อ่าน เอเฟซัส 2:14-18
14เพราะพระองค์เองทรงเป็นสันติสุข(สันติภาพ)ของเรา ผู้ทรงทำให้สองพวกกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
และทรงทำลายสิ่งกีดขวางคือกำแพงแห่งความเกลียดชังที่กีดกั้นลง
15โดยทรงล้มเลิกบทบัญญัติทั้งหมดของชาวยิว ซึ่งประกอบด้วยข้อบังคับและกฎระเบียบต่างๆด้วยพระกายของพระองค์
จุดประสงค์ของพระองค์คือเพื่อยุบสองฝ่ายและสร้างขึ้นใหม่เป็นหนึ่งเดียวในพระองค์ เช่นนั้นแหละจึงทรงทำให้มีสันติสุข
16และในกายเดียวกันนี้ทั้งสองพวกจึงกลับคืนดีกับพระเจ้าโดยทางกางเขน ซึ่งพระองค์ใช้ทำลายความเป็นศัตรูกันให้หมดสิ้นไป (ข้อ 14-16 อมตธรรม ในวงเล็บ มตฐ)
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 1987 เราท่านได้ชมข่าวทางโทรทัศน์ถึงการทุบกำแพงเบอลินที่ขวางกั้นแบ่งแยกระหว่างเยอรมันตะวันออกจากตะวันตก
ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาได้กล่าวต่อหน้าฝูงชนกว่า 40,000 คนที่อยู่ที่นั่น
และประธานาธิบดีกอร์บาชอฟ และ ประธานธิบดีเรแกนประกาศว่า “ให้พังทลายกำแพงนี้ลง!”
พระเยซูคริสต์เสด็จมากระทำให้เกิดสันติภาพระหว่างพวกยิวและพวกต่างชาติ
พระองค์จึงต้องทำลายกำแพงที่ขวางกั้นระหว่างคนสองพวกนี้ลง ตามที่เขียนไว้ในพระธรรมเอเฟซัส 2:14 ว่า
พระคริสต์ “ทรงทำลายสิ่งกีดขวางคือกำแพงแห่งความเกลียดชังที่กีดกั้นลง” จริงๆ แล้วกำแพงที่พระคริสต์ทรงทำลายลงนั้นเป็นกำแพงที่กีดขวางกั้นอะไรกันแน่?
นักพระคัมภีร์มองในสองความหมายที่ต่อเนื่องกัน
ในความหมายแรก สิ่งที่เป็นกำแพงขวางกั้นในที่นี้หมายถึงการแบ่งแยกพื้นที่ในพระมหาวิหารของยิว
ซึ่งแบ่งแยกชัดเจนว่าพื้นที่ใดสำหรับพวกยิวเท่านั้น คนที่ไม่ใช่ยิวห้ามเข้าเด็ดขาด ถ้าขืนเข้ามาด้วยความตั้งใจหรือพลั้งเผลอก็ตามจะต้องถูกนำไปเอาหินขว้างให้ตายตามบทบัญญัติของโมเสส คนที่ไม่ใช่ยิวเมื่อมาที่พระมหาวิหารจะต้องอยู่ในพื้นที่สำหรับคนต่างชาติเท่านั้น ในที่นี้ชี้ให้เห็นว่า “กำแพง”
ที่ว่านี้เป็นพลังแห่งการแบ่งแยกอย่างรุนแรงในความเป็นยิวและคนต่างชาติ รุนแรงถึงขนาดคอขาดบาดตายเลยทีเดียว
แรงยิ่งกว่านั้นเป็นการที่พวกยิวกีดกันขัดขวางไม่ให้คนต่างชาติเข้าถึงพระเจ้า
ในอีกความหมายหนึ่ง
คำกล่าวถึงกำแพงที่แบ่งแยกความเป็นยิวกับความเป็นคนต่างชาตินี้เป็นการกล่าวอ้างบ่งชี้ถึง
โทราห์ บทบัญญัติของพวกยิว
นักเขียนยิวท่านหนึ่งเขียนถึงความจริงในเรื่องนี้ว่า โมเสสเป็นผู้ที่ตั้งรั้วรอบขอบชิดเพื่อปกป้องความเป็นยิว
เป็นปราการที่ยากจะรื้อพังทลายลงได้
เป็นกฎเหล็กเป็นกำแพงเหล็กที่ปกป้องรักษาไม่ให้คนยิวต้องมลทินด่างพร้อยจากพวกคนต่างชาติ
(Letter of Aristear 139).
