคารเติบโตขึ้น แต่เราคาดหวังสมาชิกแต่ละคนจะต้องเติบโตขึ้นในชีวิตการเป็นสาวกพระคริสต์

หลายคริสตจักรเมื่อเริ่มต้นไม่มีอาคารโบสถ์แต่มีผู้เชื่อเพิ่มมากขึ้นและแต่ละคนเติบโตขึ้นในชีวิตสาวกพระคริสต์   และสมาชิกที่เติบโตขึ้นนั้นเองที่จะเป็นผู้สร้างอาคารโบสถ์ให้ขยายพื้นที่ขึ้นถ้าเป็นความจำเป็น

ดังนั้น การรณรงค์ถวายทรัพย์เพื่อทำพันธกิจคริสตจักรเป็นกระบวนการเสริมสร้างให้ชีวิตของสมาชิกเติบโตขึ้นในการเป็นสาวกของพระคริสต์เป็นเป้าหมายแรก ส่วนการจะได้ทรัพย์สินเงินทองที่ถวายใช้ทำพันธกิจเป็นเป้าหมายรองที่มีตามมา

[3] รณรงค์การถวายทรัพย์ เพื่อเสริมสร้างสามัคคีธรรมและเอกภาพของชุมชนคริสตจักร

การรณรงค์การถวายทรัพย์กับสามัคคีธรรมเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนเคียงคู่กันไป พระเยซูคริสต์สอนว่า “ทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน ใจของท่านก็อยู่ที่นั่น” (มัทธิว 6:21) เมื่อสมาชิกคริสตจักรร่วมสามัคคีธรรมในการถวายทรัพย์ เขากำลังเอาจิตใจของเขามารวมในที่เดียวกัน ทำให้เขาทุ่มเทชีวิตในพันธกิจที่เขาร่วมกันถวายและร่วมกันทำ และการรณรงค์การถวายทรัพย์คือเครื่องมือที่รณรงค์ให้เกิดสามัคคีธรรมและความเป็นเอกภาพในชีวิตคริสตจักรของพระเยซูคริสต์

เคล็ดลับประการหนึ่งของการรณรงค์การถวายทรัพย์เพื่อพันธกิจคริสตจักรคือการรณรงค์ในกลุ่มเล็ก คนในกลุ่มเล็กที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมาปรึกษาพูดคุยและวางแผนว่าแต่ละคนจะมีส่วนร่วมในสามัคคีธรรม และ เป็นหนึ่งเดียวกันในการรณรงค์การถวายทรัพย์เพื่อพันธกิจคริสตจักรอย่างไร

[4] การรณรงค์เป็นการสำนึกถึงพระคุณของพระเจ้า และ ขอบพระคุณพระองค์

ให้การรณรงค์การถวายของเราเป็นการรณรงค์ในการขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระพรที่มีตลอดชีวิตที่ผ่านมา และการรณรงค์การถวายทรัพย์เป็นการสร้างเสริมความเชื่อและความไว้วางใจในพระคุณความรักเมตตาของพระองค์ที่มีต่อมนุษยชาติ 

จากความสำนึกในพระคุณของพระเจ้า ให้เราเติบโตขึ้นก้าวไปสู่การมีส่วนร่วมในพระราชกิจแห่งพระเมตตาคุณของพระเจ้าที่มีต่อคนอื่น ๆ มิใช่เพียงคริสตจักรมี “นิมิต” ในการร่วมสานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์เท่านั้น แต่คริสตจักรของพระคริสต์จะต้อง “ให้ชีวิตของตน” เพื่อสังคมโลกจะได้มีชีวิตใหม่ในพระเยซูคริสต์ อย่างที่พระองค์ได้ทำเป็นเยี่ยงอย่าง

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น