เมื่ออธิษฐานในยามชีวิตวิกฤติ เราแนะนำพระเจ้า หรือ ขอพระเจ้าทรงนำและชี้นำ?
“ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่
ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์
ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก”
(มัทธิว 6:10 มตฐ.)
อธิษฐาน...เราขอตามใจใคร?
เราท่านคริสตชนต่างรู้ว่า เมื่อเราอธิษฐานเราทูลขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นอย่างนั้นในบนแผ่นดินโลกนี้ แต่เราคงต้องยอมรับว่าบางครั้งหรือบ่อยครั้งเราอธิษฐานทูลขอให้พระเจ้าทำให้สำเร็จและเป็นไปตาม “ใจปรารถนาของเรา” แต่กลับมิใช่ตามน้ำพระทัยของพระองค์ เราต่างรู้ว่า น้ำพระทัยของพระเจ้าคือ ให้พระนามของพระเยซูคริสต์ได้รับการยกย่อง ให้ชีวิตของเราเติบโตขึ้นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวัน เพื่อเราจะนำเอาข่าวดี(พระกิตติคุณ)ของพระเยซูคริสต์ไปถึงทั้งโลก (มัทธิว 28:19-20; กิจการ 1:8) และร่วมในพระราชกิจแห่งการสร้างโลกใหม่ที่พระคริสต์ได้เริ่มต้นไว้ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า บางครั้งเราอธิษฐานขอให้พระเจ้าทำให้สำเร็จตามความต้องการของเรา มิใช่สำเร็จตามพระประสงค์ของพระองค์
เราทูลขอต่อพระเจ้า เหมือนอธิษฐานขอต่อผู้วิเศษที่จะทำตามสิ่งที่เราขอหรือเปล่า? เรามักลืมตัวอธิษฐานให้พระเจ้าทำตามสิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า? แทนที่เราจะอธิษฐานแสวงหาน้ำพระทัย/พระประสงค์ของพระเจ้าที่มีในชีวิตของเราบนโลกใบนี้
พระเยซูคริสต์เป็นส่วนหนึ่งในพระประสงค์ของพระเจ้าพระบิดา
อย่างน้อยในพระคัมภีร์เราพบสองครั้งว่า พระเยซูคริสต์อธิษฐานทูลขอให้พระบิดาเลื่อนถ้วย(แห่งการทนทุกข์และความตายบนกางเขน)ออกไปจากพระองค์ (ดู มัทธิว 26:39, 42) แต่เราเห็นชัดเจนว่า พระเยซูยังยืนหยัดให้ทุกอย่างเป็นไปตามพระประสงค์ของพระบิดา
การที่เราทูลขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์มิได้หมายความว่า เราไม่ต้องทำอะไร ให้พระบิดาทำตามพระประสงค์ของพระองค์ ในเหตุการณ์นี้พระเยซูคริสต์ต้อง “ดื่มจากถ้วย” แห่งความทุกข์และความตาย พระเยซูยังต้องรับการเยาะเย้ย สบประมาท ดูหมิ่น ทำให้ขายหน้า ทำให้เสียเกียรติ ถูกทรมาน ถูกตรึงบนกางเขน และในที่สุดถูกฆ่าจนสิ้นชีวิต
พระเยซูรู้ว่าพระองค์จะต้องได้รับการกระทำอย่างไร และนั่นมิใช่สิ่งที่จะรับได้ง่าย ๆ ดังนั้นพระองค์จึงอธิษฐานทูลขอต่อพระบิดาว่า “ถ้าเป็นไปได้ขอให้...” “ถ้วยแห่งความทุกข์และความตาย” เลื่อนไปจากพระองค์ พระองค์ทูลอธิษฐานเช่นนี้อย่างน้อยสองครั้ง แต่สิ่งสำคัญยิ่งคือ พระเยซูคริสต์ยังคงยืนหยัดให้ทุกอย่างต้องสำเร็จไปตามพระประสงค์ของพระองค์ มิใช่ให้ทุกอย่างเป็นไปตามความประสงค์ของตนเอง (มัทธิว 26:39, 42)
หลังจากที่พระเยซูอธิษฐานเช่นนั้น พระองค์ก็ยังต้องถูกตรึงที่กางเขน แสดงให้เห็นถึงพระประสงค์ของพระบิดาในเรื่องนี้แน่ชัดขึ้น ถ้าเช่นนั้นหมายความว่าเมื่อเราอธิษฐานพระเจ้าทรงเสริมพลังชีวิตของเราให้ก้าวไปตามแผนการของพระองค์อย่างมั่นคง เด็ดเดี่ยวตามพระประสงค์ของพระเจ้า และนั่นคือชีวิตของเราที่มีส่วนร่วมในแผนการของพระเจ้า
อธิษฐานและปฏิบัติการ
เรารู้ว่า เราต้องอธิษฐานให้ทุกสิ่งให้สำเร็จตามพระประสงค์ของพระเจ้า นั่นมิได้ทำให้เราไม่ต้องทำหรือรับผิดชอบอะไรต่อไป ตัวอย่างเช่น เรากำลังหางาน เราอธิษฐานทูลขอให้พระเจ้าช่วยให้เรามีงานทำและเป็นงานที่เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ แต่เรายังต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการการหางานนั้น เราต้องลุกขึ้นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัว เตรียมเอกสารประวัติของตนสำหรับสมัครงาน ดูโฆษณาเกี่ยวกับงานที่ต้องการคนทำ แล้วก็ออกไปสมัครงาน
เราจะไม่เอาแต่อธิษฐานทูลขอให้พระเจ้าช่วยหางานสำหรับเรา และในเวลาเดียวกันเราก็จะไม่พึ่งความสามารถของตนเองในการหางานด้วยตนเองเท่านั้น
เมื่อเราอธิษฐาน เราทูลขอหรือขอให้(แนะนำ)พระเจ้าทำในสิ่งต่าง
ๆ หรือเปล่า? หรือเราอธิษฐานทูลขอพระเจ้าว่า
ขอทรงช่วยให้เราสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้คำอธิษฐานของเราได้รับคำตอบตามพระประสงค์จากพระเจ้า?
ภาวนาธิษฐาน
พระเจ้าพระบิดา โปรดยกโทษข้าพระองค์ที่บ่อยครั้งอธิษฐานต่อพระองค์อย่างเห็นแก่ตัว ที่มุ่งเน้นที่ความปรารถนา และ ความต้องการของข้าพระองค์เอง มิใช่การอธิษฐานเพื่อแสวงหาพระประสงค์ของพระองค์ ข้าพระองค์ตระหนักชัดว่า ข้าพระองค์ต้องรับผิดชอบและกระทำในส่วนของข้าพระองค์ ด้วยความไว้วางใจพระองค์ต่อผลที่จะเกิดขึ้น ข้าพระองค์อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น