ความจริงปรากฏว่า
การแบ่งแยก การกีดกัน การขวางกั้นมิได้เป็นเพียงกำแพงการแบ่งพื้นที่พระมหาวิหารในบทบัญญัติของโมเสส
เท่านั้น แต่กลับซึมลึกหยั่งรากเกาะยึดในจิตใจ จิตสำนึก
และจิตวิญญาณของยิวด้วย
กลายเป็นการเหยียดเผ่าพันธุ์
เกลียดชัง ไม่คบค้าพูดคุยด้วยถ้าไม่จำเป็น จนมีใจที่เป็นปรปักษ์เป็นศัตรูกัน
พระธรรมเอเฟซัสตอนนี้กล่าวว่า
15...(พระเยซูคริสต์)ทรงล้มเลิกบทบัญญัติทั้งหมดของชาวยิว ซึ่งประกอบด้วยข้อบังคับและกฎระเบียบต่างๆ ด้วยพระกายของพระองค์
จุดประสงค์ของพระองค์คือเพื่อยุบสองฝ่ายและสร้างขึ้นใหม่เป็นหนึ่งเดียวในพระองค์ เช่นนั้นแหละจึงทรงทำให้มีสันติสุข
16และในกายเดียวกันนี้ทั้งสองพวกจึงกลับคืนดีกับพระเจ้าโดยทางกางเขน
ซึ่งพระองค์ใช้ทำลายความเป็นศัตรูกันให้หมดสิ้นไป
จึงเกิดชุมชนสาวกของพระคริสต์ รวมตัวขึ้นเรียกตนเองว่าคริสตจักร เป็นชุมชนของสาวกพระคริสต์ที่มิถูกจำกัดด้วยเผ่าพันธุ์แต่เป็นชุมชนสาวกพระคริสต์จากมนุษยชาติ เวลาผ่านไปจนถึงปัจจุบัน พวกเราในประเทศไทย
เกิดคำถามที่ท้าชวนเราต้องกลับมามองชุมชนคริสตจักรไทยเองว่า อะไรเป็น “กำแพง” ที่กีดกัน ขวางกั้นเราออกจากคริสตชนคนอื่นๆ บ้างในปัจจุบัน ตั้งแต่วัย
สถานภาพทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม
ชาติพันธุ์ สติปัญญา ความคิดที่แตกต่าง โลกทัศน์ที่ไม่เหมือนกัน ชีวะทัศน์คนละแนว ศาสนศาสตร์คนละค่าย เป็นคนละพวกคนละพรรคการเมืองในคริสตจักร มาจากต่างลัทธินิกายทั้งๆ ที่มีพระคริสต์องค์เดียวกัน
เลือกที่จะเป็นมิตรหรือสนิทกับคนที่เราชอบเท่านั้น
สิ่งที่คริสตจักรมิได้ตระหนักและรู้เท่าทันตนเองในพฤติกรรมนี้คือ คริสตจักรกำลังกีดกันและปิดกั้นมิให้ผู้คนเข้าถึงพระคริสต์ และปิดตนเองจากน้ำพระทัยของพระองค์ด้วย เพราะพระคริสต์ทรงทำลายกำแพงเหล่านั้นลงด้วยพระชนม์ชีพของพระองค์ แต่คริสตชนปัจจุบันกำลังก่อกำแพงในจิตใจขึ้นใหม่ มิเพียงกีดกันคนอื่นจากตนเท่านั้น แต่ขวางกั้นพระคริสต์จากชีวิตตนเองด้วย
ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญ
1. ท่านเคยมีประสบการณ์ หรือ
พบเห็นการรื้อกำแพงแห่งความเกลียดชังกันลงบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร?
เมื่อใด?
2. ในชีวิตของท่านเองปัจจุบันนี้ ยังมี “กำแพงแห่งความเกลียดชัง” ในชีวิตจิตใจอะไรบ้างที่ท่านต้องการขอให้พระคริสต์ทรงช่วยรื้อทำลายกำแพงนั้นลง?
3. ถ้าพระคริสต์ทรงรื้อทำลายกำแพงในชีวิตจิตใจของท่านลงแล้ว
ท่านคิดว่าท่านควรจะดำเนินชีวิตแบบไหนเช่นไรต่อไป?
ภาวนาใคร่ครวญ
พระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย
ผู้เปี่ยมด้วยพระทัยเมตตากรุณา
ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงรื้อทำลายกำแพงแห่งความเกลียดชังเดียดฉันท์ระหว่างพวกยิวและคนต่างชาติลง
และขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงรื้อกำแพงแห่งความเกลียดชังในปัจจุบันลงด้วย กำแพงที่ขวางกั้นตนเองจากคนอื่น เช่น จากคนในครอบครัว จากเพื่อนร่วมงาน จากชาติพันธุ์ที่มาอยู่ทำกินและทำงานในชุมชน จากการที่เป็นคนในคนละพรรคคนละพวก คนละสี
แบ่งแยกกีดกันกันเพราะคนละประเทศ
ข้าแต่พระเจ้ายังมีลักษณะการแบ่งแยกอื่นๆ อีกมากมาย และความจริงก็คือว่า กำแพงเดียวกันนี้ก็กีดกั้นตัวข้าพระองค์เองจากพระองค์ด้วย
ด้วยจิตใจที่ขวางกั้นจากกำแพงแห่งความเกลียดชังนี้เอง ที่ทวีแรงแห่งความเกลียดชังและความรุนแรง โปรดเมตตาข้าพระองค์ด้วยพระองค์เจ้าข้า ขอทรงรื้อถอนกำแพงเหล่านั้นที่กั้นข้าพระองค์ไว้ออกไป และโปรดสร้างข้าพระองค์ขึ้นใหม่ เพื่อพระองค์จะทรงใช้ข้าพระองค์ในพระราชกิจของพระองค์
ในการเสริมสร้างสันติภาพในคริสตจักรเพื่อเกิดสันติสุขในชุมชนนี้ และถ้าเป็นน้ำพระทัยของพระองค์ ข้าพระองค์ขอน้อมรับเข้าร่วมในกระบวนการรื้อถอนกำแพงแห่งความเกลียดชังในพระราชกิจของพระองค์ในโลกนี้ ด้วยการทรงนำจากพระองค์ และ
พระกำลังหนุนเสริมจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
อาเมน
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น