09 กันยายน 2563

อธิษฐานในยามวิกฤติชีวิต

เมื่ออธิษฐานในยามชีวิตวิกฤติ เราแนะนำพระเจ้า หรือ ขอพระเจ้าทรงนำและชี้นำ?

“ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์  
ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก” (มัทธิว 6:10 มตฐ.)

อธิษฐาน...เราขอตามใจใคร?

เราท่านคริสตชนต่างรู้ว่า เมื่อเราอธิษฐานเราทูลขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นอย่างนั้นในบนแผ่นดินโลกนี้ แต่เราคงต้องยอมรับว่าบางครั้งหรือบ่อยครั้งเราอธิษฐานทูลขอให้พระเจ้าทำให้สำเร็จและเป็นไปตาม “ใจปรารถนาของเรา” แต่กลับมิใช่ตามน้ำพระทัยของพระองค์ เราต่างรู้ว่า น้ำพระทัยของพระเจ้าคือ ให้พระนามของพระเยซูคริสต์ได้รับการยกย่อง ให้ชีวิตของเราเติบโตขึ้นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวัน   เพื่อเราจะนำเอาข่าวดี(พระกิตติคุณ)ของพระเยซูคริสต์ไปถึงทั้งโลก (มัทธิว 28:19-20; กิจการ 1:8) และร่วมในพระราชกิจแห่งการสร้างโลกใหม่ที่พระคริสต์ได้เริ่มต้นไว้ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า บางครั้งเราอธิษฐานขอให้พระเจ้าทำให้สำเร็จตามความต้องการของเรา มิใช่สำเร็จตามพระประสงค์ของพระองค์  

เราทูลขอต่อพระเจ้า เหมือนอธิษฐานขอต่อผู้วิเศษที่จะทำตามสิ่งที่เราขอหรือเปล่า? เรามักลืมตัวอธิษฐานให้พระเจ้าทำตามสิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า? แทนที่เราจะอธิษฐานแสวงหาน้ำพระทัย/พระประสงค์ของพระเจ้าที่มีในชีวิตของเราบนโลกใบนี้

พระเยซูคริสต์เป็นส่วนหนึ่งในพระประสงค์ของพระเจ้าพระบิดา

อย่างน้อยในพระคัมภีร์เราพบสองครั้งว่า พระเยซูคริสต์อธิษฐานทูลขอให้พระบิดาเลื่อนถ้วย(แห่งการทนทุกข์และความตายบนกางเขน)ออกไปจากพระองค์ (ดู มัทธิว 26:39, 42) แต่เราเห็นชัดเจนว่า พระเยซูยังยืนหยัดให้ทุกอย่างเป็นไปตามพระประสงค์ของพระบิดา

การที่เราทูลขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์มิได้หมายความว่า เราไม่ต้องทำอะไร ให้พระบิดาทำตามพระประสงค์ของพระองค์ ในเหตุการณ์นี้พระเยซูคริสต์ต้อง “ดื่มจากถ้วย” แห่งความทุกข์และความตาย   พระเยซูยังต้องรับการเยาะเย้ย สบประมาท ดูหมิ่น ทำให้ขายหน้า ทำให้เสียเกียรติ ถูกทรมาน ถูกตรึงบนกางเขน   และในที่สุดถูกฆ่าจนสิ้นชีวิต

พระเยซูรู้ว่าพระองค์จะต้องได้รับการกระทำอย่างไร และนั่นมิใช่สิ่งที่จะรับได้ง่าย ๆ ดังนั้นพระองค์จึงอธิษฐานทูลขอต่อพระบิดาว่า “ถ้าเป็นไปได้ขอให้...” “ถ้วยแห่งความทุกข์และความตาย” เลื่อนไปจากพระองค์ พระองค์ทูลอธิษฐานเช่นนี้อย่างน้อยสองครั้ง แต่สิ่งสำคัญยิ่งคือ พระเยซูคริสต์ยังคงยืนหยัดให้ทุกอย่างต้องสำเร็จไปตามพระประสงค์ของพระองค์ มิใช่ให้ทุกอย่างเป็นไปตามความประสงค์ของตนเอง (มัทธิว 26:39, 42)

หลังจากที่พระเยซูอธิษฐานเช่นนั้น พระองค์ก็ยังต้องถูกตรึงที่กางเขน แสดงให้เห็นถึงพระประสงค์ของพระบิดาในเรื่องนี้แน่ชัดขึ้น ถ้าเช่นนั้นหมายความว่าเมื่อเราอธิษฐานพระเจ้าทรงเสริมพลังชีวิตของเราให้ก้าวไปตามแผนการของพระองค์อย่างมั่นคง เด็ดเดี่ยวตามพระประสงค์ของพระเจ้า และนั่นคือชีวิตของเราที่มีส่วนร่วมในแผนการของพระเจ้า  

อธิษฐานและปฏิบัติการ

เรารู้ว่า เราต้องอธิษฐานให้ทุกสิ่งให้สำเร็จตามพระประสงค์ของพระเจ้า นั่นมิได้ทำให้เราไม่ต้องทำหรือรับผิดชอบอะไรต่อไป ตัวอย่างเช่น เรากำลังหางาน เราอธิษฐานทูลขอให้พระเจ้าช่วยให้เรามีงานทำและเป็นงานที่เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ แต่เรายังต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการการหางานนั้น เราต้องลุกขึ้นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัว  เตรียมเอกสารประวัติของตนสำหรับสมัครงาน ดูโฆษณาเกี่ยวกับงานที่ต้องการคนทำ แล้วก็ออกไปสมัครงาน

เราจะไม่เอาแต่อธิษฐานทูลขอให้พระเจ้าช่วยหางานสำหรับเรา และในเวลาเดียวกันเราก็จะไม่พึ่งความสามารถของตนเองในการหางานด้วยตนเองเท่านั้น

เมื่อเราอธิษฐาน เราทูลขอหรือขอให้(แนะนำ)พระเจ้าทำในสิ่งต่าง ๆ หรือเปล่า? หรือเราอธิษฐานทูลขอพระเจ้าว่า ขอทรงช่วยให้เราสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้คำอธิษฐานของเราได้รับคำตอบตามพระประสงค์จากพระเจ้า?

ภาวนาธิษฐาน

พระเจ้าพระบิดา โปรดยกโทษข้าพระองค์ที่บ่อยครั้งอธิษฐานต่อพระองค์อย่างเห็นแก่ตัว ที่มุ่งเน้นที่ความปรารถนา และ ความต้องการของข้าพระองค์เอง มิใช่การอธิษฐานเพื่อแสวงหาพระประสงค์ของพระองค์ ข้าพระองค์ตระหนักชัดว่า ข้าพระองค์ต้องรับผิดชอบและกระทำในส่วนของข้าพระองค์ ด้วยความไว้วางใจพระองค์ต่อผลที่จะเกิดขึ้น   ข้าพระองค์อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น